“ณัฐวุฒิ” ระบุ เกมป่วน พปชร.มีเบื้องหลัง หวัง เขี่ย “4กุมาร” กระเด็นพ้นวงจรการเมือง เหตุทำเศรษฐกิจตกต่ำ จากสถานการณ์โควิด-19 เชื่อ เป็น แผนล้างบาง ของ “พี่น้อง3ป.” ส่ง “บิ๊กป้อม” รับหน้าเสื่อ นั่งเก้าอี้ หน.พปชร. พร้อมสลายกลุ่ม 3 มิตร
นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ แกนนำแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ หรือ นปช.กล่าวในรายการ ‘หัวใจไม่หยุด‘เต้น’’ เผยแพร่ทางแฟนเพจ ‘นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ’ และยูทูบ ‘นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ Official’ เมื่อวันที่ 9 มิ.ย. 63 ว่า ถึงสถานการณ์ ความขัดแย้งภายในพรรคพลังประชารัฐ ว่า สถานการณ์ยังคงพัฒนาต่อเนื่อง ล่าสุดท่าทีของ 4 กุมาร ดูเหมือนจะฝากความหวังไว้ที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี แม้แต่ คุณสุวิทย์ เมษินทรีย์ ซึ่งโพสต์ข้อความทำนองจะถอดใจ ยังให้สัมภาษณ์ทิ้งท้ายว่าสำหรับการจะตัดสินใจลาออกหรืออยู่ต่อ ขอให้ท่านนายกฯ เป็นผู้พิจารณา นี่คงเป็นความหวังเดียวของกลุ่ม 4 กุมาร ที่จะรับมือศึกนี้ได้ ทั้งที่หลายฝ่ายก็วิเคราะห์ตรงกันว่าสถานการณ์มาถึงวันนี้ ถ้าพล.อ.ประยุทธ์ ไม่รับรู้และไม่เห็นชอบด้วย ไม่มีทางเดินมาได้
18 กรรมการบริหารพร้อมใจยื่นใบลาออก พล.อ.ประวิตรแบะท่าจะเป็นหัวหน้าพรรค เรื่องอย่างนี้มีหรือพี่น้องป.ปลา เค้าจะไม่คุยกัน ดังนั้นทางเลือกของ 4 กุมาร คงเหลือไม่มาก สำหรับผมคิดว่าข่าวที่ออกมาประมาณว่าจะชวนกันลาออกเพื่อรักษาศักดิ์ศรี น่าจะเป็นทางที่เป็นไปได้มากที่สุดเพราะจะทู่ซี้อยู่ต่อรักษาให้ครบทุกเก้าอี้ คงเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้ พูดง่ายๆ ว่าถ้าเลือกศักดิ์ศรีก็ต้องทิ้งเก้าอี้ ถ้าเลือกเก้าอี้ก็จะไม่เหลือศักดิ์ศรีให้รักษา จะคิดว่ารักษารูปมวยไว้เผื่อได้อยู่ต่อบางเก้าอี้ บางคนอาจจะหลุดจากครม.ไป นั่นก็จะทำให้ 4 กุมารเดินบนถนนทางการเมืองอย่างไม่สง่างามอยู่ดี
คุณอุตตม คุณสนธิรัตน์ คุณสุวิทย์และคุณกอบศักดิ์ ต้องไม่เผลอใจคิดไปว่า ตัวเองเป็นคนเสียสละลาออกจากครม.ยุคคสช.มาเพื่อสร้างพรรคพลังประชารัฐ เมื่อสร้างบ้านเสร็จแล้วหลายต่อหลายคนเค้าเห็นด้วยชอบใจ จึงพากันย้ายเข้ามาอยู่ เพราะแท้ที่จริงท่านออกมารับงานสร้างบ้านตามแบบแปลน ตามพิมพ์เขียวที่เค้าวางไว้เสร็จหมดแล้ว เจ้าของบ้านคือคนออกเงิน ดร.สมคิด เป็นผู้รับเหมาแล้วก็มอบหมายให้ 4 กุมารเป็นโฟร์แมนมาคุมงาน ซึ่งคุณชวน ชูจันทร์นั่นล่ะครับ เป็นคนสร้างตัวจริงเค้าทำเอาไว้
เมื่อสร้างบ้านคือพรรคพลังประชารัฐเสร็จ เขาก็ชวนบรรดานักการเมืองทั้งหลายเข้ามาอยู่รวมด้วยกัน ถึงวันนี้เจ้าของบ้านเค้าจะเอาคืน ก็อย่าไปคิดอะไรมากครับ ถือซะว่าในฐานะโฟร์แมน 4 กุมารได้ค่าตอบแทนแล้ว คือการดำรงตำแหน่งรัฐมนตรี ดำรงตำแหน่งสำคัญในกรรมการบริหาร ถ้าคิดได้แบบนี้ก็จะไม่เครียดนะครับ แต่ถ้าคิดจะอยู่ต่อสู้กันไป รับรองจะเครียดและช้ำหนักกว่านี้หลายเท่า
ดูเอาตั้งแต่สถานการณ์ของดร.สมคิดก็ได้ ล่าสุดออกมาให้สัมภาษณ์ว่าคนดีอยู่ในการเมืองไม่ได้ เท่านั้นล่ะครับ คุณชัยวุฒิ ส.ส.บัญชีรายชื่อ คุณวันชัย ส.ส.สงขลาพลังประชารัฐ ออกมาสวนทันทีว่าพูดแบบนี้เอาดีเข้าตัว ทำพรรคเสียหาย ส.ส. 2 คนนี้ ก่อนหน้านี้ถ้าเทียบกับดร.สมคิด กระดูกห่างกันหลายพ.ศ. แต่วันนี้สวนกันต่อหน้าต่อตาแบบไม่มีเกรงใจ สัญญาณแบบนี้ไม่มีเป็นอย่างอื่นล่ะครับ นอกจากจะไล่กันจนสุดทาง จะไปหวังให้พล.อ.ประยุทธ์ ออกมาค้ำเก้าอี้ให้ จะเป็นไปได้ยังไงล่ะครับ ก็ในเมื่อพล.อ.ประวิตรออกหน้ามาเต็มหน้าซะขนาดนี้
เกมยึดคืนพรรคพลังประชารัฐคราวนี้ เห็นหน้าคนอื่นบ้างก็เพียงเล็กๆ น้อยๆ ล่ะครับ แต่หน้าพล.อ.ประวิตรบานเต็มเวที พี่น้องนายทหารกลุ่มนี้ ถ้าคิดจะหักกันเรื่องผลประโยชน์ เรื่องอำนาจ เค้าหักกันนานแล้วล่ะครับ ไม่น่าจะมาหักกันวันนี้ แล้วถ้าประเมินความคิดพล.อ.ประยุทธ์ ไม่แน่นะครับว่าตัวนายกรัฐมนตรีก็อาจจะอยากเปลี่ยนแปลงทีมเศรษฐกิจอยู่พอดี 5-6 ปีที่ผ่านมาภายใต้การขับเคลื่อนเศรษฐกิจของดร.สมคิดและชาวคณะ มีแต่คนในรัฐบาลเท่านั้นล่ะครับที่พากันพูดว่ามาถูกทางแล้วเศรษฐกิจกำลังดี ไปถามชาวบ้าน ถามผู้ประกอบการคนเดินดินกินข้าวแกงทั่วๆ ไป บ่นกันเป็นเสียงเดียวกันว่าแย่
มาถึงช่วงโควิด มีเงินแจกชาวบ้านยังโดนด่าเละไม่มีชิ้นดี เรื่องพวกนี้ไม่มีใครรู้เต็มอกเท่าคนเป็นนายกรัฐมนตรีล่ะครับ ดังนั้น แทนที่จะไปหวังให้พล.อ.ประยุทธ์ กับ พล.อ.ประวิตรหักกัน ประเมินใหม่ว่าอาจจะเป็นเรื่องสมเจตนาของทุกฝ่าย ฝ่ายหนึ่งก็ได้คุมสภาพการนำในพรรคพลังประชารัฐเต็มไม้เต็มมือ อีกฝ่ายก็จะได้เปลี่ยนทีมเศรษฐกิจเสียที แต่ก็น่าสนใจมากอยู่เหมือนกันนะครับ สถานการณ์มาถึงวันนี้ ใครจะมานั่งเก้าอี้คุมทีมเศรษฐกิจของรัฐบาล ถ้าจะให้บรรดาลูกหาบพล.อ.ประวิตร ตามที่มีรายชื่อในสื่อก็ขนลุกพิลึกเพราะบางคนถูกมองว่าเป็น ‘ทีมเศรษฐโกย’ มากกว่า ‘ทีมเศรษฐกิจ’
.
ขณะที่ถ้าจะไปเจรจาเอานักบริหารคนนอกเข้ามาซึ่งผมยืนยันนะครับว่ามีการทาบทามกันอยู่แล้วจริง อย่างน้อย 2 ป.ปลาที่เคยพูดไป หรืออาจจะมีคนอื่นๆ อีกก็ตาม คนที่ถูกทาบทามก็คิดหนัก เพราะรัฐบาลโดยการนำของพล.อ.ประยุทธ์ รื้อทีมเศรษฐกิจมาแล้วอย่างน้อย 2 ชุด คือ ทีมหม่อมอุ๋ย และ กำลังจะเป็นทีม ดร.สมคิด ใครเข้ามารับมือกับวิกฤตหลังโควิด มั่นใจเหรอครับว่าจะเอาอยู่และอยู่ได้ เรื่องยุ่งๆ ที่เกิดจากสภาพเศรษฐกิจและซ้ำเติมด้วยโรคระบาดมันก็เลยยุ่งเข้าไปใหญ่ เมื่อเกิดจากความต้องการทางการเมืองของคนในพรรคและในรัฐบาล
ถ้าใครจะมองหาว่า สถานการณ์ที่เค้าขัดแย้งแก่งแย่งกันอยู่นี้ ผลประโยชน์ของประชาชนอยู่ตรงไหน แนะนำให้ไปถามกระทรวงสาธารณสุข ใช้กล้องส่องหาเถอะครับเพราะมันอาจจะเล็กกว่าเชื้อไวรัสก็ได้ บางคนพยายามมองโลกในแง่ดี บอกว่าเกมตบจูบแบบนี้เดี๋ยวก็เคลียร์กันจบ – ไม่จบอะครับ ถ้าจะจบก็จบเฉพาะผลประโยชน์ทางการเมืองของคนในพรรคและในรัฐบาลที่อาจจะจูนกันลงตัว แต่สำหรับในใจประชาชนมันจบไม่ลงหรอกครับ เพราะสิ่งที่เกิดขึ้นเป็นใบเสร็จยืนยันว่า นี่คือเกมแย่งชิงอำนาจทางการเมืองโดยแท้ เมื่อ 3 มิตร เปิดเกมรุกเต็มตัว ถ้า 4 กุมารเล่นเกมการเมืองจนสมประโยชน์กันเพื่อรักษาเก้าอี้ ก็ไม่ต่างอะไรกับน้ำเน่ากำลังสู้กับน้ำครำ คนช้ำก็คือประชาชนอยู่ดี แต่ที่จะช้ำหนักหน่อย น่าจะเป็นคนที่เป่านกหวีดเรียกพวกนี้มานั่นล่ะครับ