จะมีคนไทยที่จะเดินทางกลับเข้าประเทศ ไม่ต่ำกว่า 4,000 คน โดยเดินทางเข้าประเทศผ่านช่องทางตรวจคนเข้าเมือง 4 แห่ง วันละไม่เกิน 350 คน ประกอบด้วย ทางด่านตรวจเข้าเมืองสุไหงโก-ลก จังหวัดนราธิวาส วันละ 100 คน / ด่านตรวจคนเข้าเมืองเบตง จังหวัดยะลา 50 คน /ด่านตรวจคนเข้าเมืองสะเดา จังหวัดสงขลา 100 คน /ด่านตรวจคนเข้าเมืองวังประจัน อำเภอควนโดน 50 คน และ ด่านตรวจเข้าเมืองท่าเรือตำมะลัง อำเภอเมืองสตูล 50 คน โดย
วันที่ 18 เมษายน 63 ที่จะถึงนี้ จะมีคนไทยที่จะเดินทางกลับเข้าประเทศ ไม่ต่ำกว่า 4,000 คน โดยเดินทางเข้าประเทศผ่านช่องทางตรวจคนเข้าเมือง 4 แห่ง วันละไม่เกิน 350 คน ประกอบด้วย ทางด่านตรวจเข้าเมืองสุไหงโก-ลก จังหวัดนราธิวาส วันละ 100 คน / ด่านตรวจคนเข้าเมืองเบตง จังหวัดยะลา 50 คน /ด่านตรวจคนเข้าเมืองสะเดา จังหวัดสงขลา 100 คน /ด่านตรวจคนเข้าเมืองวังประจัน อำเภอควนโดน 50 คน และ ด่านตรวจเข้าเมืองท่าเรือตำมะลัง อำเภอเมืองสตูล 50 คน โดยแต่ละพื้นที่เตรียมสถานที่ควบคุมโรค หรือ local quarantine กักตัวคนไทยที่เดินทางกลับจากต่างประเทศ รวม 67 แห่ง จำนวน 2,495 ห้อง
จังหวัดสงขลา เตรียมโรงแรม 2 แห่ง ที่บ้านไทยจังโหลน อำเภอสะเดา ใช้เป็นที่กักตัว จำนวน 144 ห้อง
จังหวัดสตูล ใช้หอประชุมเมืองสตูล เป็นสถานที่กักตัว
จังหวัดปัตตานี ใช้โรงยิม อบจ.เป็นสถานที่คัดกรอง และใช้สำนักงาน อบต.บานา / สนง.เขตพื้นที่อุตสาหกรรมและโรงพยาบาลยะรัง เป็นสถานที่กักตัว
จังหวัดยะลาและนราธิวาส จัดโรงพยาบาลสนามและสถานที่กักตัว กระจายไปตามภูมิลำเนา ของผู้เดินทางเข้าประเทศ
ทางด้านกองทัพภาคที่ 4 พลโทพรศักดิ์ พูลสวัสดิ์ แม่ทัพภาคที่ 4 บอกว่าจากการประชุมผู้ว่าราชการจังหวัด ในพื้นที่ เพื่อให้การทำงานไปทิศทางเดียวกัน ทุกคนที่เข้ามาต้องผ่านการคัดกรองอย่างเข้มงวด พร้อมจัดรถพาเดินทางไปยังสถานที่รัฐจัดเตรียมไว้กักตัวจนครบ 14 วัน จึงขอให้ประชาชนในทุกพื้นที่อย่าตื่นตระหนกเพราะทุกอย่างอยู่ในความดูแลของเจ้าหน้าที่ เพราะกลุ่มคนที่ถูกกักตัวดูอาการนั้นยังไม่ใช่ผู้ป่วย การกักตัวเป็นเพียงแค่การติดตามอาการจนมั่นใจว่าไม่ได้ติดเชื้อหรืออยู่ในกลุ่มเสี่ยง