หมอสหรัฐฯไม่ทน ออกโรงขวางกลุ่มต้านล็อคดาวน์ ชี้เอาชีวิตมาเสี่ยงเพื่อเศรษฐกิจ

เจ้าหน้าที่ด้านสาธารณสุขขึ้นไปอยู่บนท้องถนนเพื่อตอบโต้พวกผู้ประท้วงต้อต้านมาตรการล็อกดาวน์ทั่วสหรัฐฯ โดยเตือนสติพวกไม่ปฏิบัติตามคำแนะนำเว้นระยะห่างทางสังคม ว่า พฤติกรรมของพวกเขา กำลังทำให้ชีวิตแพทย์และพยาบาลที่อยู่แถวหน้าในการต่อสู้กับโควิด-19 ตกอยู่ในความเสี่ยง

เดลิเมล์ รายงานว่า มีผู้ประท้วงชุมนุมกันทั่วสหรัฐฯ อาทิ รัฐเวอร์จิเนีย, แคลิฟอร์เนีย, นิวยอร์ก, โคโลราโด, แอริโซนา และ เวอร์มอนต์ ต่อต้านมาตรการอยู่แต่ในบ้านเพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19) พวกเขาเรียกร้องให้เหล่าผู้ว่าการรัฐยกเลิกคำสั่งล็อกดาวน์ โวยวายว่า มันกำลังก่อความเสียหายแก่เศรษฐกิจและทำประชาชนหลายล้านคนต้องตกงาน

ในเมืองริชมอนด์ รัฐเวอร์จิเนีย พวกผู้ชุมนุมต่อต้านล็อกดาวน์ ขับรถต่อแถวเป็นขบวนประท้วงไปทั่วเมือง ขณะที่บางส่วนเดินเท้าไปรวมตัวกันไปที่จัตุรัสแคปิตอล แสดงพลังขัดขืนคำสั่งหยุดอยู่บ้านของผู้ว่าการรัฐ ราล์ฟ นอร์แธ ซึ่งกำหนดบังคับใช้ไปจนถึงวันที่ 10 มิถุนายน
แต่ในบรรดาผู้ประท้วงที่กระตือรือร้นขอให้กลับมาเปิดเศรษฐกิจอีกครั้ง พบเห็น ดอกเตอร์ เอริค บรุห์น และ คริสเทน ภรรยาของเขาและเป็นอดีตพยาบาล ยืนดูอย่างสงบอยู่ด้านข้างของขบวนผู้ชุมนุม
สองสามีภรรยาซึ่งใส่ชุดกาวน์และสวมหน้ากากอนามัย ชูป้ายหันหน้าเข้าหาพวกผู้ประท้วง ซึ่งเขียนข้อความเตือนสติผู้ชุมนุมตรงๆว่า “คุณไม่มีสิทธิ์เอาชีวิตเราไปเสี่ยง กลับบ้านไปซะ!”
 
คริสเทน ชูป้ายข้อความว่า “ลงชื่อที่นี่หากใครอยากตายเพื่อเศรษฐกิจ” เหน็บแนมผู้ชุมนุมที่เลือกใช้สิทธิเสรีภาพออกมารวมตัวกันท่ามกลางการแพร่ระบาดของโรคระบาดใหญ่ ผิดกับทางบุคลากรด้านสาธารณสุขที่ไม่มีสิทธิ์เลือก
 
“ความจริงก็คือมีคนเยอะกว่านี้มากที่ไม่เห็นด้วยกับการเปิดประเทศ แต่พวกเขาไม่ออกมาประท้วง เพราะว่าพวกเขาอยู่บ้านทำในสิ่งที่ถูกต้อง” ดอกเตอร์ บรุห์น กล่าว
ทั้งคู่ไม่ได้ยืนหยัดเพียงลำพังในความพยายามตอบโต้พวกผู้ประท้วงต่อต้านมาตรการล็อกดาวน์
 
ในแอริโซนา พยาบาล ลอเรน ลีนเดอร์ ในชุดทำงานและสวมหน้ากากอนามัย ยืนกอดอกด้วยความมุ่งมั่นเคียงข้างเพื่อนร่วมงานคนอื่นๆ จ้องมองไปที่พวกผู้ประท้วงที่พูดจาเสียดสีและโบกธงอยู่ตรงหน้า
“นี่สำหรับเพื่อนร่วมงานด้านสาธารณสุขของฉันทุกคน นี่สำหรับคนไข้ของฉันของทุกคน ฉันมาที่นี่เพื่อเป็นตัวแทนพวกคุณ ฉันมาที่นี่เพื่อคนทั้งประเทศ ช่วยเราเท่ากับช่วยคุณ” ลีนเดอร์โพสต์บนสื่อสังคมออนไลน์
 

ทั้งนี้ ตัวเลขล่าสุด (24 เมษายน) สหรัฐฯมีผู้ติดเชื้อ 880,204 คน ยังคงรักษาตัว 744,437 คน เสียชีวิต 49,854 คน รักษาหาย 85,922 คน