ศบค.แถลง พบป่วยโควิดเพิ่ม 3 ราย เผย 2 ราย เป็นการติดเชื้อจากการไปสถานที่ชุมชน รายแรกเป็นผู้สูงอายุไทย ไป รพ.และร้านตัดผม ย่านประชาชื่น อีกรายเป็นคนเยอรมันไปอยู่บ้านภรรยาที่ชัยภูมิ สัมผัสคนมีไข้ และไปห้างสรรพสินค้า ส่วนอีกรายกลับมาจากฟิลิปปินส์ อยู่ในสถานกักกันของรัฐ
วันที่ 21 พ.ค.63 นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) แถลงข่าวประจำวัน ว่า วันนี้มีผู้ป่วยโควิด-19 รายใหม่ จำนวน 3 ราย กลับบ้านเพิ่ม 9 ราย ไม่มีผู้เสียชีวิต ส่งผลให้มีผู้ป่วยสะสมรวม 3,037 ราย กลับบ้านรวม 2,897 ราย เสียชีวิตรวม 56 ราย ยังคงรักษาใน รพ. 84 ราย สำหรับผู้ป่วยรายใหม่แบ่งเป็น 1. ไปสถานที่ชุมชน เช่น ตลาดนัด สถานที่ท่องเที่ยว สถานพยาบาล จำนวน 2 รายใน กทม. คือ ผู้ป่วยชายไทยอายุ 72 ปี มีโรคประจำตัวเบาหวาน มะเร็งปอด ไปรักษาที่ รพ.รัฐแห่งหนึ่งใน กทม.เมื่อ 4 วันก่อน และมีประวัติไปตัดผมแถวประชาชื่น ต่อมาวันที่ 18 พ.ค.มีอาการไข้ ไอ เสมหะ ไปรักษาที่ รพ.เอกชนแห่งหนึ่ง และย้ายมา รพ.รัฐแห่งเดิมที่เคยรักษา วันที่ 20 พ.ค. และตรวจเจอว่าพบเชื้อ จะเห็นว่า ไป รพ.มีความเสี่ยง และไปร้านตัดผมอีกที่หนึ่ง ดังนั้น 2 แห่งนี้เป็นพื้นที่ปัจจัยเสี่ยง
ส่วนอีก1ราย เป็นผู้ป่วยชายอายุ 42 ปี สัญชาติเยอรมัน ไม่มีโรคประจำตัว ไม่มีอาการ มีประวัติไปเยี่ยมญาติ จ.ชัยภูมิ คือ ภรรยาที่เป็นคนไทย ตั้งแต่วันที่ 30 เม.ย.- 16 พ.ค. โดยวันที่ 8 พ.ค. พบว่า มีญาติ 1 คนมีอาการไข้ คอแห้ง ไม่ได้ไปตรวจรักษา และเดินทางไปห้างสรรพสินค้าในชัยภูมิ หลังกลับมาไปตรวจสุขภาพก่อนเข้าทำงาน วันที่ 18 พ.ค. ผลตรวจเชื้อยืนยันเข้ารับการรักษาใน รพ.เอกชนแห่งหนึ่ง มีความสงสัยว่าชัยภูมิอาจเป็นส่วนหนึ่งปัจจัยเสี่ยงชายคนนี้ติดเชื้อมา
2. กลับมาจากต่างประเทศอยู่ในสถานกักกันของรัฐ 1 ราย เป็นผู้หญิงไทยอายุ 25 ปี ไปเรียนภาษากลับมาจากประเทศฟิลิปปินส์ วันที่ 13 พ.ค. รักษาใน จ.ชลบุรี ตรวจพบเชื้อวันที่ 19 พ.ค. ไม่มีอาการใดๆ ทั้งนี้ คนกลับจากฟิลิปปินส์ 171 คน เพิ่งเจอ 1 ราย
“มาตรการผ่อนคลายทั้งหลายก็ยังจำเป็น การไปห้าง ไปตัดผม เกิดขึ้นในช่วงที่มีการใช้ไทยชนะแล้วหรือไม่ หากยังไม่ทันก็ไม่ได้ใช้ประโยชน์ หากลงแล้วประโยชน์ก็จะตามคนที่เกี่ยวข้องมาตรวจได้ง่าย ไม่ต้องไปหว่านแหคนกลุ่มใหญ่ เช่นเดียวกับการไปร้านตัดผมประชาชื่น ต้องหาคนมารับบริการตัดผมในวันเวลาใกล้เคียงตรงนั้น การหาไม่ง่าย แต่ถ้าร้านนั้นลงทะเบียนไทยชนะ คนเข้าไปสแกนเข้าไป วิธีการหาใช้เวลาไม่นาน ไม่เสียงบประมาณ เมื่อเจอก็จะเชิญมารับการตรวจโดยเร็ว หากฟังข่าวเคยไปตัดผมแถวประชาชื่น ฟังข่าวจะตกใจหรือไม่ว่าร้านไหน เมื่อไร ความสงสัยจะเต็มไปหมด ถ้ามีไทยชนะสิ่งเหล่านี้จะกระจ่าง ทีมสอบสวนโรคเข้าไปรวดเร็ว อาจแค่ครึ่งค่อนวันก็รู้แล้ว การควบคุมโรคก็เกิดได้เร็ว ไม่ได้ไปดูธุรกิจการค้า เรื่องเงินอะไรของร้าน”
นพ.ทวีศิลป์กล่าวและว่า หลังมาตรการผ่อนปรนระยะที่ 1 ตั้งแต่วันที่ 3 พ.ค. ตัวเลขยังอยู่ในหลักเดียว เว้นวันที่ 8 พ.ค. ที่มาจากศูนย์กักกัน ขณะนี้ผ่านการผ่อนปรนระยะ 2 เข้าวันที่ 5 เหลืออีก 9 วัน สิ่งต่างๆ ที่ทำเกิดขึ้นจาก 7-14 วันที่ผ่านมา การที่เรามีผู้ป่วยหลักเดียวเกิดจากการผ่อนคลายระยะที่ 1 สิ่งที่เราจะทำวันนี้จะเกิดขึ้นเป็นผลต่อใน 7-14 วันข้างหน้า การ์ดอย่าตกเราถึงจะได้ไปต่อ
