เสียงจากกำนันภาชีถึงบังหมาน ‘ทำเพื่อศาสนา แต่มัสยิดไม่รับฝัง’

11177

เรื่องราวของบังหมาน หลายคนคงไม่รู้จัก ยกเว้นภาชี และคนในสายดะวะห์ เขาเสียชีวิต จากการติดเชื้อโควิด-19 เป็นรายที่ 43 หลังกลับจากการเดินทางไปดะวะห์ที่สุราเวสี อินโดนีเชีย

บังหมาน เป็นคนสงขลา เดินทางมากับครอบครัวไปขายพริกแกงที่ภาชี พระนครศรีอยุธยา บังหมานเริ่มสร้างบาแลเพื่อให้เด็กๆเยาวชนมุสลิมในภาชี และลูกหลานได้เรียนศาสนา ต่อมาได้ขึ้นทะเบียนเป็นมัสยิด

บังหมานเข้าร่วมดะวะห์กับสายมัรกัสมีนบุรี เป็น 1 ในดะวะห์ไทยกว่าคนที่เดินทางไปสุราเวสี ตามการแถลงของศบค. ระบุว่า บังหมาน เดินทางเข้าร่วมพิธีทางศาสนาที่อินโดนีเซีย วันที่ 24 มี.ค กลับไทย . วันที่ 2 เม.ย. ไข้สูง ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ เข้ารับการักษาที่ รพ.แห่งหนึ่ง ใน จ.พระนครศรีอยุธยา อาการแย่ลงเรื่อยๆ และเสียชีวิตวันที่ 14 เม.ย.

บังหมานหลังกลับจากอินโดนีเชีย ได้เข้ากักตัวเอง ที่มูลนิธิแห่งหนึ่ง ที่ ลุมพลี พระนครศรีอยุธยา หลังเดินทางกลับจากอินโดนีเชีย  พร้อมคณะ 6 คน จนวันที่ 2 มีอาการป่วย ถูกนำไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลพระนครศรีอยุธยา ตรวจพบเชื้อโควิด-19

ต่อไปนี้ เป็นเรื่องราวของบังหมานที่สะท้อนจากกำนันตำบลภาชี  กำนันเสรี รัตนพันธุ์ศรี ที่ได้คลุกคลีสนิทสนมกับบังหมานมาหลายปี

วันที่ 3  เมษายน หลังบังหมานเข้าโรงพยาบาล ได้เกิดการตื่นตระหนกที่ภาชี กำนันเสรี โพสต?ในเฟซบุํคว่า

เรียน พี่น้องชาวภาชี ครับ

ผู้ป่วยรายที่4 ที่มีชื่อและบ้านอยู่ในภาชี

ผมขอชี้แจงว่าผู้ป่วยรายนี้ไม่ได้เดินทางเข้ามาในอำเภอภาชีเลย นับตั้งแต่ลงเครื่องกลับจากอินโดนีเซีย

ผมได้ให้กักตัว14วันก่อน ถ้าครบถึงจะเดินทางเข้าภาชีได้

ผมขอยืนยันว่า ไม่ได้เดินทางเข้ามาในอำเภอภาชีเลย

แต่เพื่อความสบายใจของคนภาชี ทางครอบครัวเค้ายินดีกักตัวเองทั้งครอบครัว 14วัน ทางครอบครัวของผู้ป่วยน่ารัก และให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ทุกอย่าง

วันที่ 4 เมษายน โพสต์อีกครั้งว่า

ผมขอเล่าประสบการณ์ตอนไปแจ้งข่าวและสอบสวนโรคผู้ป่วยรายที่4 ให้ทุกท่านฟังนะครับ

ทันทีที่เราทราบ ทีมควบคุมโรคของภาชี เดินทางไปบ้านผู้ป่วยรายที่4

ตอนนั้นพวกเขายังไม่รู้ เราได้แจ้งข่าวการติดเชื้อให้ครอบครัวเค้าทราบ พวกเขาทั้ง ตกใจ เสียขวัญ กังวล และเป็นห่วง พ่อของเขา สามีของเขา ญาติของเขา

บางคนร้องไห้ บางคนทำอะไรไม่ถูก แต่พวกเขาทุกคนก็ให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ทุกอย่างเป็นอย่างดี

พวกเขาเป็นผู้ได้รับผลกระทบ พวกเขาไม่ได้อยากให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้

ผมขอเถอะนะครับ อย่าไปว่า อย่าใช้คำหยาบ อย่าไปรังเกียจพวกเขา ใจเขาใจเรา

เห็นใจพวกเขาบ้าง แค่นี้เค้าก็เจ็บมากแล้ว ที่มีคนในบ้านเป็นผู้ป่วย

เขาเป็นแค่ผู้ป่วยวันนึงเขาก็ต้องหาย ครอบครัวเขาไม่ใช่ผู้ป่วย

จนวันที่ 15 เมษายน หลังมีการประกาศการเสียชีวิต อย่างเป็นทางการ กำนันโพสต์ว่า

หลายท่านคงได้ทราบการเสียชีวิตของบังหม่านแล้ว

ผมจะขอเล่าในส่วนที่ท่านยังไม่ทราบละกันนะครับ

บังหม่านย้ายครอบครัวจากสงขลา มาอยู่ที่ภาชี10กว่าปีแล้ว ทันทีที่ลงหลักปักฐาน บังหม่านก็เข้ามาหาผม มารายงานตัว เราสนิทกันตั้งแต่วันนั้น

บังหม่านนิสัยดี ครอบครัวก็นิสัยดี

บังหม่านกลัวหมามาก หมาอ้วนๆของผม2ตัว แกก็กลัว แกจะวิ่งหนี (น่าจะเป็นเพราะเหตุผลทางศาสนา)

บังหม่านซื่อสัตย์มาก บังมาจ่ายเงินค่าสินค้า ลูกน้องผมหาบิลไม่ครบ บังก็ไม่ยอม บังบอกมีบิลอีก ต้องจ่ายเพิ่มอีก

บังหม่านสร้างมัสยิดด้วยเงินส่วนตัว วันที่ได้รับรองการเป็นมัสยิด แกดีใจมาก รีบมาอวดผม

ความตั้งใจสูงสุดของบังหม่าน คือ ไปประกอบพิธีฮัจญ์ที่ประเทศซาอุดีอาระเบีย แต่บังหม่านไม่มีโอกาสได้ไปอีกแล้ว

วันนี้บังหม่านเสียชีวิตไปแล้ว แต่ที่พวกท่านไม่ทราบ คือ บางกุโบร์ ไม่ยอมรับศพแกเพราะขาดความเข้าใจที่ถูกต้อง ทั้งที่ตลอดชีวิตบังหม่านทำเพื่อศาสนามาโดยตลอด

พวกเราหลงลืมอะไรไปรึป่าว เพราะ

อัตลักษณ์ที่ดีที่สุดที่อยู่ในนิสัยคนไทย คือ “ความมีน้ำใจ”

วันที่17เมย.นี้ ครอบครัวของบังจะพ้นระยะกักตัว14วันแล้ว และจนถึงวันนี้ทุกคนปรกติดี ไม่มีไข้ ไม่มีไอ

ผมอยากเห็นคนภาชี แสดงน้ำใจ ทำให้คนที่อื่นได้เห็นว่า ถึงเราจะเป็นอำเภอเล็กๆ แต่ คนภาชีเรามีน้ำใจ

ปล. ครอบครัวของบังถึงแม้จะพ้นระยะเวลากักตัวแล้ว แต่จะยังไม่กลับไปขายของ แต่ทันทีที่ครอบครัวบังกลับไปขายของ ผมจะไปซื้อคนแรก

โพสนี้ถึงน้าหม่าน ขอให้น้าไปสู่สรวงสวรรค์

วันที่ 17 เมษายน sken junpadungsuk โพสต์ว่า 10โมงเช้า นายอำเภอภาชี ผม กำนัน สาธารณสุข อ.ภาชี และเจ้าหน้าที่ส่วนที่เกี่ยวข้องต่างๆ ได้นัดกันมาเพื่อให้กำลังใจกับครอบครัว”เสมอภพ”
และท่านนายอำเภอได้มอบประกาศพ้นระยะการกักตัว14วัน(ครบ14วันเมื่อวานนี้)
แต่ทางบังรอง คนที่เป็นเหมือนเสาหลักของครอบครัวคนต่อไปก็ยืนยันว่ายังจะไม่ออกไปขายของจนกว่าจะครบ30วัน ถ้าไม่มีความจำเป็นใด ก็จะไม่ออกจากบ้าน
เพื่อความสบายใจของคนภาชีและทุกๆคน
พร้อมกันนี้กำนันเสรีได้มอบไข่ไก่ที่จะไว้ทำอาหารทานในบ้านต่อในช่วงเวลาที่เหลือ

วันนี้พวกเรามายืนยันให้คนภาขีมั่นใจว่า ครอบครัวนี้ทั้งบ้านไม่มีใครติดเชื้อ
แถมผลเจาะเลือดของลูกสองคนก็เป็นลบ ปลอดภัย ไม่มีใครป่วย
มีหนังสือราชการยืนยันชัดเจน ลงนามทั้ง3หน่วยงาน อำเภอ โรงพยาบาล สาธารณสุขอำเภอ