ตัวเลขาติดเชื้อเพิ่ม 54 ราย กลุ่มดะวะห์ติดเพิ่ม 5 ราย ระบุ ทำให้นายกฯ สั่งเข้มงวดการเข้าไทยของคนไทยในต่างประเทศ รับได้เพียงวันละ 200 คน ไม่จำเป็นให้อยู่ไปก่อน การเดินทางเสี่ยงที่จะติดเชื้อ
น.พ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) แถลงสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19ว่า ได้มีการประชุมศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 โดยมีนายกรัฐมนตรี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นประธานการประชุม โดยได้มาตรการหลายมาตรการออกมาหลายมาตรการ
สำหรับผู้ติดเชื้อเพิ่ม 54 คน โดย 49คนมีประวัติสัมผัสผู้ป่วยเก่า กลุ่มที่เดินทางมาจากต่างประเทศ และบุคคลากรทางการแพทย์ 4 คน โดยกลุ่มที่เดินทางมาจากอินโดนีเชีย มีผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นอีก 5 คน (เดิม 42 คน จาก 76 คน รวมผู้ติดเชื้อ 48 คน ซึ่งตัวเลขนี้ นายกรัฐมนตรี ได้ให้ความสำคัญ เพราะคนมาไม่ถึง 100 คน แต่มีปัญหา ซึ่งนายกฯขอให้มีกระบวนการป้องกัน
ตัวเลขผู้ติดเชื้อสะสม 2,423 คน หาย 940 กระจาย 67 จังหวัด มี 10 จังหวัด ที่ยังไม่มีผู้ติดเชื้อ และมีผู้เสียชีวิตจำนวน 2 ราย รวมเป็น 32 ราย
ในส่วนของบุคลากรทางการแพทย์ ได้มีการสอบสวนละเอียด พบว่า มี 50 รายที่ติดเชื้อที่ติดเชื้อจากโรงพยาบาล 18 คนติดจากชุมชน และ 12 คนอยู่ระหว่างการสอบสวน ซึ่งการติดเชื้อของบุคลากรทางการแพทย์ ส่งผลกระทบมาก เพราะต้องทำงานร่วมกันมีคนหนึ่งติด ต้องกักตัวคนที่เหลืออย่างที่จ.ภูเก็ต
สำหรับมาตรการคนไทยที่อยูต่างประเทศ จากกรณีที่ผู้เข้ามามีการติดเชื้อจำนวนมาก นายกฯ จึงให้มีมาตรการดูแลที่เข้มงวดขึ้น โดยตอนนี้ จำนวน 5,453 คนที่ขอเดินทางกลับ จำนวน 4,000 คน ได้เข้ามาแล้ว แต่จริงๆ มีการทะเบียนขอกลับจำนวน 14,000 ราย เข้ามาแล้วตามด่านพรมแดน ประมาณ 12,271 ราย
‘นายกฯให้ความสำคัญกรณีคนไทยที่จะกลับประเทศ โดยระบุว่า ทุกคนยินดีต้อนรับ แต่ต้องผ่านมาตรการเข้มงวด ทั้งในต่างประเทศและในประเทศ แต่เรามีศักยภาพรองรับได้วันละ 200 คน เพราะต้องดูแลกักตัวตอนที่เข้ามา ต้องจัดหาห้องพัก คนที่รอคิวไม่ไหว หากไม่จำเป็น ก็ให้อยู่ในต่างประเทศไปก่อน โดยรัฐบาลจะดูแลในส่วนขอการเยียวยา เหมือนกรณีการเยียวยาคนไทยในประเทศจำนวน 5,000 บาท หากท่านยังอยู่ได้ก็ให้อยู่ไปก่อน เพราะการเดินทางเสี่ยงที่จะติดเชื้อมากกว่า’นพ.ทวีศิลป์ กล่าว