ในช่วง ถือศิลอด เดือน “รอมฎอน” ปรากฏเป็นข่าวนำ โดยประเด็น ความเร้นลับ 5 ประการที่ พระองค์อัลลอฮ์( ซบ.)ทรงปกปิดเอาไว้
ในยุคปัจจบันเทคโนโลยีต่างๆมีความเจริญก้าวหน้าไปมาก มนุษย์สามารถสร้างเครื่องมือที่ทันสมัย เช่น ดาวเทียมที่นำมาใช้ในการตรวจสอบสภาพอากาศได้อย่างน่าทึ่งด้วยมันสมองที่พระองค์อัลลอฮ์ ( ซบ. ) ทรงประทานให้แก่มนุษย์ เครื่องมือที่ทันสมัยเหล่านี้ในบางครั้งสามารถบอกเราได้เลยว่าวันพรุ่งนี้ หรือวันมะรืนนี้สภาพอากาศจะเป็นอย่างไร ฝนจะตก หรือไม่ตก แต่ก็มีหลายครั้งที่ไม่เป็นไปตามพยากรณ์อากาศ นั่นหมายความว่าอย่างไร ?
นั้นหมายความว่าเครื่องมือที่ทันสมัยเหล่านนี้นั้นมีความสามารถในการคาดการณ์สภาพอากาศที่จะเกิดขึ้นในอนาคตได้เท่านั้น อาจจะมีปัจจัยอื่นมาเปลี่ยนแปลงการคาดการณ์นั้นก็ย่อมได้ เราจะเห็นได้ว่าในบางครั้งท้องฟ้ามืดครึ้มมีลมแรง มีฟ้าแลบฟ้าร้องจนทำให้เราคิดว่าในไม่ช้าฝนคงจะตกลงมาอย่างแน่นอน แต่มันไม่เป็นไปตามนั้นฝนกลับไม่ตกตามการคาดการณ์ของเรา นั่นหมายความว่าฝนจะตกที่ไหน เมื่อไหร่ อย่างไร ไม่มีผู้ใดสามรถล่วงรู้เรื่องราวเหล่านี้ได้อย่างแน่ชัดนอกจากพระองค์อัลลอฮ์ ( ซบ. ) แต่เพียงผู้เดียว
มีรายงานจากท่านอิบนุอุมัรว่า ครั้งหนึ่งท่านร่อซู้ล ( ซ.ล. ) ได้กล่าวว่า ” กุญแจแห่งความเร้นลับนั้นมีอยู่ 5 ดอก ไม่มีผู้ใดล่วงรู้สิ่งดังกล่าวได้นอกจากพระองค์อัลลอฮ์ ( ซบ. ) แล้วท่านร่อซู้ลก็อ่านโองการที่ว่า
قال الله تعالى ﴿ إِنَّ اللَّهَ عِندَهُ عِلْمُ السَّاعَةِ وَيُنَزِّلُ الْغَيْثَ وَيَعْلَمُ مَا فِي الْأَرْحَامِ وَمَا تَدْرِي نَفْسٌ مَّاذَا تَكْسِبُ غَدًا وَمَا تَدْرِي نَفْسٌ بِأَيِّ أَرْضٍ تَمُوتُ إِنَّ اللَّهَ عَلِيمٌ خَبِيرٌ ﴾ سورة لقمان / 34
قال الله تعالى ﴿ إِنَّ اللَّهَ عِندَهُ عِلْمُ السَّاعَةِ وَيُنَزِّلُ الْغَيْثَ وَيَعْلَمُ مَا فِي الْأَرْحَامِ وَمَا تَدْرِي نَفْسٌ مَّاذَا تَكْسِبُ غَدًا وَمَا تَدْرِي نَفْسٌ بِأَيِّ أَرْضٍ تَمُوتُ إِنَّ اللَّهَ عَلِيمٌ خَبِيرٌ ﴾ سورة لقمان / 34
ความว่า ” แท้จริงพระองค์อัลลอฮ์ ( ซบ. ) เท่านั้นที่ล่วงรู้การเกิดขึ้นของวันอวสาน และพระองค์ทรงเป็นผู้ประทานฝนลงมา พระองค์ทรงรอบรู้สิ่งที่อยู่ในมดลูก ไม่มีชีวิตใดที่จะล่วงรู้ว่าในวันรุ่งขึ้นเขาจะแสวงหาสิ่งใดมาได้บ้าง และไม่มีชีวิตใดที่จะล่วงรู้ว่าเขาจะต้องจบชีวิตลง ณ แผ่นดินใด แท้จริงพระองค์อัลลอฮฺนั้นทรงรอบรู้เรื่องราวต่างๆอย่างละเอียดถี่ถ้วน ”
ท่านผู้อ่านที่เคารพครับ สิ่งเร้นลับที่พระองค์ทรงปกปิดเอาไว้ทั้ง 5 ประการนั้นคือ
1. เวลาแห่งวันอวสาน
2. เวลา และสถานที่ที่ฝนจะตก
3. ทารกที่อยู่ในมดลูกเพศชายหรือหญิง จะมีทุกข์หรือมีสุข
4. สิ่งที่จะเกิดในวันพรุ่งนี้
5. วันเวลา และสถานที่ที่มนุษย์แต่ละคนจะตาย
1. เวลาแห่งวันอวสาน
2. เวลา และสถานที่ที่ฝนจะตก
3. ทารกที่อยู่ในมดลูกเพศชายหรือหญิง จะมีทุกข์หรือมีสุข
4. สิ่งที่จะเกิดในวันพรุ่งนี้
5. วันเวลา และสถานที่ที่มนุษย์แต่ละคนจะตาย
นี่คือข้อเท็จจริงที่ปากฏอยู่ในคัมภีร์อัลกุรอานที่ถูกประทานลงมาให้กับศาสดาที่อ่านไม่ออก และเขียนไม่ได้ที่รอการศึกษาค้นคว้าอย่างพินิจพิเคราะห์จากท่านทั้งหลายอยู่ตลอดเวลา
น้ำฝนในทัศนะอิสลามนั้นเปรียบได้ดั่งยาชุบชีวิต เพราะทุกชีวิตที่เกิดขึ้นในโลกใบนี้ไม่ว่าจะเป็นมนุษย์ สัตว์ ต้นไม้ พืชชนิดต่างๆ ล้วนแล้วแต่ต้องอาศัยน้ำในการดำเนินชีวิตทั้งหมด เราลองมาตั้งคำถามเล่นๆกันดูนะครับว่า ” ถ้าหากโลกนี้ไม่มีน้ำอะไรจะเกิดขึ้น ” แน่นอนหากโลกนี้ไม่มีน้ำทุกชีวิตก็จะต้องตายลงอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ดังนั้นน้ำฝนจึงถือได้ว่าเป็นความโปรดปรานจากพระผู้เป็นเจ้า และเป็นสัญลักษณ์ที่แสดงถึงเดชานุภาพของพระองค์อย่างแท้จริง ในอายะฮ์ที่ 63 ของซูเราะฮ์อัลอังกะบูต พระองค์อัลลอฮ์ ( ซบ. ) ได้ทรงเรียกร้องให้มนุษย์ใช้สติปัญญาใคร่ครวญถึงน้ำฝนที่พระองค์ประทานลงมาจากฟากฟ้าโดยพระองค์ทรงตรัสว่า
قال الله تعالى﴿ وَلَئِنْ سَأَلْتَهُمْ مَنْ نَزَّلَ مِنَ السَّمَاءِ مَاءً فَأَحْيَا بِهِ الْأَرْضَ مِنْ بَعْدِ مَوْتِهَا لَيَقُولُنَّ اللَّهُ قُلِ الْحَمْدُ لِلَّهِ بَلْ
قال الله تعالى﴿ وَلَئِنْ سَأَلْتَهُمْ مَنْ نَزَّلَ مِنَ السَّمَاءِ مَاءً فَأَحْيَا بِهِ الْأَرْضَ مِنْ بَعْدِ مَوْتِهَا لَيَقُولُنَّ اللَّهُ قُلِ الْحَمْدُ لِلَّهِ بَلْ
أَكْثَرُهُمْ لَا يَعْقِلُونَ ﴾ سورة العنكبوت / 63
ความว่า ” และถ้าหากเจ้าถามพวกเขาว่า ใครเล่าทรงหลั่งนำฝนลงมาจากฟากฟ้า แล้วทรงทำให้พื้นแผ่นดินกลับมามีมีชีวิตอีกครั้งหนึ่งหลังจากที่ตกอยู่ในความแห้งแล้ง แน่นอนพวกเขาจะกล่าวว่า อัลลอฮ์ จงกล่าวเถิด ( มูฮัมหมัด ) บรรดาการสรรเสริญทั้งมวลนั้นเป็นสิทธิ์ของอัลลอฮฺ แต่ว่าพวกเขาส่วนมากนั้นไม่ใช้สติปัญญาใคร่ครวญ ”
และในอายะห์ที่ 164 ของซูเราะฮ์อัลบะเกาะเราะฮ์ พระองค์อัลลอฮ์ ( ซบ. ) ได้ทรงตรัสไว้อีกว่า
قال الله تعالى ﴿ إِنَّ فِي خَلْقِ السَّمَوَاتِ وَالأَرْضِ وَاخْتِلافِ اللَّيْلِ وَالنَّهَارِ وَالْفُلْكِ الَّتِي تَجْرِي فِي الْبَحْرِ بِمَا يَنفَعُ النَّاسَ وَمَا أَنزَلَ اللَّهُ مِنْ السَّمَاءِ مِنْ مَاءٍ فَأَحْيَا بِهِ الأَرْضَ بَعْدَ مَوْتِهَا وَبَثَّ فِيهَا مِنْ كُلِّ دَابَّةٍ وَتَصْرِيفِ الرِّيَاحِ وَالسَّحَابِ الْمُسَخَّرِ بَيْنَ السَّمَاءِ وَالأَرْضِ لآيَاتٍ لِقَوْمٍ يَعْقِلُونَ ﴾ سورة البقرة / 164
และในอายะห์ที่ 164 ของซูเราะฮ์อัลบะเกาะเราะฮ์ พระองค์อัลลอฮ์ ( ซบ. ) ได้ทรงตรัสไว้อีกว่า
قال الله تعالى ﴿ إِنَّ فِي خَلْقِ السَّمَوَاتِ وَالأَرْضِ وَاخْتِلافِ اللَّيْلِ وَالنَّهَارِ وَالْفُلْكِ الَّتِي تَجْرِي فِي الْبَحْرِ بِمَا يَنفَعُ النَّاسَ وَمَا أَنزَلَ اللَّهُ مِنْ السَّمَاءِ مِنْ مَاءٍ فَأَحْيَا بِهِ الأَرْضَ بَعْدَ مَوْتِهَا وَبَثَّ فِيهَا مِنْ كُلِّ دَابَّةٍ وَتَصْرِيفِ الرِّيَاحِ وَالسَّحَابِ الْمُسَخَّرِ بَيْنَ السَّمَاءِ وَالأَرْضِ لآيَاتٍ لِقَوْمٍ يَعْقِلُونَ ﴾ سورة البقرة / 164
ความว่า ” แท้จริงแล้วการสร้างชั้นฟ้า และพื้นแผ่นดิน การสับเปลี่ยนของกลางคืน และกลางวัน เรือที่แล่นอยู่ในท้องทะเลเพียบพร้อมไปด้วยสิ่งอำนวยประโยชน์แก่มนุษย์ น้ำที่พระองค์อัลลอฮ์ได้ทรงให้มันหลั่งลงมาจากฟากฟ้านั้นมันได้ทำให้พื้นดินที่แห้งแล้งกลับมามีชีวิตอีกครั้งหนึ่งหลังจากที่มันได้ตายไปแล้ว สัตว์หลากหลายชนิดที่พระองค์ทรงให้มันแพ่รกระจายไปในพื้นแผ่นดิน การที่ลมเปลี่ยนทิศทาง และเมฆที่ถูกกำหนดให้ผันแปรไปในระหว่างฟากฟ้า และแผ่นดินนั้น แน่นอนล้วนเป็นสัญญาณแก่กลุ่มชนที่ใช้สติปัญญา ”
ถ้าเราได้ศึกษาคัมภีร์อัลกุรอานอย่างถี่ถ้วน เราก็จะพบว่าพระองค์อัลลอฮ์ ( ซบ. ) ได้ทรงตรัสถึงน้ำที่ใหลลงมาจากฟากฟ้า หรือน้ำฝนเอาไว้ในหลายอายะฮ์ และหลายซูเราะฮ์ด้วยกันในคัมภีร์อัลกุรอาน ตัวอย่างเช่น อายะฮ์ที่ 164 ของซูเราะฮ์อัลบะเกาะเราะฮ์ , อายะฮ์ที่ 57 ของซูเราะฮ์อัลอะอฺรอฟ , อายะฮ์ที่ 34 ของซูเราะฮ์ลุกมาน , อายะฮ์ที่ 65 ของซูเราะฮ์อันนะหฺลฺ , อายะฮ์ที่ 24 ของซูเราะฮ์อัรรูม , อายะฮ์ที่ 39 ของซูเราะฮ์ฟุศศิลัต , อายะฮ์ที่ 63 ของซูเราะฮ์อัลฮัจญ์ , อายะฮ์ที่ 27 ของซูเราะฮ์ อัซซัจญดะฮ์ , อายะฮ์ที่ 13 ของซูเราะฮ์ฆอฟิร , อายะฮ์ที่ 60 ของซูเราะฮ์อันนัมลฺ , อายะฮ์ที่ 22 ของซูเราะฮ์อัลฮิจรฺ , อายะฮ์ที่ 18 ของซูเราะฮ์อัลมุอฺมินูน และอีกหลายซูเราะฮ์ของคัมภีร์อัลกุรอาน
ในปี 1827 นักวิทยาศาสตร์ชาวอังกฤษได้เปิดเผยการค้นคว้าวิจัยที่ว่าน้ำฝนนั้นเมื่อมันตกกระทบบนพื้นดินจะเกิดประจุไฟฟ้าขณะที่สัมผัสพื้นดิน และทำให้เมล็ดพืชต่างๆ พองตัวออกและกระจายไปตามส่วนต่างๆของพื้นดิน ในที่สุดมันก็ทำให้พืชชนิดต่างๆ งอกเงยออกมา
นับเป็นเวลาล่วงเลยมากว่า 1400 ปีแล้วที่พระองค์อัลลอฮ์ ซบ. ทรงตรัสถึงเรื่องนี้ไว้อย่างชัดเจนในซูร์ฮฺ อัลฮัจญ์ โองการที่ 5
قال الله تعالى ﴿ وَتَرَى الْأَرْضَ هَامِدَةً فَإِذَا أَنزَلْنَا عَلَيْهَا الْمَاء اهْتَزَّتْ وَرَبَتْ وَأَنبَتَتْ مِن كُلِّ زَوْجٍ بَهِيجٍ ﴾
سورة الحج / 5
นับเป็นเวลาล่วงเลยมากว่า 1400 ปีแล้วที่พระองค์อัลลอฮ์ ซบ. ทรงตรัสถึงเรื่องนี้ไว้อย่างชัดเจนในซูร์ฮฺ อัลฮัจญ์ โองการที่ 5
قال الله تعالى ﴿ وَتَرَى الْأَرْضَ هَامِدَةً فَإِذَا أَنزَلْنَا عَلَيْهَا الْمَاء اهْتَزَّتْ وَرَبَتْ وَأَنبَتَتْ مِن كُلِّ زَوْجٍ بَهِيجٍ ﴾
سورة الحج / 5
ความว่า “ และเจ้าจะได้เห็นพื้นดินที่แห้งแล้ง ครั้นเมื่อเราได้หลั่งน้ำฝนลงมา มันก็จะเคลื่อนไหวขยายตัว และพองตัว และงอกเงยออกมาเป็นพืช ทุกอย่างเป็นคู่ๆ ดูสวยงาม ”
มหาบริสุทธิ์แด่พระองค์อัลลอฮ์ผู้ทรงยิ่งใหญ่และเกรียงไกร ท่านทั้งหลายโปรดสังเกตความละเอียดอ่อนในการเลือกใช้คำว่า اهْتَزَّتْ ซึ่งมีความหมายว่า การเคลื่อนไหว การสั่นไหวขยายตัว และการพองตัวในอายะฮฺนี้
หลังจาก 14 ศตวรรษผ่านไปเราพึ่งจะเข้าใจความหมายอันลึกซึ้งของโองการนี้ ความรู้ความเข้าใจดังกล่าวเป็นเอกสิทธิ์ของผู้ใดกันเล่า ? และใครคือผู้สอนชายผู้มีอาชีพเลี้ยงแกะให้พึงรู้สิ่งเร้นลับเหล่านี้ ?
มหาบริสุทธิ์แด่พระองค์อัลลอฮ์ผู้ทรงยิ่งใหญ่และเกรียงไกร ท่านทั้งหลายโปรดสังเกตความละเอียดอ่อนในการเลือกใช้คำว่า اهْتَزَّتْ ซึ่งมีความหมายว่า การเคลื่อนไหว การสั่นไหวขยายตัว และการพองตัวในอายะฮฺนี้
หลังจาก 14 ศตวรรษผ่านไปเราพึ่งจะเข้าใจความหมายอันลึกซึ้งของโองการนี้ ความรู้ความเข้าใจดังกล่าวเป็นเอกสิทธิ์ของผู้ใดกันเล่า ? และใครคือผู้สอนชายผู้มีอาชีพเลี้ยงแกะให้พึงรู้สิ่งเร้นลับเหล่านี้ ?
ขอขอบคุณ : ดร.สมชาย (ฮัสบุ้ลเลาะหฺ) เซ็มมี