หนักแล้วไทย!วันเดียวติดไวรัส 60 ราย ‘สนามมวย-ผับ’43 ‘ดะวะห์’เพิ่ม 5 ราย

จำนวนผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 วันเดียวเพิ่ม 60 ราย ตัวเลขทะลุ 272 ราย กลุ่มสนามมวย 3 แห่ง และผัับย่านทองหล่อ รามคำแหง สวนหลวง และสุขุมวิท ติดมากสุด 43 ราย กลุ่มดะวะห์จากมาเลย์ติดเพิ่ม 5 ราย ยะลากับปัตตานี ทีเหลือติดจากชาวต่างชาติ มีนักข่าวรอยืนยันด้วย

วันนี้(19 มีนาคม) กระทรวงสาธารณสุข ได้แถลง สถานการณ์โรคโควิด-19 ในประเทศไทย โดยนายแพทย์โสภณ เอี่ยมศิริถาวร ผู้อำนวยการกองโรคทั่วไปกรมควบคุมโรค แถลงว่า วันนี้ มีการยืนยันผู้ป่วยทั่วโลกมากกว่า 200,000 ราย ส่วยใหญ่อยู่ในประเทศยุโรปที่มีจำนวนผู้ป่วยเพิ่มมากขึ้น โดยมีผู้ป่วยรุนแรงประมาณ 3% มีผู้เสียชีวิต 4% โดยจีน มีผู้ป่วยรายใหม่น้อยลง อิตาลี มีผู้ป่วยรายใหม่เพิ่ม 4,000 กว่าราย อิหร่าน มีผู้รายเพิ่มมากกว่า 1,000 คน ประเทศมีผู้ป่วยเพิ่มประกอบด้วย สเปน เยอรมัน สวิสเซอร์แลนด์ ฝรั่งเศสและอังกฤษ เกาหลีใต้ลดไปอยู่อันดับ 6 อเมริกา อันดับ 8

สำหรับประเทศไทย นายแพทย์สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมควบคุมโรค แถลงว่า วันนี้(19 มีนาคม) มีผู้ป่วยยืนยันทั้งหมด 60 ราย ลำดับที่ 213-272 โดยจำแนกเป็น2 กลุ่ม คือกลุ่มที่มีประวัติสัมผัสผู้ป่วย หรือสถานที่ๆพบผู้ป่วยก่อนหน้านี้ มีจำนวนสูงที่สุด 43 ราย โดยมีผู้ป่วยที่ติดจากสนามมวย จำนวน 12 ราย ครอบคลบุมผู้ชม ญาติ ผู้ดูแลค่ายมวย และเจ้าหน้าที่ดูแลสนาม ทั้งสนามมวยลุมพินี ราชดำเนินและสนามมวยจิตร เมืองนนท์

กลุ่มที่มีผู้ป่วยเกี่ยวข้องกับสถานบันเทิง 14 ราย มีการติดทั้งผับ ครอบคลุม ดีเจ พนักงานทำความสะอาด พ่อครัว พนักงานเสริ์ฟ พิธีกร รองผู้จัดการร้าน แคชเชียร์ คนเที่ยว แฟนคนเที่ยว จากย่านทองหล่อ สวนหลวง รามคำแหง และสุขุมวิท โดยสัมพันธ์ใกล้ชิดกับผู้ป่วยก่อนหน้านี้จำนวน 12 ราย เป็นเพื่อนร่วมงาน ภรรยา ผู้โดยสารร่วมเที่ยวบิน ลูกเรือสายการบิน แอร์โอศเตส พนักงานคาร์โก และมีพฤติกรรมเสี่ยง ดื่มเหล้าร่วมวง กับทานข้าวร่วมกัน

กลุ่มสุดท้าย คือผู้ป่วยที่เข้าร่วมประเพณีทางศาสนาที่มาเลเซีย จำนวน 5 ราย เป็นชาวจังหวัดปัตตานีและยะลา

ทั้ง 3 กลุ่มมีผู้ป่วยจำนวน 43 ราย

กลุ่มที่ 2 เป็นกลุ่มผู้ป่วยรายใหม่ มีจำนวน 17 ราย เป็นผู้ป่วยที่
เดินทางกลับจากต่างประเทศ 9 ราย จากไต้หวัน ฝรั่งเศส อังกฤษ อินเดีย อิตาลี มาเลเซีย กัมพูชา ญี่ปุ่น เยอรมนี และอิหร่าน โดยบางรายเดินทางไปมากกว่า 1 ประเทศ
กลุ่มทำงานใกล้ชิดกับต่างชาติ 3 ราย มีครูพี่เลี้ยง พนักงานเคาท์เตอร์เช็คอิน และเพื่อนต่างชาติพักอาสียในคอนโดมิเนียม
กลุ่มสุดท้าย ทำงานหรืออาศัยในสถานที่แออัด ซึ่งใกล้ชิดกับคนจำนวนมาก 1ราย เป็นเทรนเนอร์ในสถานที่ออกกำลังกาย
และมีผู้ป่วยรายใหม่รอสอบสวนโรคเพิ่มเติม 4 ราย ในจำนวนนี้มีผู้สื่อข่าว 1 ราย
จำนวนผู้ป่วยทั้งหมด มีผู้ป่วยอาการหนัก 3 ราย คือ 1. ผู้ป่วยที่จ.สุราษฎร์ธานี อายุ 49 ปี อาการยังอยู่ในภาวะวิกฤติ ได้รับการล้างไต มีประวัติเป็นโรคหัวใจและกินยาต่อเนื่อง 2. ชายชาวเบลเยี่ยม อายุ 67 ปี อยู่จ.เพชรบูรณ์ อีกรายเป็นผู้ป่วยวัณโรค ที่ตรวจไม่พบเชื้อโควิด-19แล้ว แต่ยังคงดูแลใกล้ชิด ที่สถาบันบำราศนราดูร

โดยสรุป ผู้ป่วยที่หายกลับบ้านแล้ว 42 ราย รักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบล 229 ราย อาการหนัก 3 ราย เสียชีวิต 1 ราย
โดยกลุ่มผู้ป่วยที่มีจำนวนมากที่วุด เป็นกลุ่มทำงานในสถานที่แออัด สถานบันเทิง จากวันที่ 12 มีนาคม จำนวน 57 ราย กลุ่มสนามมวย ตั้งแต่วันที่ 14 มีนาคม จำนวน 52 ราย เป็น 2 กลุ่มที่มีรายงานตัวเลขเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว รวมกันกว่า 100 ราย

‘สนามมวย มีผู้ชมจำนวนหนึ่งที่มาจากต่างจังหวัด ทำให้มีโอกาสนำเชื้อกลับไปติดคนใกล้ชิด ยังภูมิลำเนา หรือสถานที่ๆเดินทางไป และยังพบว่า มีบางคนที่อยู่ในตภาวะความเสี่ยงสูง แต่ยังคงออกไปในสถานที่แออัด อาทิ สถานบันเทิง ร้านอาหาร โดยไม่มีการกักกันตัวเอง ตามคำแนะนำของกระทรวงสาธารณสุข ซึ่งเป็นอันตรายใมนการแพร่โรคไปสู่ผู้อื่น และส่งผลให้การควบคุมและป้องกันโรคเป็นไปด้วยความยากลำบาก เป็นเหตุผลที่กระทรวงและรัฐบาลแนะนำให้หลีกเลี่ยงการไปสถานที่ๆมีความเสี่ยงสูง และมีติครม.ให้อำนาจผู้ว่าราชการจังหวัด สั่งปิดสถานที่ๆจะเป็นแหล่งแพร่เชื้อ

ขอแนะนำประชาชนให้งด ลด การเดินทางไปยังพื้นที่เสี่ยงดดยไม่จำเป็น หากรู้ว่าตัวเองเป็นกลุ่มเสี่ยง เชียร์มวบ เชียร์บอล นั่งรถคันเดียวกัน ทานข้าวด้วยกัน ขอให้รับผิดชอบตนเอง กับครอบครัวและกับสังคม ด้วยการกักกันตนเองที่บ้านอย่างเคร่งครัด และปฏิบัติตามคำแนะนำ ของทางกระทรวงอย่างเคร่งครัด และให้รายงานตัวต่อเจ้าหน้าที่เมื่อมีอาการไข้ ไอเจ็บ คอ ให้สวมใส่หน้ากากอนามัยและไปพบแพืย์ทันที‘ อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าว

ส่วนกรณีที่มีผู้เดินทางไปสเปนและลงโซเชียลว่า ไม่มีการกักัน14 วันนั้น อธิบดีกรมการแพทย์ กล่าวว่า สเปนไม่ได้อยู่ในประกาศประเทศกลุ่มที่ต้องกันกกันตัว แต่มีการสแกนการเข้าอย่างเข้มงวด