เกิดปรากฎการณ์ใหม่ในแวดวง ‘วาฮาบี’ เลิกออกบวช ‘ตามซาอุฯ’ ไปเกาะตามประเทศในแอฟริกาที่ระบุว่า เห็นดวงจันทร์ ก่อนประเทศอื่น สุดท้ายกลายเป็นดาวศุกร์ หลังหยุดถือศีลอดช่วงบ่าย สุดท้ายกลายเป็นดาวศุกร์ ต้องละหมาดใช้
กลุ่มลัทธิใหม่ เป็นกลุ่มวาฮาบี ที่สร้างปัญหาในการละหมาดอีดิ้ลฟิตรีและอีดิ่ลอัฎฮาเกือบทุกปี โดยไม่ฟังประกาศของจุฬาราชมนตรี แต่จะละหมาดตามประกาศการดูเดือนของซาอุดิอารเบียเป็นหลัก ซึ่งมีทั้งการละหมาดก่อนและหลังการละหมาดตามประกาศของจุฬาราชมนตรี โดยในระยะหลัง ซาอุอารเบียมีปัญหากับกลุ่มอิควาน และหันไปทำงานรับใช้อเมริกาและอิสราเอลเต็มตัว ไม่มีการแอบเหมือนในอดีตอีกต่อไป กลุ่มนี้ จึงหามุ่งหาหนทางใหม่ โดยไม่สนใจจุฬาราชมนตรี ในฐานะเป็นผู้นำมุสลิมในประเทศไทย ที่อัลกุรอ่านและฮาดิษให้การรับรอง โดยล่าสุด อ้างฮาดิษ ที่มีกองคาราวาน มาถึงนบี (ซ.ล.) และแจ้งข่าวการเห็นจันทร์เสี้ยว นบีให้ละศีลอด โดยอ้างสุนัน อิบนิ มาญะห์ ฮะดิษ เลขที่ 1643
คนกลุ่มนี้ ถือศีลในวันเสาร์ที่ 23 พฤษภาคม และมีกำหนดการออกอีดวันที่ 24 พฤภาคม แต่ระหว่างวันมีการประกาศการเห็นจันทร์เสี้ยวในบางประเทศแถบแอฟริกา จึงได้มีการประกาศให้ละศีลอด ในตอนเที่ยงของวันเสาร์ ที่ 23 และมีการละหมาดอีดิ้ลฟิตรีในเช้าวันที่ 24 พฤษภาคม
อย่างไรก็ตาม ตามข้อมูลที่มีการประกาศการเห็นดวงจันทร์ในประเทศแถบแอฟริกานั้น มีการตรวจสอบพบในภายหลังว่า ไม่ใช่ดวง
จันทร์ แต่เป็นดาวศุกร์ ทำให้กลุ่มนี้ ต้องเสียศีลอด 1 ต้องชดใช้
‘อิสลาม ไม่ได้กำหนดเดือน 30 วัน แต่กำหนดตามการเห็นดวงจันทร์ ซึ่งมีทั้ง 29 และ 30 วัน โดยส่วนใหญ่นบี ถือบวช 29 วัน’ ผู้นำลัทธิใหม่ ที่แสนแปลกประหลาด กล่าวในคุตบะห์ ในเช้าวันที่ 24 พฤษภาคม เป็นการโต้แย้ง กลุ่มที่เห็นว่า หากยึดตามการเห็นดวงจันทร์ประเทศใดประเทศหนึ่งในโลกนี้ คนกลุ่มนี้จะถือศีลอดเพียง 29 วันตลอดไป
การออกอีดตามประเทศในแอฟริกา เพิ่งเกิดขึ้นครั้งแรกในประเทศไทย ทำให้เกิดการวิพากษ์วิจารณ์ในทำนองตลกขบขัน ในการตัดสินใจของคนกลุ่มนี้ ซึ่งนักวิชาการด้านศาสนา ให้ความเห็นว่า การตีความฮาดิษจะต้องใช้ผู้เชี่ยวชาญในการตีความ และจะต้องเข้าใจบริบทที่เกิดขึ้นในช่วงที่เกิดฮาดิษด้วย ไม่ใช่แค่แปลภาษาอาหรับได้ ก็ตีความฮาดิษได้ ซึ่งอาจจะผิดจากบริบทที่เป็นจริง ในฮาดิษที่มีรการอ้างถึง มีจริง แต่ต้องขอตรวจสอบระดับความน่าเชื่อถือก่อน และดูบริบทในช่วงนั้นด้วย ซึ่งบริบทตอนนั้นมีกองคาราวาน มาพบนบี แสดงว่า บริบทในช่วงนั้น กองคาราวานอยู่ไม่ไกล จากมาดีนะห์นัก ซึ่งแตกต่างจากการอ้างการเห็นดวงจันทร์ที่แอฟริกา ซึ่งยังมีฮาดิษบทอื่นมาอ้างอิงด้วย