ตัวเลขน่าตกใจ แรงงานผ่านด่าน 400 หลบหนี 900

แรงงานไทยในมาเลเซีย ยังคงหลบเข้าไทยทางเส้นทางธรรมชาติ แห่ข้ามแม่น้ำสุไหงโก-ลก กลับเข้าไทยอย่างต่อเนื่องตัว้ลขสูงกว่าผ่านด่านอย่างถูกต้อง

วันที่ 26 เมษายน 2563 พ.อ.เอกพล เลขนอก ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 48 (ผบ.ฉก.48) ร่วมกับ พ.อ.ศุภชัย สงสังข์ รอง ผบ.ชค.ปชด. ร.ท.จิรัฎฐ์ บูรณัติ รองผบ.ร้อย ทพ.เชิงรุก ฉก.ทพ. 48 สนธิกำลังเจ้าหน้าที่ 3 ชุดปฏิบัติการณ์ เดินลาดตระเวนและซุ่มเฝ้าตรวจบริเวณชุมชนบือเร็ง ริมแม่น้ำสุไหงโก-ลก แนวชายแดนไทย-มาเลเซีย ระยะทางกว่า 3 กิโลเมตร หลังทราบเบาะแสมีแรงงานไทยที่ตกค้างอยู่ในรัฐต่างๆของประเทศมาเลเซียเป็นจำนวนมาก เดินทางข้ามจากช่องทางข้ามธรรมชาติเพื่อเข้ามายังฝั่งประเทศไทย

ขณะลาดตะเวนพบคนไทยพยายามเดินข้ามแม่น้ำสุไหงโก-ลก เพื่อข้ามมายังประเทศไทย จึงได้จับกุมแรงงานทั้งหมด 25 คน หลังจับกุมเจ้าหน้าที่ได้นำแรงงานไทยทั้งหมดมายังจุดคัดกรองด่านพรมแดนสุไหงโก-ลก เพื่อเปรียบเทียบปรับคนละ 800 บาท ก่อนจะประสานเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ที่คนไทยกลุ่มนี้อาศัยอยู่มารับตัวที่ด่านพรมแดน อ.สุไหงโก-ลก โดยเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องแต่ละจังหวัดจะทำการกักตัวเพื่อดูอาการ 14 วัน ตามศูนย์ Local Quarantine รองรับผู้ที่ต้องกักตัวเพื่อไม่ให้เกิดการแพร่ระบาดของ COVID -19 ตามกระบวนการควบคุมโรคระบาดต่อไป อย่างไรก็ตามทั้งหมดจะถูกดำเนินคดีหลบหนีเข้าเมือง

ทั้งนี้ตั้งแต่มีการเปิดด่านให้คนไทยเข้ามาพบว่า มีการเดินทางผ่านด่านุถูกต้อง 400 กว่าคน ส่วนหลบหนีตามช่องทางธรรมชาติ ถูกจีบได้มากกว่า 500 คน

แรงงานไทยคนหนึ่ง เปิดเผยว่า ยังไม่ได้กินข้าวเพิ่งจะมีโอกาสได้กินข้าวแรกหิวมากเพราะว่าออกมาจากกัวลาลัมเปอร์ตั้งแต่กลางคืนของเมื่อวานนี้ 25 เม.ย. แล้วก็ทั้งเนื้อทั้งตัวไม่มีเงินติดตัวเลย ดีใจที่ได้กลับมาบ้าน(ประเทศไทย) ดีใจมาก ส่วนตัวทำงานอยู่ที่ร้านอาหารในประเทศมาเลเซีย กว่า 10 ปี แต่หลังจากเกิดการแพร่ระบาดของเชื่อไวรัสโควิด-19 ก็ได้รับความเดือนร้อนเป็นอย่างมาก

ตนและเพื่อนได้ตัดสินใจกลับมายังประเทศไทย โดยเลือกทางช่องทางธรรมชาติ หรือการข้ามผ่านลำน้ำโกลกมา เนื่องจากการข้ามมาด่านชายแดนมีปัญหา รู้ว่าข้ามมาทางช่องทางธรรมชาตินั้นผิดกฎหมาย แต่ตนเองและเพื่อนๆมีความต้องการอยากกลับบ้านมาก และตรงกับช่วงเดือนรอมฎอนอีกด้วย จึงตัดสินใจมา แต่ก็ต้องเสียค่าใช้จ่ายเยอะพอสมควร ซึ่งการเดินทางมาในครั้งนี้ค่อนข้างมีความยากลำบาก และหลายขั้นตอน และใช้ระยะเวลา แต่พอได้เดินทางกลับมาเจอเจ้าหน้าที่จากทางประเทศไทย ทั้งทหาร ตำรวจ ก็ได้รับการดูแลอย่างดี ขั้นตนมีการตรวจวัดอุณภูมิของร่างกาย และรับประทานอาหาร ขอขอบคูณทางเจ้าหน้าที่ที่มาคอยแล ให้คำแนะนำเรื่องต่างๆ และฝากถึงเพื่อนๆที่ยังคงติดข้างที่ประเทศมาเลเซีย อย่ากังวลเรื่องการเดินทางกลับมา ขอแค่กลับมาให้เจอเจ้าหน้าที่ทางประเทศไทย และทำตามขั้นตอนของทางกฎหมายของเจ้าหน้าที่ก็เพียงพอแล้ว

Cr.แนวหน้าออนไลน์