ตำรวจกองปรายปรามคุม 3 มือวางระเบิดมาสอบที่กองปราบ รับจ้องคาร์บอมบ์ 17 จุด ในพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณ
วันที่ 30 พ.ย. ที่ กองปราบปราม เมื่อเวลา 10.40 น. พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รอง ผบ.ตร. พล.ต.ต.สมบัติ มิลินทจินดา รักษาการรอง ผบช.ภ.1 พล.ต.ต.ชยพล ฉัตรชัยเดช รักษาการ ผบก.ส.4 พล.ต.ต.สุทิน ทรัพย์พ่วง รักษาการ ผบก.ป. พร้อมด้วย กำลังคอมมานโด กองปราบปราม ได้ควบคุมตัว นายตาลมีซี โต๊ะตาหยง อายุ 31 ปี นายอับดุลาซิร สือกะจิ อายุ 19 ปี และ นายมูบารีห์ กะนะ อายุ 23 ปี ทั้งหมดเป็นชาว 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญา เลขที่ 2326-2328/2559 ในข้อหาร่วมกันมีวัตถุระเบิดที่นายทะเบียนไม่อาจออกใบอนุญาตให้มีไว้ใช้ในครอบครอง, อั้งยี่, ซ่องโจร มาส่งให้พนักงานสอบสวน กองปราบปรามสอบปากคำ หลังพบว่าเตรียมการก่อเหตุคาร์บอมบ์ 17 จุดในพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล โดยมีเป้าหมาย หรือพื้นที่เสี่ยง ห้างสรรพสินค้า ลานจอดรถ และตามแหล่งท่องเที่ยว ตั้งแต่ช่วงเดือน ต.ค. ที่ผ่านมา หลังจากเมื่อวันที่ 10 ต.ค. ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ได้ปิดล้อมตรวจค้นสถานที่ต้องสงสัยคดีความมั่นคง และยาเสพติด ในย่านรามคำแหง มีนบุรี และหนองจอก กระทั่งจับกุมผู้ต้องหาได้
โดย นายตาลมีซี ยอมรับว่า เดินทางมาจาก อ.ศรีสาคร จ.นราธิวาส แล้วมาถูกจับข้อหามีใบกระท่อม ที่หอพักแห่งหนึ่งย่านรามคำแหง เมื่อวันที่ 10 ต.ค. ที่ผ่านมา ส่วนเป้าหมายที่เตรียมก่อเหตุ ก็จะวางระเบิดกำหนดไว้ คือ ที่บิ๊กซี รามคำแหง สยามพารากอน เซ็นทรัลเวิลด์
ทั้งนี้ ผู้ต้องหาทั้ง 3 รายนั้น ถูกควบคุมตัวของทหารอยู่ที่ค่ายอิงคยุทธบริหาร จ.ปัตตานี เพื่อเข้าสู่ขั้นตอนการสอบสวนคดีความั่นคงมาตั้งแต่ครั้งถูกจับกุมตัวได้ เมื่อการสอบสวนสวนเสร็จสิ้น พล.ต.วิจารณ์ จดแตง หัวหน้าส่วนปฏิบัติการคณะทำงานด้านกฎหมาย คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ก็เข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวน กองปราบปราม ก่อนที่จะนำตัว ผู้ต้องหามาส่งมอบดังกล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเดินทางมาถึง เจ้าหน้าที่ได้ควบคุมตัวผู้ต้องหาทั้ง 3 ราย ลงจากรถตู้ โดยทั้งหมดมีสีหน้าเรียบเฉย ก่อนจะนำตัวมาให้ทีมแพทย์จากโรงพยาบาลตำรวจ ตรวจร่างกายที่ห้องประชุมชิวปรีชา โดยเก็บตัวอย่างดีเอ็นเอในกระพุ้งแก้มของผู้ต้องหาทั้งหมดไว้ ภายหลังจากตรวจร่างกายเสร็จเรียบร้อยแล้ว เจ้าหน้าที่ตำรวจก็ได้นำอาหารเป็นข้าวผัดกะเพราเนื้อไข่ดาว พร้อมน้ำดื่มมาให้ทั้ง 3 คนรับประทาน พร้อมทั้งอนุญาตให้ทำพิธีละหมาด ก่อนแยกผู้ต้องหาทั้ง 3 คน ไปสอบปากคำ ซึ่งใช้เวลานานกว่า 1 ชั่วโมง
ต่อมาก็ได้นำตัวผู้ต้องหาไปชี้จุดประกอบคำรับสารภาพที่หอพักเลขที่ 4/226 ห้อง 207 ชั้น 2 บริเวณเคหะชุมชนเมืองใหม่บางพลี หมู่ 16 ต.บางเสาธง อ.บางพลี จ.สมุทร ปราการ และ พอพักภายใน ซ.รามคำแหง 53 แขวงวังทองหลาง เขตบางกะปิ กทม. ซึ่งผู้ต้องหารับสารภาพว่านำอุปกรณ์การประกอบระเบิดไปเก็บไว้ที่ห้องพักดังกล่าว
รายงานแจ้งว่า กลุ่มผู้ต้องหาคดีดังกล่าวมี 9 ราย มักจะเดินทางมาพักในกรุงเทพฯ และปริมณฑลระยะสั้นๆ เพียง 10 วัน โดยจะทำทีสมัครงานบริษัทใหญ่ๆ แล้วลาออกไป ทั้งนี้ ผู้ต้องหาทั้งหมดให้การยอมรับสารภาพตามที่ถูกกล่าวหา โดยรับว่าเคยก่อเหตุความไม่สงบในภาคใต้ด้วย นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ตรวจพบสารระเบิดทีเอ็นทีปนเปื้อนที่มือผู้ต้องหารายหนึ่งอีกด้วย
จากนั้นเวลา 18.30 น. วันเดียวกัน พ.ต.อ.สุวัฒน์ แสงนุ่ม รอง ผบก.ป. พ.ต.ท.วชิรา ยาวไธสงค์ รอง ผกก.ปพ.บก.ป. พร้อมด้วย กำลังตำรวจคอมมานโด บก.ป. อาวุธครบมือ ควบคุมตัว นายตาลมีซี นายอับดุลาซิร และ นายมูบารีห์ กลับมาคุมตัวไว้ที่ห้องขัง บก.ป. ภายหลังได้พาผู้ต้องหาทั้งหมดไปชี้จุดที่มีการวางแผน และประกอบวัตถุระเบิดเตรียมการสำหรับก่อเหตุวางระเบิด ที่ จ.สมุทรปราการ และ กทม. รวม 6 จุด ได้แก่ 1. ภายในคลองขุด ต.บางเสาธง อ.บางเสาธง 2. บริเวณเชิงสะพานคลองขุด ห่างจากจุดแรก 50 เมตร 3. ที่หอพักไม่มีชื่อ ภายในซอย ฝ.7 ต.บางเสาธง อ.บางเสาธง 4. บริเวณถังขยะหน้าอพาร์ตเมนต์ ซอย ฝ.7 ส่วนจุดที่ 5 บริเวณภายในหอพักในซอย ฝ.9 และจุดที่ 6 ที่อพาร์ตเมนต์ ภายในซอยรามคำแหง 53 แขวงและเขตวังทองหลาง กทม.
อย่างไรก็ดี ในคืนวันเดียวกันนี้ ทางพนักงานสอบสวนจะมีการเบิกตัวผู้ต้องหามาสอบปากคำเพิ่มเติมอีกครั้ง ก่อนที่ช่วงเช้าวันที่ 1 ธันวาคมนี้ จะมีการพิจารณาควบคุมตัวผู้ต้องหาทั้งหมดไปขออำนาจศาลอาญา ผลัดฟ้องฝากขัง แต่หากการสอบปากคำยังไม่แล้วเสร็จ ก็อาจเลื่อนการควบคุมตัวไปฝากขังต่อศาล แต่จะไม่เกินกำหนดระยะเวลาที่พนักงานสอบสวนมีอำนาจควบคุมตัวผู้ต้องหาภายใน 48 ชั่วโมง
พล.ต.อ.ศรีวราห์ กล่าวว่า สืบเนื่องจากเมื่อต้นเดือนตุลาคมที่ผ่านมา มีการข่าวว่าจะมีกลุ่มคนร้ายร่วมกันวาง และก่อเหตุไม่สงบในพื้นที่เสี่ยง อาทิ สถานที่ท่องเที่ยว แหล่งชุมชน ในเขตพื้นที่กรุงเทพมหานคร โดยกลุ่มคนร้ายวางแผนกันอย่างเป็นระบบ มีการแบ่งหน้าที่กันทำและปกปิดวิธีการดำเนินการ โดย นายตาลมีซี นายอับดุลาซิร และ นายมูบารีห์ ทั้ง 3 คนอยู่ในระดับผู้ปฏิบัติการทั้ง 3 คนร่วมกันวางแผนก่อเหตุความไม่สงบในพื้นที่กรุงเทพมหานคร และ ปริมณฑล เหตุเกิดที่ห้องพักหลังมัสยิดยามีอุลอิสลาม ซ.รามคำแหง 53 เขตบางกะปิ กรุงเทพมหานคร อาคารเลขที่ 4/226 ห้องพักเลขที่ 207 ตำบลและอำเภอบางเสาธง จ.สมุทรปราการ และ อ.ศรีสาคร จ.นราธิวาส ระหว่างเดือนกันยายน ถึงวันที่ 17 ตุลาคม 2559 โดยทั้ง 3 สถานที่มีความเกี่ยวพันกัน
พล.ต.อ.ศรีวราห์ กล่าวต่อว่า จากนั้นทราบว่า ทั้ง 3 คน ถูกควบคุมตัวโดยฝ่ายทหาร ตาม พ.ร.ก. ฉุกเฉินที่ค่ายอิงคยุทธบริการ จ.ปัตตานี และได้รับการปล่อยตัวที่ศาลจังหวัดนราธิวาส ในวันที่ 29 พฤศจิกายน 2559 เวลาประมาณ 15.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมจึงได้แสดงหมายจับ และแจ้งข้อหาจับกุมผู้ต้องหาทั้ง 3 ราย
พล.ต.อ.ศรีวราห์ กล่าวอีกว่า ผู้ต้องหาทั้ง 3 คน เป็นระดับปฏิบัติการ มีพฤติกรรมเข้ามาก่อเหตุในพื้นที่กรุงเทพมหานคร เจ้าหน้าที่มีพยานหลักฐานศาลจึงอนุมัติหมายจับ ส่วนเหตุผลที่จะเข้ามาก่อเหตุอยู่ระหว่างการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ จากการสอบปากคำผู้ต้องหาบางส่วนให้การรับสารภาพ บางส่วนให้การภาคเสธ การจับกุมผู้ต้องหาในครั้งนี้สอดคล้องกับการข่าวที่ได้มา ซึ่งขณะนี้ยังไม่มีการข่าวเรื่องนี้จึงไม่น่าเป็นห่วง หลังจากนี้ จะนำตัวผู้ต้องหาทั้ง 3 คน ไปนำชี้จุดทั้งหมด 6 จุด ทั้งนี้ ทั้ง 3 คนอยู่ในพื้นที่จังหวัดนราธิวาส ผู้ต้องหาบางรายยอมรับว่าเคยก่อเหตุในพื้นที่ 3 จังหวัด ทั้งร่วมในเหตุการณ์ยิงครูเมื่อปี 2555 เหตุระเบิดศรีสาคร ปี 2558 ซึ่งตนได้สั่งการให้ ศชต. ขยายผลแล้ว นอกจากนี้ ผู้ต้องหายังให้การเป็นประโยชน์ เชื่อว่า จะสามารถขอหมายจับผู้ก่อเหตุระดับปฏิบัติการกึ่งแกนนำที่อยู่ในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนใต้ได้ ความเห็นส่วนตัวคิดว่าการวางแผนในครั้งนี้ไม่เกี่ยวกับการแบ่งแยกดินแดน
เมื่อผู้สื่อข่าวถามต่อว่าจะเกี่ยวข้องกับการเมืองหรือไม่ ทาง พล.ต.อ.ศรีวราห์ กล่าวว่า ส่วนประเด็นนี้ต้องขอสอบสวนก่อน