นายกฯแถลงประกาศเคอร์ฟิวส์ ห้ามออกนอกเคหะสถาน 4 ทุ่มถึงตี 5 หวังลดการติดเชื้อโควิด-19 ห้ามกักตุนสินค้า ห้ามคนอยู่ต่างประเทศเข้าประเทศ จนถึง 15 เมษายน ยินยันรัฐบาลมีมาตรการเยียวยา และดูแลประชาชนที่ได้รับผลกระทบทุกกลุ่ม
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ในฐานะประธานคณะกรรมการบริหารสถานการณ์โควิด-19 แถลงสถานการณ์ฉุกเฉิน ระบุว่า เพื่อให้การแก้ปัญหาการแพร่ระบาดของโรคโคิวิด-19 มีประสิทธิภาพ จึงได้ประกาศมาตรการเพิ่ม โดยการห้ามออกจากเคหะสถานในเวลา 22.00-05.00 น.และขอให้พี่น้องประชาชนไม่ต้องกักตุนสินค้า อาหาร เพราะยังสามารถซื้อในช่วงกลางวันได้ตามปกติ แต่ต้องเว้นระยะห่างทางสังคม
‘ที่ผ่านมาได้มีการดำเนินการจับกุมอย่างเข้มงวด คนที่กักตันสินค้าและขายเกินราคา ซึ่งมีโทษปรับสูงหรือทั้งจำทั้งปรับ’
เพื่อแก้ปัญหาผลกระทบ รัฐบาลได้มี มาตรการเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบทางเศรษฐกิจ เช่น เงินช่วยเหลือ 5,000 บาท, คืนเงินประกันการใช้ไฟฟ้าและการใช้น้ำ, ลดค่าน้ำ-ค่าไฟ 3 เดือน มีการพักชำระหนี้เงินต้นและดอกเบี้ยเงินผ่อนบ้าน ผ่อนรถ, ขยายเวลาชำระตั๋วจำนำ และลดอัตราขั้นต่ำจ่ายหนี้บัตรเครดิต ช่วยคืนสภาพคล่อง-ลดภาระค่าใช้จ่ายผู้ประกอบการและ SMEs เป็นต้น
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ศบค.ได้ตั้งศูนย์ปฏิบัติการมาตรการเดินทางเข้าออกประเทศ และดูแลคนไทยในต่างประเทศ โดยยกระดับการคัดกรองผู้เดินทางเข้า-ออกประเทศอย่างเข้มงวด ไม่ให้มีผู้ติดเชื้อรายใหม่เข้ามา ยืนยันชาวต่างประเทศไม่ได้เดินทางเข้ามาแล้ว เว้นคณะทูต หรือผู้ที่มีใบอนุญาตทำงานในไทย หรือลูกเรือ และคนไทยให้ชะลอการเดินทางไปก่อน ซึ่งรัฐบาลจะได้ดูแลเป็นอย่างดี หากต้องการกลับไทยต้องผ่านกระบวนการคัดกรอง กักตัว และเฝ้าระวังอย่างเข้มข้น ช่วงนี้ขอให้ชะลอการเดินทางเข้าไทยถึง 15 เม.ย.นี้ หากจำเป็นเร่งด่วนขอให้พบเจ้าหน้าที่สถานทูตฯ
‘ ขอให้สื่อมวลชน สื่อโซเชียล ใช้ความระมัดระวังในการสื่อสาร ใช้ข้อมูลจากศูนย์ ศบค.เท่านั้น ห้ามการสื่อสารที่อาจก่อให้เกิดความขัดแย้ง ความเข้าใจผิด หรือบิดเบือนข้อมูล รวมถึงผู้ที่สร้างข่าวปลอม’นายกรัฐมนตรี ระบุ