จับแล้ว16 ราย ! ปล่อย “ข่าวปลอม” ป่วนเมือง “พุทธิพงษ์” คาดโทษ ทำอีก คุก5ปี ปรับ1แสน

“พุทธิพงษ์” แจ้ง สตช. เร่งตรวจสอบ ข่าวปลอม หลังแพร่ ป่วนเมือง ล่าสุด จับได้แล้ว 4 ราย จงใจ โพสต์ อ้าง ” ไปรษณีย์ เตือนมีจม.ติดเชื้อโควิด ส่วนอีก12 ราย ล้วนทำให้เกิดความสับสน เตือนให้ หยุดการกระทำ ชี้มีโทษหนัก คุก5ปี ปรับ1แสน

นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) ได้ประสานงานกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพื่อให้ตรวจสอบและดำเนินคดีกับการเสนอข่าวปลอมหรือบิดเบือน สร้างความตื่นตระหนกและความสับสนในสังคม ในช่วงที่รัฐบาลประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน ซึ่งก่อนหน้านี้ได้ดำเนินการไปแล้วหลายราย ล่าสุดตรวจพบอีก 16 ราย โดยศาลได้ออกหมายค้นและเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ดำเนินการตามขั้นตอน เพื่อบังคับใช้กฎหมายอย่างจริงจังและเด็ดขาด

สำหรับผู้กระทำผิดที่เจ้าหน้าที่เข้าตรวจและดำเนินคดีแล้ว มี 4 ราย ซึ่งทั้งหมดโพสต์ข้อความเดียวกันว่า “ไปรษณีย์เตือน! มีผู้ติดเชื้อ COVID-19 จากจดหมายหรือพัสดุ” คือ รายที่ 1 ผู้ใช้เฟสบุ๊ก ตอง สโลว์ไลฟ์ อยู่ในพื้นที่ อ.ดอนสัก จ.สุราษฎร์ธานีรายที่ 2 ผู้ใช้เฟสบุ๊ก Zeaza Petra อยู่ในพื้นที่ อ.พระสมุทรเจดีย์ จ.สมุทรปราการ รายที่ 3 ผู้ใช้เฟสบุ๊ก วิสุทธิ์ อยู่ในพื้นที่ อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี รายที่ 4 ผู้ใช้เฟสบุ๊ก Sanchai อยู่ในพื้นที่ อ.วารินชำราบ จ.อุบลราชธานี

ส่วนผู้กระทำผิดที่เจ้าหน้าที่เตือนให้ระงับ หรือ สั่งให้แก้ไขข่าว มี 12 ราย รายที่ 1 ผู้ใช้เฟสบุ๊ก จรัญ อยู่ในพื้นที่เขตคลองเตย กทม. และรายที่ 2 ผู้ใช้เฟสบุ๊ก มนันยา อยู่ในพื้นที่เขตบางรัก กทม. โพสต์ข้อความว่า โพล “ธนาคารกรุงไทยสาขาเซนหลุยส์ปิดทำการ หลังพบพนักงานติดเชื้อ COVID-19 หลายคน”

รายที่ 3 ผู้ใช้เฟสบุ๊ก Wittawin อยู่ในพื้นที่เขตราษฎร์บูรณะ กทม. โพสต์ว่า “ลือ อาชีพที่ไม่ได้รับอนุญาต ให้ผ่านด่านระหว่างตำบล-อำเภอ” รายที่ 4 ผู้ใช้เฟสบุ๊ก Daravut อยู่ในพื้นที่ เขตลาดพร้าว กทม. รายที่ 5 ผู้ใช้เฟสบุ๊ก Wintadcha อยู่ในพื้นที่เขตหนองแขม กทม. รายที่ 6 ผู้ใช้เฟสบุ๊ก Isaree อยู่ในพื้นที่ อ.ไทรน้อย จ.นนทบุรี รายที่ 7 ผู้ใช้เฟสบุ๊ก อาณัติ อยู่ในพื้นที่ อ.เมือง จ.นครราชสีมา รายที่ 8 ผู้ใช้เฟสบุ๊ก Jon อยู่ในพื้นที่ อ.เมือง จ.เชียงใหม่ ทั้งหมดโพสต์ว่า “ลือหึ่ง! ศุลกากร ห้ามนำเข้าหน้ากากอนามัย และชุดป้องกันเชื้อโควิด-19”

รายที่ 9 ผู้ใช้เฟสบุ๊ก Tik อยู่ในพื้นที่ อ.เฉลิมพระเกียรติ จ.สระบุรี รายที่ 10 ผู้ใช้เฟสบุ๊ก นิตยา อยู่ในพื้นที่ อ.เฉลิมพระเกียรติ จ. สระบุรี โพสต์ว่า “พรก.สถานการณ์ฉุกเฉินเพิ่มโทษ ออกนอกบ้านไม่ใส่หน้ากากอนามัย ปรับ 2,000 บาท” รายที่ 11 ผู้ใช้เฟสบุ๊ก ลูกสาว’ ว ฟี’ ฟาย อยู่ใน อ.พญาเม็งราย จ.เชียงราย โพสต์ว่า “เชียงของอนุญาตให้เล่นน้ำสงกรานต์ได้” และ รายที่ 12 ผู้ใช้เฟสบุ๊ก Phuketandamannews อยู่ใน อ.เมือง จ.ภูเก็ต โพสต์ว่า “ภูเก็ตหน้ากากขาดแคลนหนัก เจ้าหน้าที่ต้องซักแล้วเอามาใช้ใหม่”

นายพุทธิพงษ์ กล่าวว่า ผู้กระทำผิดกระจายอยู่ทั่วประเทศ แต่เจ้าหน้าที่ก็สามารถติดตาม ตรวจสอบ และดำเนินการตามกฎหมายได้ จึงอยากให้พี่น้องประชาชนเชื่อมั่นว่ารัฐบาลและเจ้าหน้าที่ทำงานกันอย่างเต็มที่ แม้บางเรื่องอาจจะล่าช้าบ้างเพราะมีขั้นตอนที่ต้องทำอย่างรอบคอบ แต่ก็จะปรับปรุงให้ดียิ่งขึ้น ตามนโยบายของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ที่ให้ความสำคัญกับเรื่องนี้ นอกจากนี้ ยังขอเตือนไปยังผู้ที่จะโพสต์หรือแชร์ข่าวปลอมให้ระมัดระวัง เพราะสิ่งที่ทำจะส่งผลเสียต่อส่วนรวม และผู้กระทำผิดจะต้องถูกดำเนินคดีตามกฎหมายในอัตราโทษสูง เช่น จำคุกไม่เกิน 5 ปี ปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ หรือ จำคุกไม่เกิน 2 ปี ปรับไม่เกิน 40,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ