“บิ๊กตู่” ยังไม่คิด ปรับ ครม. เชื่อ “ลุงป้อม” คุม พปชร.ได้ ฉะสื่อ “ดราม่า” ปั้นข่าว

นายกฯ ยืนยัน ยังไม่คิดปรับ ครม. ฉะสื่อ ชอบเสนอข่าว “ดราม่า” เป็นเหมือน “ละคร” เชื่อ “ลุงป้อม” พร้อม นั่งเก้าอี้ หน.พปชร.และ นั่งควบ รองนายกฯได้ พร้อมย้ำ จะบริหารเงินกู้ 4 แสนล้าน อย่างโปร่งใส

วันที่ 9 มิ.ย.63 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวภายหลังประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ถึงสถานการณ์ทางการเมืองในช่วงหลายวันนี้ โดยขอยืนยันว่าไม่ได้เข้าไปเกี่ยวข้องใดๆทั้งสิ้น เพราะเป็นเรื่องของแต่ละพรรคที่ดำเนินการกันไป ส่วนการปรับเปลี่ยนคณะรัฐมนตรีเป็นอำนาจของนายกรัฐมนตรีที่จะพิจารณา และไม่ใช่เรื่องที่จะเสนอกันมาในตอนนี้ จึงขอให้รัฐมนตรีทุกคนทำงานไปก่อน

พร้อมทั้งขอให้เลิกเสนอข่าวเหล่านี้เหมือนเป็นดราม่า หรือ ละครสักเรื่อง แต่ถ้าดูเป็นละครแล้วก็ต้องย้อนมาดูตัวด้วย ดังนั้นอย่าเพิ่งถามว่าจะปรับครม.หากจะปรับจะบอกให้ทราบเอง เพราะเป็นการตัดสินใจของนายกมนตรีแต่เพียงผู้เดียว ในการปรับครม.และพิจารณาตามสัดส่วนของแต่ละพรรคอยู่แล้ว

นายกรัฐมนตรี ระบุว่า หาก พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ เป็นหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ก็เป็นเรื่องของ พล.อ.ประวิตร ที่ต้องทำงานทั้ง 2 งานให้ได้ ทั้งงานของหัวหน้าพรรคและงานของรองนายกมนตรี โดยไม่ถือว่าเป็นงานหนักเพราะทุกคนต้องทำงานได้ และถือเป็นคนละส่วนกัน และเป็นเรื่องของพรรคพลังประชารัฐจะพิจารณา ส่วนที่มองว่า พล.อ.ประวิตร อายุมากแล้ว จะมีความพร้อมในการทำหน้าที่หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐหรือไม่นั้น ก็ต้องไปถามที่ตัว พล.อ.ประวิตร ซึ่งในตอนนี้ เรื่องการปรับคณะรัฐมนตรี ยังเป็น Talk Of The Town ที่สื่อนำเสนอทุกวัน แต่ยืนยันว่า ยังไม่มีใครจะหลุดหรือใครจะเข้ามาในคณะรัฐมนตรีและวันนี้ขอให้คนที่อยู่ในตำแหน่งทำให้ดีที่สุด

นายกรัฐมนตรี ยังระบุถึงการบริหารจัดการงบฯ ฟื้นฟูโควิด-19 จำนวน 4 แสนล้านบาทว่า ในฐานะหัวหน้ารัฐบาล ขอยืนยันจะดำเนินการให้โปร่งใสมีประสิทธิภาพตรวจสอบได้ และกำชับไปในที่ประชุม คณะรัฐมนตรีแล้ว เพราะเป็นงบประมาณที่มีความสำคัญในการสานต่อเศรษฐกิจไตรมาส 4 เดือนช่วงเดือนกรกฎาคม สิงหาคม กันยายน เพื่อส่งต่อไปยังไตรมาส 1 ของงบประมาณปี 2564 ที่กำลังจะพิจารณาเข้าสภาในลำดับต่อไป

โดยจะต้องพิจารณาวงเงิน 4 แสนล้านบาท ว่า จะดำเนินการในเรื่องใดบ้างที่จะต้องฟื้นฟูตามขั้นตอนและต้องตรงความต้องการของประชาชนกลุ่มที่ผู้เดือดร้อนตามเหตุผลและความจำเป็น โดยจะดำเนินการได้ตั้งแต่ต้นเดือนกรกฎาคม ซึ่งขณะนี้เป็นช่วงของการดำเนินการ ซึ่งหลักการสำคัญคือกระตุ้นการบริโภคท่องเที่ยวและช่วยเหลือ เศรษฐกิจฐานรากชุมชนให้ดำเนินการต่อไปได้เพื่อรักษาระดับการจ้างงานและช่วยเหลือบัณฑิตจบใหม่ให้มีงานทำ ซึ่งขณะนี้คณะกรรมการกำลังดำเนินงาน

ทั้งนี้ ย้ำว่า เป็นเงินที่ได้มาด้วยความยากลำบากเนื่องจากต้องกู้มา ดังนั้นต้องเดินหน้าอย่างรอบคอบ ทั้งการใช้จ่ายงบประมาณประจำปี และการดำเนินการบริหารงบฟื้นฟูให้เกิดสภาพคล่อง ไม่ให้ประชาชนเดือดร้อน และกระทบต่อกิจการต่าง และการจ้างงาน โดยยืนยันว่าการแก้ไขสถานการณ์ช่วงโควิด-19 รัฐบาลใช้มาตรการทุกมิติทั้งมาตรการการเงินการคลัง มาตรการทางภาษี และการใช้งบประมาณไปสู่ประชาชนในทุกกลุ่มจึงมั่นใจว่าในกรอบรัฐบาลจะไม่ให้เกิดปัญหาการทุจริตโดยเด็ดขาด