หัวหน้ากองกำลังพิทักษ์การปฏิวัติอิหร่านในวันพฤหัสบดี อ้างสหรัฐฯอาจเป็นผู้บงการหลักที่อยู่เบื้องหลังการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่(โควิด-19) ในจีนและต่อมาก็เป็นอิหร่าน พร้อมขู่ท้ายที่สุดแล้วไวรัสจะหันไปเล่นงานคนที่ปล่อยมันออกมาเสียเอง
รัสเซียทูเดย์ รายงานว่า ฮอสเซน ซาลามี ผู้บัญชาการกองกำลังพิทักษ์การปฏิวัติอิหร่าน กล่าวว่า มีความเป็นไปได้ที่ไวรัสนี้เป็นการผลิตขึ้นมาเพื่อการโจมตีทางชีวภาพโดยสหรัฐฯ และจากนั้นก็แพร่ระบาดสู่อิหร่านและที่อื่นๆของโลก
‘อิหร่านจะสู้กับไวรัสและเตือนว่าโรคร้ายจะหวนคืนสู่สหรัฐฯ หากว่าวอชิงตันเป็นผู้อยู่เบื้องหลังของการแพร่ระบาดจริงๆ’ เขา กล่าว
อิหร่านเป็นหนึ่งในประเทศที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 รุนแรงที่สุดนอกจีนแผ่นดินใหญ่ ต้นตอของไวรัส โดยจนถึงวันพฤหัสบดี(5มี.ค.) ดินแดนแห่งนี้รายงานพบผู้ติดเชื้อ 3,513 คนและเสียชีวิต 107 ราย ในนั้น 15 คนเสียชีวิตในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา
ทั้งนี้อิหร่านต้องปิดโรงเรียนและมหาวิทยาลัยทุกแห่งไปจนถึงวันที่ 20 มีนาคม ในความพยายามสกัดการแพร่ระบาดของไวรัส
เมื่อวันอังคาร(3มี.ค.) สื่อมวลชนแห่งรัฐรายงานว่า พีร์ฮอสเซน โคลิวันด์ ผู้อำนวยการศูนย์ฉุกเฉินแห่งชาติ กำลังรักษาตัวจากการติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ ทำให้เขาเป็นเจ้าหน้าที่ระดับสูงของอิหร่านคนล่าสุดที่ติดเชื้อโควิด-19
การยืนยันดังกล่าวมีขึ้นหนึ่งวันหลังจากสำนักข่าวทาสนิมนิวส์ รายงานว่า ไวรัสได้คร่าชีวิต มูฮัมหมัด มีร์โมฮัมมาดี สมาชิกสภาสภาผู้ชี้ขาด (Expediency council) ซึ่งเป็นที่ปรีกษาของผู้นำสูงสุดอิหร่าน
เหตุเสียชีวิตดังกล่าวยังเกิดขึ้นหลังจาก มาซูเมห์ เอบเตการ์ รองประธาธิบดีด้านกิจการสตรีและครอบครัว และ อิราจ ฮารีร์ชี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข ถูกพบว่าติดเชื้อโควิด-19
คำกล่าวของ ผู้บัญชาการกองกำลังพิทักษ์การปฏิวัติอิหร่าน สอดคล้องกับรายงานของนักวิจัยชาวจีน ที่ออกมาระบุว่า เชื้อไวรัสโควิด-19 มาจากการใช้เทคโนโลยีชีวภาพพัฒนาไวรัสซาร์และเอดส์ ที่มีความแน่นในการเกาะปอด รักษายากขึ้น แต่ติดง่ายขึ้น ซึ่งหากเป็นพัฒนาการตามธรรมชาติ จะต้องใช้เวลาถึง 10,000 ปี