ถึงวันนี้ ประเด็นนี้คงเป็นโจทย์ใหญ่ของสังคมมุสลิม รวมทั้งดะวะฮฺเองที่จะต้องปรับตัวและแก้ไขปรับปรุงกันไป เพราะนับวันยิ่งโด่งดังเป็นพิเศษ(ประเทศอินเดีย) แน่นอน ต้องถูกกล่าวว่าและถูกโจมตีเป็นธรรมดา
“ดะวะฮฺคืออะไร? : ปริศนาข้อใหญ่ที่ใคร ๆ อยากรู้”
บทความโดย บาบอเซร์ ปอเนาะภูมี วันที่ 17 เมษายน
***บทความนี้ยาว แต่มีคุณค่ามากครับ อ่านให้จบนะครับ***
คำว่า “ดะวะฮฺ” (การเชิญชวน) หรือ “ญามาอะฮฺตับลีฆ” อาจเป็นคำถามที่สำคัญที่สุดในขณะนี้ เพราะสื่อทุกช่องนำเสนอ ไม่ว่าจะเป็น หนังสือพิมพ์ ทีวี หรือเพจต่าง ๆ ทั้งด้านดีและด้านไม่ดี แต่ที่น่าสนใจมากไปกว่านั้นคือ.
“ท่ามกลางวิกฤติโควิด Covid 19 ชาวดะวะฮฺเอง (บางคน) ได้นำเสนอคลิปที่อื้อฉาวพอสมควร ไม่ว่าจะเป็นคลิปนั่งจิบน้ำชาตอนเย็นที่บอกว่า
“หลายคนกลัวกลัวโรคมากกว่ากลัวพระองศ์อัลเลาะฮฺ์”(ซบ.)
หรือบางคลิปที่พูดถึง
“โรคระบาคโคโรนา Covid 19 ซึ่ง ญามาอะฮฺ (กลุ่มที่จัดส่งออกไป) ไม่กลัวโรคระบาคโคโรน่า 19 ที่ไหนมีโครโรนา ดะวะฮฺจะไปที่นั่น”
อ่านถึงตรงนี้อยากให้ทุกคนมีสตินะครับ !!!
กลุ่มที่นำเสนอก็ต้องมีสติ กลุ่มที่ได้เห็นคลิปก็ต้องมีสติและการแชร์ต่าง ๆ ก็ต้องมีสติ เพราะทั้งหมดนี้ล้วนอยู่ที่สติและการเปิดใจ เพราะในบทความของผม “ความเข้าใจสำคัญกว่าความรู้”
ซึ่งผมเองได้บอกว่า “แม้สัจธรรมจะอยู่ตรงหน้า หากปิดตาก็พร่าเลือน”
ด้วยเหตุนี้ วิกฤติเช่นนี้ ทุกคนต้องมีสติ
แม้บางคนบอกเตือนผมว่า ประเด็นเหล่านี้ไม่ควรนำเสนอเพราะมันล่อแหลม ใช่ครับ มันล่อแหลม อาจเป็นสาเหตุให้ใครหลายคนมาด่าคนมุสลิม ผมเข้าใจ “แต่ความจริง มุสลิมก็สมควรโดนด่านะครับ ในเวลานี้ โดยเฉพาะกลุ่มที่อัดคลิป เพราะมันไม่ใช่เวลาที่เราจะมีแสดงอะไรขวางโลกแบบนี้”
หากคนอื่นจะด่ามุสลิม หรือ มุสลิมจะด่าดะวะฮฺ ผมบอกว่า “ก็ด่าไปเถอะครับ” เพราะการด่า คือ สัญญาณแห่งความผิดพลาดและเตือนสติ เพื่อการปรับตัวแก้ไข หากไม่มีใครด่าบ้าง เราก็จะทำอะไร ตามใจเรา
“ไม่ฟังใคร หรอยพุ่ง”
ด่ากัน เตือน กัน และรักกันด้วยสติ เผื่อเขา เรา ท่าน และทุกคน ได้ปรับตนเองและจูนเข้าหากันครับ แน่นอนการนำเสนอคลิปของพี่น้องดะวะฮฺนั้น ไม่มีอะไรที่จะต้องพูด เพราะภาพมันฟ้องและถือเป็นการกระทำที่ “กร่างและไม่สมควรปกปิด” จนมีบางคนถึงกลับบอกว่า มีคลิปนั้นทำให้คนด่ามุสลิม
เอาตามความจริงนะครับ ผมเป็นหนึ่งในมุสลิม และตอนนี้บุคคลที่สังคมควรด่าในลำดับต้น ๆ คือ “คนมุสลิม” อย่าเสียใจที่คนอื่นด่าเราครับ แต่ควรมีสติแล้วตั้งคำถามว่า
“เขาด่าเราทำไม?”
เพราะวิดีโอจากคลิปคือ คนมุสลิม แม้จะเพียงกลุ่มเล็ก ซึ่งแน่นอน เป็นการกระทำที่ไม่เหมาะ ไม่ควรอย่างยิ่งในมุมมองของทุกคน แม้บางคนอยากจะพูดหรือ รำคาญ กระนั้น อัดคลิปในลักษณะดังกล่าวก็ไม่ถูกต้องตาม “หลักการของดะวะฮฺ” หรือ “อุโซลดะวะฮฺ” เพราะหัวใจหลักของกลุ่มดะวะฮ์ คือ “การให้เกียรติผู้อื่น” หรือ “อิกรอมมุสลิมมีน” ตามหลัก 6 ซีฟัต
ซึ่งผมไม่เห็นว่า การอัดคลิปดังกล่าวให้เกียรติคนอื่นตรงไหน นอกจาก “กร่าง”
ถึงวันนี้ ประเด็นนี้คงเป็นโจทย์ใหญ่ของสังคมมุสลิม รวมทั้งดะวะฮฺเองที่จะต้องปรับตัวและแก้ไขปรับปรุงกันไป เพราะนับวันยิ่งโด่งดังเป็นพิเศษ(ประเทศอินเดีย) แน่นอน ต้องถูกกล่าวว่าและถูกโจมตีเป็นธรรมดา
แม้ชาวดะวะฮฺบางคนออกมาบอกว่า
“สังคมไทยมองกลุ่มตนเอง เป็นแกะดำและถูกโจมตี”
แต่สิ่งที่ควรต้องถามตัวเองให้มากคือ
“ทำไมถึงถูกโจมตีและทำไมจึงถูกมองเป็นแกะดำ”
อันนี้ต่างหากที่ต้องถามตัวเองให้มาก
ท่านจุฬาราชมนตรี รวมทั้งผู้นำตับลีฆ เพราะ ผู้นำตับลีฆออกมาประกาศแล้วว่า “ให้ชาวดะวะฮฺแต่ละประเทศตามท่านจุฬาราชมนตรีของประเทศนั้น ๆ ”
กระนั้นก็ยังมีชาวดะวะฮฺบางคนถึงกลับโพสต์ว่า
“จะตามท่านจุฬา หากคำสั่งนั้นไม่ขัดกับท่านนบีฯและพระองศ์อัลเลาะฮฺ์(ซบ.) แต่การประกาศไม่ให้ไปมัสยิดนั้น ขัดขืนคำสั่งท่านนบีฯที่บอกว่า ให้รักษาละหมาดที่มัสยิด ด้วยเหตุนี้ เราไม่ตาม”
ไม่ว่าจะอย่างไร เหล่านี้คือ บททดสอบสำคัญและชาวมุสลิมในประเทศไม่ว่าจะดะวะฮฺหรือไม่ใช่ดะวะฮฺ ต้องหันมาทบทวนตัวเองกันเป็นพิเศษ เพราะสื่อ คลิป โรคระบาคและวิกฤติมันฟ้องซึ่งไม่สามารถหลุดพ้นจากคำดุด่าและโจมตีได้ในเวลานี้
“แล้วอะไรคือดะวะฮ์”
คำถามนี้
ค่อนข้างกว้าง
สมควร…จะขอตอบสั้น ๆ ง่าย ๆ “ดะวะฮฺ” คือ “กลุ่มชาวมุสลิมที่ออกมาขับเคลื่อนเพื่อฟื้นฟูตัวเองให้เป็นบ่าวที่ดี” ซึ่งไม่ต่างจาก “การเคลื่อนไหวของภาคประชาชนทั่วไป หรือ กลุ่มเคลื่อนไหวต่าง ๆ แต่กลุ่มดะวะฮฺ ไม่ได้เป็นกลุ่มที่ออกมาเคลื่อนไหวเรื่องการเมือง แต่พวกเขา ขับเคลื่อน เพื่อสร้างความรักและความเป็นปึกแผ่นให้กับสังคมมุสลิมและสังคมโลก
พวกเขาจึงเน้นการเยี่ยมเยือน การไปมาหาสู่ การดูแล การช่วยเหลือ ซึ่งอยู่ภายใต้หลักการดะวะะฮฺ 6 ซีฟัต (คุณลักษณะ)คือ (1) เน้นการสร้างความศรัทธาในเรื่องของพระเจ้าฯและศาสดาฯ (2) การละหมาดที่สงบนิ่ง (3) การหาวิชาความรู้และการรำลึกถึงพระเจ้าฯ (4) การช่วยเหลือและให้เกียรติซึ่งกันและกัน (5) การสร้างความบริสุทธิ์ใจในการกระทำฯ (6) การเสียสละในหนทางของพระเจ้าฯทั้งเวลา ทรัพย์สินและร่างกาย
นั่นก็คือ คำตอบที่ พวกเขาออกไปทั่วโลกในนาม 3 วัน 40 วัน 4 เดือน เพื่อเสียสละและสร้างความศรัทธาให้กับตนเอง ด้วยการรักษาเงื่อนไขและกฎอย่างเคร่งครัด
“ถึงตอนนี้ ทุกคนจะสะอึกอีกครั้ง เพราะ ภาพที่ปรากฏในสื่อและคลิป เวลานี้มันคนละเรื่องกัน ผมขอบอกนะครับ ว่า นั่นคือ บางคน เพราะดะวะฮฺ ส่วนใหญ่ยึดมั่นในหลักคำสอนของกลุ่มอย่างเคร่งครัด”
เพราะบางครั้งมีดที่มีประโยชน์ หากนำมาใช้ผิด ก็ให้โทษได้ครับ
กลุ่มดะวะฮฺนี้มีอยู่ทั่วโลกและในทุก ๆ ประเทศก็จะมีผู้นำที่เราเรียกว่า “อามิร” ซึ่งใน ประเทศไทยมีศูนย์กลางดะวะฮ์แห่งประเทศไทย มัรกัสยะลา
(บาบอเซร์ ปอเนาะภูมี )ประเทศไทย .อามีน. วัสลาม.