ศบค.รายงานผู้ป่วยโควิดใหม่ 3 ราย กลับมาจากอินเดีย ติดเชื้อในประเทศเป็น 0 ต่อเนื่อง 28 วัน ย้ำยังผ่อนคลายมาตรการไม่ได้ ผู้ป่วยรวม 3,151 ราย ทั่วโลกป่วยแล้ว 9 ล้านราย ญี่ปุ่นชมไทยคุมโควิดดี เพราะใช้มาตรการเข้มตั้งแต่อัตราป่วยยังน้อย
วันที่ 22 มิ.ย.63 นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) แถลงข่าวประจำวันว่า วันนี้มีผู้ป่วยโควิด-19 รายใหม่ จำนวน 3 ราย หายกลับบ้านเพิ่ม 4 ราย ไม่มีเสียชีวิตเพิ่มเติม ยอดผู้ป่วยสะสมรวม 3,151 ราย กลับบ้านรวม 3,022 ราย เสียชีวิตรวม 58 ราย ยังรักษาตัวใน รพ. 71 ราย สำหรับผู้ป่วยรายใหม่ทั้งหมดกลับมาจากต่างประเทศ คือ อินเดีย หญิงไทย อายุ 11 ปี 21 ปี และ 34 ปี เดินทางถึงไทยวันที่ 15 มิ.ย. เชื่อมโยงกับผู้ป่วย 1 ราย ที่เดินทางมาไฟลต์เดียวกันและเจอเชื้อวันที่ 18 มิ.ย.ที่ผ่านมา โดยทั้ง 3 รายเข้าพักในสถานกักกันที่รัฐจัดให้ จ.ชลบุรี ตรวจหาเชื้อวันที่ 20 มิ.ย. พบเชื้อ แต่ทุกรายไม่มีอาการ ทำให้ตัวเลขสะสมของอินเดีย เดินทาง 2,265 ราย พบยืนยัน 14 ราย
นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า ส่วนสถานการณ์ทั่วโลกติดเชื้อ 9.04 ล้านราย รายใหม่ในวันเดียวถึง 1.3 แสนราย ผู้ป่วยหนัก 5.4 หมื่นกว่าราย รักษาหาย 4.8 ล้านราย เสียชีวิต 4.7 แสนราย สหรัฐอเมริกา ยังคงเป็นอันดับ 1 คือ 2.3 ล้านราย บราซิล 1.08 ล้านราย รัสเซีย 5.84 แสนราย อินเดีย 4.26 แสนราย ซึ่งจะเห็นว่าเป็นคนละทวีปกันเลย ส่วนประเทศไทยอยู่อันดับ 92 ของโลก
นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า สื่อญี่ปุ่นชื่นชมไทยและวิเคราะห์ว่า ทำไมไทยถึงควบคุมโควิดได้ผล โดย นิกเคอิ เอเชียน รีวิว ได้เขียนบทความวิเคราะห์ระบุว่า การตัดสินใจใช้มาตรการเข้มงวดก่อนที่อัตราการแพร่ระบาดต่อวันจะพุ่งสูงเกิน 0.5 รายต่อแสนประชากร หากใช้มาตรการหลังจากนั้น จะมีโอกาสผู้ติดเชื้อแพร่ระบาดจนควบคุมไม่อยู่สูงขึ้น ซึ่งไทยใช้เมื่ออัตราผู้ติดเชื้ออยู่ที่ 0.02 ต่อแสนประชากร ซึ่งเราใช้มาตรการเข้มตั้งแต่แรก ทำให้ประสบความสำเร็จควบคุมการระบาดระลอกแรกได้ ขณะที่ยุโรปและอเมริกา ใช้มาตรการที่เข้มงวดช้ากว่ามาก เช่น อังกฤษ มีอัตราผู้ติดเชื้อ 0.76 รายต่อแสนประชากร นิวยอร์กเริ่มใช้เมื่ออัตราป่วยสูง 4.25 รายต่อแสนประชากร ทำให้การติดเชื้อเกิดขึ้นโดยง่ายและมีผู้ที่เสียชีวิตขึ้นจำนวนมาก
นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า การนำคนไทยตกค้างกลับประเทศ วันที่ 22 มิ.ย. จะมีคนไทยกลับมาจำนวน 429 คน ผ่านหลายประเทศ คือ สหรัฐอเมริกา (ผ่านญี่ปุ่น) 78 คน รัสเซีย 34 คน ออสเตรีย/ฮังการี 159 คน สิงคโปร์ 156 คน ไต้หวัน 2 คน วันที่ 23 มิ.ย. กลับมา 476 คน จาก เนปาล 10 คน ญี่ปุ่น 201 คน อินเดีย 185 คน และเวียดนาม 80 คน สำหรับวันที่ 24 มิ.ย. จะมา 4 เที่ยวบิน จากสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ อินโดนีเซีย ซูดาน/อียิปต์ และ อินเดีย
วันที่ 25 มิ.ย. 6 เที่ยวบิน จาก สหรัฐอเมริกาผ่านญี่ปุ่น สหรัฐอเมริกาผ่านเกาหลีใต้ บังกลาเทศ มาเลเซีย เนเธอร์แลนด์ อิหร่าน/อิรัก วันที่ 26 มิ.ย. มา 3 เที่ยวบิน จากสหราชอาณาจักร เกาหลีใต้ และฮ่องกง วันที่ 27 มิ.ย. มา 3 เที่ยวบิน จาก แอฟริกาใต้ สหรัฐอเมริกาผ่านเกาหลีใต้ และ ชิลี/เปรู/เนเธอร์แลนด์ วันที่ 28 มิ.ย. มา 4 เที่ยวบิน จาก บาห์เรน เนเธอร์แลนด์ ออสเตรเลีย และสิงคโปร์ และวันที่ 29 มิ.ย. มา 2 เที่ยวบิน จากสหรัฐอเมริการผ่านเกาหลีใต้ และคูเวต
นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า สำหรับการติดเชื้อในประเทศไทย ขณะนี้เป็น 0 ต่อเนื่องวันที่ 28 ซึ่งทำให้อุ่นใจขึ้น แต่ยังวางใจไม่ได้ เพราะประเทศต่างๆ ยังติดเชื้อมากกว่าแสนรายต่อวัน แม้จะเป็น 2 เท่าของการฟักเชื้อ 14 วัน ก็น่าไว้วางใจมากขึ้น แต่จะผ่อนคลายทุกเรื่องกลับไปเป็นปกติได้หรือไม่มาตรการยังไม่สามารถกลับไปได้ แม้จะมั่นใจในประเทศ แต่การนำเข้าของเชื้อแม้เพียง 1 คนก็จะเกิดผลต่อการติดเชื้อในระดับที่รุนแรงได้ ตอนนี้ยังไม่สามารถที่จะเกิดได้