โดนัลด์ ทรัมป์ ได้ออกมาเรียกร้องให้คนอเมริกันปิดปากก่อนออกจากบ้านเพื่อป้องกันการแพร่เชื้อ แต่ไม่ให้ใช้หน้ากากอนามัยที่สงวนไว้ทางการแพทย์ หลังมีผู้ติดเชื้อแล้วกว่า 200,000 คน ตายวันเดียวกว่า 1,000 คน ครบทุกรัฐ ทั่วโลกตายมากกว่าครึ่งแสน
วันที่ 4 เมษายน ตามรายงานของเว็บไซต์ติดตามสถานการณ์การระบาดโควิด-19 แบบออนไลน์ ของมหาวิทยาลัยจอห์น ฮอปกินส์ พบพลเมืองสหรัฐฯติดเชื้อรายใหม่ฯ 28,667 คน และจนถึงตอนที่รายงานในวันศุกร์(3เม.ย. ตามเวลาในสหรัฐฯ) ยอดรวมผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นเป็นอย่างน้อย 273,880 คน ขณะที่มีผู้เสียชีวิตอีก 1,094 คน ส่งผลให้ยอดรวมผู้เสียชีวิตเป็น 7,077 คน
ข้อมูลดังกล่าวเผยให้เห็นว่าในสหรัฐฯ พบผู้ติดเชื้อครบทุก 50 รัฐ เช่นเดียวกับกรุงวอชิงตัน ดีซี.และดินแดนอื่นๆของสหรัฐฯ โดยมีเพียงแค่ไวโอมิงเพียงแค่รัฐเดียวเท่านั้นที่ยังไม่มีรายงานผู้เสียชีวิต
ตัวเลขที่พุ่งขึ้นเรื่อยๆปรากฏออกมาในขณะที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ในวันศุกร์(3เม.ย.) แถลงคำชี้แนะใหม่ของรัฐบาล ซึ่งแนะนำให้อเมริกันชนทุกคนสวมหน้ากากยามที่ออกนอกบ้านเพื่อยับยั้งการแพร่ระบาดของโคโรนาไวรัส
ทรัมป์แถลงข่าวที่ทำเนียบขาวว่าศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคแห่งสหรัฐฯ เรียกร้องให้ประชาชนสวมอะไรก็ได้เพื่อปิดบังใบหน้า อย่างเช่นผ้าพันคอ แต่ขอสงวนหน้ากากอนามัยไว้ให้บุคลากรทางการแพทย์
“คำแนะนำนี้เป็นไปในลักษณะของการสมัครใจ” ทรัมป์ย้ำ “คุณไม่จำเป็นต้องทำมันก็ได้ และผมก็เลือกที่จะไม่ทำมัน แต่หากบางคนต้องการทำมัน ก็ถือว่าไม่เป็นไร”
ในขณะที่ผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 ทั่วโลกมีจำนวน 1,097,810 ราย เสียชีวิต 59,140 มี 228,405 คนที่รักษาหาย