บันทึก 10 ปีแห่งชีวิต “นิชา หิรัญบูรณะ ธุวธรรม” ‘ภรรยาพล.อ.ร่มเกล้า’ โพสต์ รำลึกถึง ความเจ็บปวด จากการสูญเสียสามี จาก การชุมนุมทางการเมืองปี 53 สะท้อนภาพ ปัจจุบัน หวังภัยโควิดจะทำให้เราไม่ทำร้ายเพื่อนมนุษย์ด้วยกันอีก
วันที่ 10 เม.ย.63 นางนิชา หิรัญบูรณะ ธุวธรรม รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี และภรรยาพล.อ.ร่มเกล้า ธุวธรรม อดีตรองเสนาธิการกองพลทหารราบที่ 2 รักษาพระองค์ ที่เสียชีวิตจากการปะทะกับกลุ่มผู้ชุมนุมแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ(นปช.) ที่แยกคอกวัว เมื่อคืนวันที่ 10 เม.ย.2553 โพสต์ข้อความผ่านเฟบุ๊กส่วนพร้อมหนังสือ “ในความรัก” มีเนื้อหา ดังนี้
๑๐ ปีของชีวิต
จุดจบหัวล้าน 15 ปี ทำง่ายๆ แค่นี้เอง!
น่าทึ่ง! จาก “อดีตธิดาช้าง” ทำอะไรมา เหลือตัวแค่นี้
สาวใหญ่ถูกกักตัวไว้เพราะหน้าเด็กเกินกว่าในรูป!เธออายุ 67 แล้ว อ่าน
๙ เมษา ๕๓ ทำงาน ศอฉ. ราบ ๑๑ อยู่ในสงครามกลางเมืองที่มีเลือดสีแดง อาวุธ ระเบิด
๙ เมษา ๖๓ ทำงานศูนย์โควิด ทำเนียบฯ อยู่ในสงครามที่ศัตรูร้ายไม่ใช่คนและมองไม่เห็น
ย้อนกลับไป ๑๐ ปีก่อน เคยเขียนหนังสือ ในความรักว่า “เราต้องสามัคคีกันเพื่อเตรียมเผชิญกับภัยพิบัติร้ายแห่งธรรมชาติ” และวันนี้ก็มาถึง
ความทุกข์ของมนุษย์เราใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ จนไม่รู้ว่าผ่านชีวิต ๑๐ ปีมาได้อยางไร แต่เมื่อย้อนกลับไปอ่านบันทึก พบว่าความคิดยังเหมือนเดิม
“ต้องทำความดีให้มากพอจึงจะตายได้ ต้องทำความดีให้มากพอจึงจะได้พบพี่”
พี่ร่มเกล้าเป็นแรงบันดาลใจในการทุ่มเททำงานหนักตลอด ๑๐ปีที่ผ่านมา ท่ามกลางความทุกข์ ที่ไม่เคยรู้จักสุข งานเป็นอย่างเดียวที่ทำให้ชีวิตยังพอมีคุณค่า แม้จะเป็นงานที่ไม่มีใครอยากทำ งานที่อยู่เบื้องหลัง งานที่เต็มไปด้วยปัญหา งานที่ไม่มีใครรู้ว่าทำ งานที่ทำร้ายสุขภาพ งานที่กดดันทำไปร้องไห้ไป…แต่ก็เป็นสิ่งเดี่ยวที่ทำให้ชีวิตดำเนินไปได้ในแต่ละวันไม่มีเวลาเหลือให้ต้องคิดถึงอะไร (แม้แต่เวลานอน เลยไม่ค่อยได้เขียน FB เพราะหมดแรงหลับก่อนทุกวัน)
ดำเนินชีวิตโดยไม่ปรารถนาสุข เพียงแค่พยายามประคองให้ฝ่าฟันอุปสรรคและทุกข์ที่เข้ามาไม่สิ้นสุด
๑๐ ปีขอบันทึกจากใจไว้สักครั้ง เพื่อประกาศให้รู้ว่า การเอาชนะโดยใช้ความรุนแรงที่แลกมาด้วยความสูญเสียไม่ได้ให้อะไรกับใครเลย นอกจากจะทำลายชีวิตของผู้หญิงคนหนึ่งและอีกหลายๆ คนให้จมทุกข์แล้ว ในที่สุด เราท่านทุกคนต่างก็ต้องมาเผชิญกับมหันตภัยที่จ้องทำลายมนุษย์ทุกคนโดยไม่เลือกว่าเป็นฝักฝ่ายใด
หวังว่าภัยโควิด19 ครั้งนี้ จะทำให้เราไม่เสียเวลาหันมาทำร้ายเพื่อนมนุษย์ด้วยกันเองอีกต่อไป
นิชา
๙ เมษายน ๖๓
๙ เมษา ๖๓ ทำงานศูนย์โควิด ทำเนียบฯ อยู่ในสงครามที่ศัตรูร้ายไม่ใช่คนและมองไม่เห็น
ย้อนกลับไป ๑๐ ปีก่อน เคยเขียนหนังสือ ในความรักว่า “เราต้องสามัคคีกันเพื่อเตรียมเผชิญกับภัยพิบัติร้ายแห่งธรรมชาติ” และวันนี้ก็มาถึง
ความทุกข์ของมนุษย์เราใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ จนไม่รู้ว่าผ่านชีวิต ๑๐ ปีมาได้อยางไร แต่เมื่อย้อนกลับไปอ่านบันทึก พบว่าความคิดยังเหมือนเดิม
“ต้องทำความดีให้มากพอจึงจะตายได้ ต้องทำความดีให้มากพอจึงจะได้พบพี่”
พี่ร่มเกล้าเป็นแรงบันดาลใจในการทุ่มเททำงานหนักตลอด ๑๐ปีที่ผ่านมา ท่ามกลางความทุกข์ ที่ไม่เคยรู้จักสุข งานเป็นอย่างเดียวที่ทำให้ชีวิตยังพอมีคุณค่า แม้จะเป็นงานที่ไม่มีใครอยากทำ งานที่อยู่เบื้องหลัง งานที่เต็มไปด้วยปัญหา งานที่ไม่มีใครรู้ว่าทำ งานที่ทำร้ายสุขภาพ งานที่กดดันทำไปร้องไห้ไป…แต่ก็เป็นสิ่งเดี่ยวที่ทำให้ชีวิตดำเนินไปได้ในแต่ละวันไม่มีเวลาเหลือให้ต้องคิดถึงอะไร (แม้แต่เวลานอน เลยไม่ค่อยได้เขียน FB เพราะหมดแรงหลับก่อนทุกวัน)
ดำเนินชีวิตโดยไม่ปรารถนาสุข เพียงแค่พยายามประคองให้ฝ่าฟันอุปสรรคและทุกข์ที่เข้ามาไม่สิ้นสุด
๑๐ ปีขอบันทึกจากใจไว้สักครั้ง เพื่อประกาศให้รู้ว่า การเอาชนะโดยใช้ความรุนแรงที่แลกมาด้วยความสูญเสียไม่ได้ให้อะไรกับใครเลย นอกจากจะทำลายชีวิตของผู้หญิงคนหนึ่งและอีกหลายๆ คนให้จมทุกข์แล้ว ในที่สุด เราท่านทุกคนต่างก็ต้องมาเผชิญกับมหันตภัยที่จ้องทำลายมนุษย์ทุกคนโดยไม่เลือกว่าเป็นฝักฝ่ายใด
หวังว่าภัยโควิด19 ครั้งนี้ จะทำให้เราไม่เสียเวลาหันมาทำร้ายเพื่อนมนุษย์ด้วยกันเองอีกต่อไป
นิชา
๙ เมษายน ๖๓