ตามที่ได้มีการแพร่ระบาดอย่างรุนแรงของไวรัสโควิด-19ในประเทศไทยและในสถานที่ต่างๆทั่วโลกส่งผลให้มีการเสียชีวิตเป็นจำนวนมาก ที่ปรึกษาประธานรัฐสภานายสามารถ มะลูลีม ประธานมูลนิธิเพื่อศูนย์กลางอิสลามแห่งประเทศไทย ได้ออกมาปฏิเสธ ว่าไม่มีผู้ติดเชื้อโควิด-19 มาละหมาดวันศุกร์ที่ศูนย์กลางฯเมื่อวันที่ 13 มีนาคม2563 เป็นข่าวลือเป็น Fake News ที่ต้องการทำลายชื่อเสียงของมูลนิธิฯวอนอย่าหลงเชื่อและอย่าแชร์ต่อ
ตามที่ได้มีการโพสต์ต่อๆกันในสื่อสังคมออนไลน์ว่าได้มีผู้ติดเชื้อ Covid-19 มาละหมาดวันศุกร์โดยใส่เสื้อขาวนั่งฟังคุตบะห์อยู่แถว3-4ด้านขวาเป็นคนประเวศเพิ่งเดินทางมาจากต่างประเทศ โดยมาละหมาดที่ศูนย์กลางฯเมื่อวันศุกร์ที่13มีค.63ที่ผ่านมาและอีกกรณีหนึ่งที่มีการโพสต์ใน lineกลุ่มต่างๆบอกว่ามีคนขับรถตู้ให้นักท่องเที่ยวต่างชาติชื่อแบเลาะห์เป็นคนยะลา ได้มาละหมาดวันศุกร์ทีศูนย์กลางฯและต่อมาถูกพบว่าเป็นผู้ติดเชื้อและต้องรักษาตัวที่โรงพยาบาลจุฬาฯนั้น
“ผมและเลขาธิการมูลนิธิฯทนายและอดีตสก.ประสิทธิ์ รักสลาม ได้ตั้งรางวัล ให้กับผู้ที่สามารถมาให้ข้อมูลยืนยันชี้เบาะแสจนถึงผู้ติดเชื้อโควิด-19ตามข่าวลือและไม่มีผู้มายืนยันข่าวดังกล่าวได้เลย ในกรณีที่ 2 สืบต้นตอไปที่ line ก็ลบไปแล้ว”
นายสามารถ มะลูลีมประธานมูลนิธิเพื่อศูนย์กลางอิสลามฯได้เปิดเผยต่อไปอีกว่า
“ตนไม่ได้นิ่งนอนใจได้สั่งการให้อดีตผู้กำกับ พันตำรวจเอก สุพจน์ เส้นขาวซึ่งเป็นกรรมการของมูลนิธิด้วย ให้มีการสืบสวน สอบสวนและประกาศหาเบาะแส แต่ไม่มีผู้ใดยืนยันตัวตน จนสามารถสืบเสาะไปถึงผู้ติดเชื้อดังกล่าวแต่อย่างใด ตอนนี้มีข้อมูลอยู่บ้างในกรณีของเคสแรก กำลังศึกษาอยู่ว่าจะเข้าข่ายข้อกฏหมายที่ว่า นำข้อมูลเป็นเท็จเข้ามาเผยแพร่ในเครือข่ายอิเล็กทรอนิกส์ ทำให้มูลนิธิเสียชื่อเสียงหรือไม่”
“จึงขอเรียนแจ้งผู้ที่มาใช้บริการและผู้เป็นห่วงเป็นใยว่าข่าวดังกล่าวเป็น Fake News เป็นข่าวลือที่ไม่มีมูลความจริงและไม่ควรเชื่อหรือมีการส่งต่อๆกันอีก ซึ่งมูลนิธิฯสงวนสิทธิ์ที่จะดำเนินการทาง กฏหมายกับผู้ที่ไม่หวังดีและผู้ฝ่าฝืนต่อไป”
“ขณะนี้ มูลนิธิเพื่อศูนย์กลางอิสลามแห่งประเทศไทยได้งดกิจกรรมการละหมาดวันศุกร์การละหมาดญะมาอะห์และกิจกรรมต่างๆทั้งหมดชั่วคราวเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของไวรัส covid-19 จนกว่าสถานการณ์จะปกติ ตามประกาศของท่านจุฬาราชมนตรีและทางราชการ” นายสามารถ มะลูลีมประธานมูลนิธิเพื่อศูนย์กลางอิสลามแห่งประเทศไทยกล่าวในที่สุด
Cr.Tangnumnews
