ทหารอิรักผงะหลังเข้ายึดคืนเมืองโมซูล พบหลุมศพของของท่านศาสดาโยนาห์ (ยูนุส) ถูกทำลายเหี้ยนโดยฝีมือไอซิส
เดลี่เมล์รายงานว่า ทหารอิรักที่ต่อสู้กับไอซิสในเมืองโมซูลได้เผยให้เห็นการทำลายสถานที่สำคัญทางศาสนาหลายแห่งของเมืองนี้ซึ่งถูกทิ้งไว้เบื้องหลังโดยนักรบญิฮาดิสต์ โดยหนึ่งในสถานที่สำคัญนั้นก็คือ สถานฝังศพของท่านศาสดาโยนาห์ หรือนบียูนุส
ไอซิสได้ทำลายอาคารและมัสยิดที่สร้างขึ้นบนสถานฝังศพของท่านศาสดาที่มีชื่อเสียง ซึ่งถูกเรียกขานในคัมภีร์อัลกุรอ่านว่า “ยุนุส” และในคัมภีร์ใบเบิลว่า “โยนาห์” และที่แห่งนี้นับเป็นหนึ่งสถานแสวงบุญที่เป็นที่นิยม
โดยในปี 2014 หนึ่งสัปดาห์หลังจากบุกยึดเมืองโมซูลและดินแดนอิรักจำนวนมาก ไอซิสได้เริ่มต้นทำลายและรระเบิดสถานฝังศพและสถานที่สำคัญหลายแห่งทั้งในโมซูลและที่อื่นๆ เพราะพวกเขาถือว่า การยกย่องนับถือสถานฝังศพไม่สอดคล้องกับบทบัญญัติของศาสนาอิสลาม
กลุ่มก่อการร้ายไอซิสเชื่อว่า การให้ความเคารพเป็นพิเศษกับสุสานและคนที่ตายไปแล้วนั้นผิดคำสอนของศาสนาอิสลาม
“เราสามารถยึดคืนพื้นที่สถานฝังศพของท่านนาบียูนุส และชักธงชาติอิรักเหนือสถานฝังศพแล้ว” ซาบาห์ อัลนุมาน โฆษกของกองกำลังต่อต้านก่อการร้ายเพื่อยึดคืนเมืองโมซูลกล่าว
เขากล่าวด้วยว่า 2 เขตพื้นละแวกที่ใกล้เคียงทางตะวันออกของเมืองโมซูลก็ถูกยึดคืนจากไอซิสแล้ว
เจ้าหน้าที่ของพลโทอับดุลกานี อัลอัสซาดี ผู้บัญชาการกองกำลังยึดคืนเมืองโมซูล กล่าวว่า พื้นที่ 90 เปอร์เซนต์ของเขตโมซูลตะวันออกตอนนี้อยู่ภายใต้การควบคุมของรัฐบาล
ศาสดายูนุสคือใคร? ในทัศนะของศาสนาอิสลามและคริสต์
ศาสดายูนุส ได้รับการยกย่องและถูกกล่าวถึงอย่างมากในมุมมองของอิสลาม บางทีอาจจะมากกว่าที่ถูกอ้างถึงอย่างธรรมดาในพระคัมภีร์ไบเบิล ที่เรียกว่า “โยนาห์”
โยนาห์ มีชื่อเสียงจากการถูกกลืนโดยวาฬหรือปลาแล้วแต่ตำนานนั้นๆ ซึ่งในการอธิบายของอิสลามนั้นมีทั้งส่วนที่คล้ายและส่วนที่ต่างอย่างมีนัยสำคัญกับที่มีอยู่ในคำภีร์ฮิบรู (พระคัมภีร์เดิมของชาวยิวและคริสต์)
คัมภีร์กุรอานอธิบายว่า โยนาห์หรือยูนุสเป็นศาสดาผู้เผยแพร่สาส์นของพระเจ้า แต่มีอยู่วันหนึ่งศาสดายูนุสได้ละเลยภารกิจของตนเพราะความยากลำบากอย่างท่วมท้นของภารกิจนั้น
คัมภีร์อัลกุรอานบอกว่า ท่านได้เดินทางลงเรือ แต่เนื่องจากเรือต้องผจญกับพายุ คนบนเรือจึงเสนอให้จับสลากชื่อของบุคคลที่ต้องรับผิดชอบนำโชคร้ายมาสู่เรือลำนั้น
เมื่อผลการจับสลากถึง 3 ครั้งและออกมาเป็นชื่อศาสดายูนุสทุกครั้ง ท่านจึงถูกจับโยนลงทะเลไปในคืนนั้น
ปลาขนาดยักษ์ได้มากลืนท่านไปและยูนุสยังคงอยู่ในท้องปลา ต่อมาท่านได้สำนึกผิดและสรรเสริญต่อพระเจ้า
ส่วนในทัศนะของศาสนาคริสต์นั้นบอกว่า ได้เกิดพายุใหญ่ขึ้นและลูกเรือตระหนักว่ามันไม่ใช่พายุธรรมดา พวกเขาพบว่าโยนาห์คือสาเหตุ
โยนาห์ยอมรับและบอกพวกเขาว่าถ้าโยนเขาลงน้ำไปพายุก็จะหยุด
ลูกเรือพยายามที่จะโละทิ้งสัมภาระอื่นๆให้มากที่สุดก่อนเท่าที่จะเป็นไปได้ แต่สุดท้ายก็จำเป็นต้องโยนท่านลงสู่ทะเล
โยนาห์ถูกปกป้องไว้อย่างน่าอัศจรรย์ด้วยการถูกกลืนกินโดยปลาที่มีขนาดใหญ่เข้าอยู่ในท้องโดยใช้เวลาสามวันสามคืน
ในขณะที่อยู่ในท้องปลายักษ์โยนาห์ได้สวดภาวนาต่อพระเจ้าในความทุกข์ของเขาและมุ่งมั่นขอบคุณพระเจ้า และให้คำมั่นว่าจะทำในสิ่งที่เขาได้สาบานไว้
และพระเจ้าก็ได้สั่งปลาให้คายท่านออกมา
Cr.publicpost