“จิรายุ” เย้ย รัฐบาล ไม่มีปัญหาแก้ปัญหา โควิด-19 อภิปรายเรียกร้อง “ลุงตู่” แต่งตั้ง “ทักษิณ” นั่ง กก.กลั่นกรองโครงการใช้เงินตามพ.ร.ก.กู้เงิน เชื่อจะช่วยประเทศไทยได้มาก เพราะเป็นคนมีปัญญาดี ต่างชาติยอมรับ
วันที่ 29 พ.ค.63 เวลา 18.00 น. ที่ รัฐสภา นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ ส.ส.กทม. พรรคเพื่อไทย อภิปรายตอนหนึ่งในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร เพื่อพิจารณาพ.ร.ก.กู้เงิน 3 ฉบับ สะท้อนการบริหารงานของรัฐบาล และแก้ไขสถานการณ์โควิด – 19 ที่ล้มเหลว และเปิดโอกาสให้คนบางกลุ่มฉวยโอกาสในวิกฤตสร้างความร่ำรวยให้กับตนเอง ถึงขั้นรวยจนลืมบ้านเลขที่ อาทิ เปิดเต็นท์หน้าโรงพยาบาล หรือ ที่จอดรถของโรงพยาบาลเอกชน สวมรอยตรวจโควิดให้ประชาชน
นายจิรายุ กล่าวด้วยว่า สำหรับฉายาที่ตนตั้งให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม คือ นักกู้แห่งลุ่มน้ำเจ้าพระยา เพราะตลอดการบริหารประเทศ 6 ปีที่ผ่านมา และรวมถึงการกู้เงินช่วงโควิด – 19 มียอดรวมการกู้เงินที่ 4 ล้านล้านบาท ทำให้มีผลกระทบต่อเศรษฐกิจของประเทศ และประชาชนต้องร่วมชดใช้หนี้ถึง 80 ปี ขณะที่การแจกเงินเยียวยาเดือนละ 5,000 บาทให้ประชาชน เท่ากับว่าประชาชนเข้าไปอยู่ในอวยของรัฐบาลแล้ว เพราะคนที่ลงทะเบียนหรือเข้าโครงการของรัฐจะถูกรีดภาษี ซึ่งตนขอเรียกร้องให้พล.อ.ประยุทธ์ ประกาศให้ชัดเจนว่าภายในสิ้นปีนี้หรือปีหน้า จะไม่รีดภาษีกับประชาชนที่ลงทะเบียนหรือเข้าโครงการช่วยเหลือใดๆจากรัฐ
“การกู้เงินเป็นเรื่องปกติหากเครดิตดี แต่รอบนี้กู้สูงเกินเพดาน หากมีวิกฤตจะไม่สามารถกู้ได้อีก ดังนั้น สภาฯอย่าอวยจนเกินไป ซึ่งผมกังวลว่าปลายปีหากมีวิกฤตเศรษฐกิจ หรือวิกฤตโรคระบาดอื่น รัฐบาลจะใช้ศักยภาพด้านไหนกู้เงินมาใช้จ่ายอีก”
นายจิรายุ กล่าวด้วยว่า สำหรับคณะกรรมการกลั่นกรองโครงการ ตามพ.ร.ก.กู้เงิน วงเงิน 1 ล้านล้านบาท ขอให้นายกฯ ตั้งนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ เป็นคณะกรรมการกลั่นกรองโครงการ ในส่วนของผู้ทรงคุณวุฒิ หากไม่โกรธแค้นกันเกินไป หรือมองเป็นคู่ขัดแย้งทางการเมือง ใครที่มีปัญญาดีๆ ต่างชาติก็ยอมรับ ก็ตั้งมาทำงานบ้างไม่ใช่ตั้งแต่พวกตัวเอง อวยกันเอง มีแต่คนของรัฐบาลหรือคนของนายกฯเท่านั้น รวมทั้งจะไม่ทำให้เงินกู้อยู่ที่พรรคพลังประชารัฐเท่านั้น ส่วนพรรคร่วมรัฐบาลเชื่อว่าจะกินแกลบแทนข้าวแล้ว