ถามหา’ยีแม โกลก’ อามีรดะวะห์ จะรับผิดชอบอย่างไรกับความเสียหายที่เกิดขึ้นนี้

มัรกัสยะลา เป็นสายดะวะห์ สายเดียวกับมัรกัสนิซัมมมุดดีน เดลี ประเทศอินเดีย ที่เมาลานา ซาอัด เป็นหัวหน้าใหญ่ ซึ่งกำลังถูกตำรยจอินเดียติดตามจับกุมข้อหาต่อต้านคำสั่งปิดมัสยิดของรัฐบาลอินเดีย เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 เป็นแนวคิด ที่ส่งต่อมายังดะวะห์ในอินโดนีเชีย เจ้าของคลิป ที่ระบุว่า กลัวโควิดไม่กลัวอัลเลาะฮ์ มีโควิดที่ไหนให้ไปญุมอัตที่นั่น และแนวคิดที่ส่งต่อมายังดะวะห์บางกลุ่มในประเทศไทย

เมื่อวันที่ 24 มีนาคม ผู้ใช้ชื่อว่า เตือนฉันเตือนเธอ ได้โพสต์คลิปเสียงลงยูบ ใช้ชื่อ ยีแม โกลก แกนนำดะวะห์ บายานซัดจุฬาราชมนตรีว่า เอาฮูก่มมาจากไหน คลิปเสียงภาษามลายู เวลาประมาณ 5 นาที วิพากษ์วิจารณ์ประกาศของจุฬาราชมนตรี ที่สั่งให้งดการละหมาดญามาอะห์(ละหมาดรวมในมัสยิด) ละหมาดญุมอะห์(ละหมาดวันศุกร์) ถามว่า เอาบทบัญญัติมาจากไหน ถึงห้ามละหมาดในมัสยิด ในเมื่ออัลเลาะฮ์สั่งให้ละหมาดในมัสยิด

‘กลัวเชื้อโรคจับมือสลามก็ไม่ได้ ดัจญาณยังไม่มาเลย ห้ามเข้ามัสยิดซะแล้ว กลัวไวรัส แม้กระทั่งไม่กล้าละหมาดวันศุกร์ เอาฮูกุ่มมาจากไหน’ เสียงในคลิป ซึ่งมีการระบุว่า ส่งมาจากต่างประเทศ

อย่างไรก็ตาม เสียงคำบรรยายที่อ้างว่า เป็นเสียงยีแม เป็นคลิปเสียงหลังมีคำสั่งสำนักจุฬาราชมนตรีใหม่ๆ หลังวันที่ 19 มีนาคม แต่ ในวันที่ 26 มีนาคม ในวันที่ผู้ว่าราชการจังหวัดยะลา มีคำสั่งปิดมัรกัสยะลาเป็นการชั่วคราว และมีประกาศที่ของศูนย์ดะวะห์ฯ ระบุว่า  มติของทางดะวะห์ คือ หยุดการทำกิจกรรมรวมตัว หยุดการออกดะวะห์ และลดจำนวนคนมาละหมาดที่ มัสยิด ให้  ให้ทางกลุ่มดะวะห์ ทำตามมติของสำนักจุฬาราชมนตรี และทางราชการในช่วงของการโรคระบาดนี้

ประกาศนี้ เกิดขึ้นหลังคณะแพทย์จากชมรมแพทย์จันทร์เสี้ยว เข้าไปให้คำแนะนำ

มัรกัสยะลา เป็นสายดะวะห์ สายเดียวกับ มัรกัสนิซัมมมุดดีน เดลี ประเทศอินเดีย ที่เมาลานา ซาอัด เป็นหัวหน้าใหญ่ ซึ่งกำลังถูกตำรยจอินเดียติดตามจับกุมข้อหาต่อต้านคำสั่งปิดมัสยิดของรัฐบาลอินเดีย เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 เป็นแนวคิด ที่ส่งต่อมายังดะวะห์ในอินโดนีเชีย เจ้าของคลิป ที่ระบุว่า กลัวโควิดไม่กลัวอัลเลาะฮ์ มีโควิดที่ไหนให้ไปญุมอัตที่นั่น และแนวคิดที่ส่งต่อมายังดะวะห์บางกลุ่มในประเทศไทย

ตามรายงานของสื่ออินเดีย  ดะวะห์ไทย เป็นส่วนหนึ่งนำเชื้อไปแพร่ระบาดในระหว่างการร่วมญุมอัตตับลีฆที่ทมิฬนาดู ก่อนที่การแพร่เชื้อจะระบาดรุนแรงในกิจกรรมที่นิซัมมุดดีน ระหว่าง 17-19 มีนาคม ที่มีดะวะห์ไทยเข้าร่วมด้วย และยังติดค้างอยู่ 119 คน

อย่างไรก็ตาม ในวันที่ 26 มีนาคม ทางศูนย์ดะวะห์แห่งประเทศไทย (มัรกัสยะลา) ได้มีประกาศออกมา แต่ลงนามโดย อุตตาสมะหมูด นายอาดัม ดาเระมูซอ รองประธานศูนย์ดะวะห์ ปฏิบัติหน้าที่ ประธานศูนย์ฯ  ระบุว่า ห้ามมีการดะวะห์และห้ามละหมาดรวมคนจำนวนมาก แต่กแม้จะมีหนังสือ วันที่ 26 มีนาคม แต่กิจกรรมดะวะห์ ยังเกิดอย่างต่อเนื่อง ทั้งที่มัรกัสยะลา ในศูนย์ระดับอำเภายแห่ง และมีดะวะห์บางคนนำเชื้อไปติดต่อบุคคลอื่น อาทิ ตามประกาศของโรงพยาบาลรือเสาะ เมื่อวันที่ 15 เมษายน หลังพบผู้ป่วยจากการเข้าร่วมกิจกรรมดะวะห์ และปกปิดข้อมูล จนต้องกักตัวบุคลากรทางแพทย์ 28 คน งดให้การบริการทางการแพทย์ ยกเว้นกรณีฉุกเฉิน ประกอบด้วย

กลุ่มที่ไปดะวะห์ ที่ บาลาเซาะ บ้านไอกลูแป ต.โคกสะตอ อ.รือเสาะ จ.นราธิวาส ระหว่างวันที่ 22-24 มีนาคม 63 และผู้เข้าร่วมดะห์วะ ที่ มัรกัส จ.ยะลา ระหว่างวันที่ 25-30 มีนาคม 63 ซึ่งที่มัรกัสยะลา มีคำสั่งจากผู้ว่าฯให้ปิดศูนย์ฯเมื่อวันที่ 26 มีนาคม อนุญาตให้มีผู้ดูแล เพียง 6 คน ตามรายงานของโรงพยาบาลว่า มีผู้ติดเชื้อ แสดงว่า ยังมีการรวมกลุ่มกันในระหว่างนั้น

ยังมีการรบมกลุ่มกันที่ ศูนย์ฮัลเกาะห์พงยามู ใน ต.บันนังสตา เจ้าหน้าที่สาธารณสุขได้คัดกรอง จำนวน 46 ราย ผลบวก 5 ราย รอผล 5 ราย, ต.บาเจาะ คัดกรอง จำนวน 33 ราย ผลบวก 5 ราย รอผล 19 ราย, ต.ตลิ่งชัน คัดกรอง จำนวน 7 ราย รอผล 2 ราย และ ต.เขื่อนบางลาง คัดกรอง จำนวน 15 ราย ผลบวก 5 ราย รอผล 5 ราย

กิจกรรมที่ศูนย์ฮัลเกาะห์พงยามู  ส่งผลให้ชายคนหนึ่งติดเชื้อไวรัส รักษาตัวที่โรงพยาบาลยะลา ส่งให้ลูกสาววัย 7 ขวบติดเชื้อไวรัส ในวันที่เจ้าหน้าที่มารับตัวไปโรงพยาบาลใบหน้าของแม่ และญาติพี่น้องอาบด้วยน้ำตาที่ไม่สามารถไปดูแลลูกได้

ซึ่งที่บันนังสตา ได้มีการปิดโรงพยาบาล เนื่องจากคนไข้ปกปิดข้อมูล มีแพทย์ติดเชื้อ เมื่อปลายเดือนมีนาคมและเพิ่งเปิดให้บริการเมื่อวันที่ 7 เมษายนที่ผ่านมา

ที่มัรกัสยะลา มี 2 สามีภรรยา ชาวทุ่งยางแดงติดเชื้อจากการมารวมกลุ่ม และนำเชื้อไปติดลูก 5 คน ทำให้ศบค.ได้ประกาศผู้ติดเชืิ้อจังหวัดปัตตานี วันเดียวเพิ่ม 7 ราย เมื่อวันที่ 14 เมษายน และคัดกรองคนใกล้ชิด หรือผู้มีปฏิสัมพันธ์ด้วยจำนวน 75 คน

ที่สุดมีการปิดอำเภอทุ่งยางแดงในที่สุด เมื่อ 16 เมษายน รวมทั้งยังมีการปิดตำบล หมู่บ้านอีกหลายแห่งในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้อีกหลายแห่ง รวมทั้งการปิดโรงพยาบาลรือเสาะ จังหวัดนราธิวาส

แม้ผู้ว่าราชการจังหวัดยะลา จะมีคำสั่งล็อคดาวน์มัรกัสยะลาอีกครั้ง โดยปิดซอบเข้าออก 3 ซอย  จนมีการปิดซอยเข้าออกมัรกัส แต่ออกมาในสถานการณ์ที่ลุกลามบานปลายไปมากแล้ว

3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ การกระจายเชื้อไวรัสส่วนใหญ่มาจากการเข้าร่วมกิจกรรมดะวะห์ตับลีฆ ที่ประเทศมาเลเซีย เมื่อ 29 กุมภาพันธ์ มีผู้ติดเชื้อจากการเข้าร่วมกิจกรรมที่นั่น และนำเชื้อกลับมาในพื้นที่ ขณะที่การจัดกิจกรรมยังมีต่อเนื่องในหลายพื้นที่ ส่งผลให้เชื้อแพร่กระจายในวงกว้าง เนื่องจากเข้ามาที่การแพร่ระบาดยังไม่อยู่ในวงกว้างมากนัก ไม่มีการกักตัว แตกต่างกับกรณีของดะวะห์ที่อินโดนีเชีย แม้จะมีจำนวนผู้ติดเชื้อมาก แต่เป็นผู้ที่ติดที่ถูกกักตัว ไม่ได้แพร่กระจายเชื้อในวงกว้าง เหมือนกรณีของมัรกัสยะลา

จากยีแม ที่ช่วงแรก ไม่เชื่อฟังคำสั่งของจุฬาราชมนตรี ออกความคิดส่วนทาง นำไปสู่การรวมกลุ่มทำกิจกรรมนำไปสู่การติดเชื้อแพร่กระจายในวงกว้าง แม้จะกลับลำในตอนหลัง แต่การแพร่กระจายเชื้อรุนแรง และสร้างความเสียหายมากมาย

ยีแม ในฐานะผู้นำ อามีรประเทศไทย จะแสดงความรับผิดชอบอย่างไร