การ”เสียบบัตร”ยังเป็นประเด็นร้อน ที่ยังจบไม่ลง แม้ศาลรธน.ไม่ได้ลงดาบ “ให้เป็นโมฆะ” โดยล่าสุด คณะกก.ตรวจสอบข้อเท็จจริง ที่ประธานสภาฯแต่งตั้ง ได้ประกาศถอนตัว ไม่มีใครกล้ารับ”เผือกร้อน”ให้เปลืองตัว
กรณีเสียบบัตรแทนกันในการโหวต ร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2563 ที่ “นิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ” รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ออกมาแฉว่า มี 2 ส.ส.พรรคภูมิใจไทย ไม่ได้อยู่ในที่ประชุม โดย “ฉลอง เทอดวีระพงศ์” ส.ส.พัทลุง ไปเปิดงานวันเด็ก ที่ จ.พัทลุง ขณะที่ “นาที รัชกิจประการ” ส.ส.บัญชีรายชื่อ เดินทางไปจีน แต่กลับมีการลงคะแนนเสียง…นั่นแสดงว่ามีการ “เสียบบัตรแทนกัน”
หลังจากนั้นยังมีคลิป ที่สื่อนำออกมาแฉเพิ่มเติมว่า ยังมีกรณีของ นายสมบูรณ์ ซารัมย์ ส.ส.พรรคภูมิใจไทย และ น.ส.ภริม พูลเจริญ ส.ส.พรรคพลังประชารัฐ ก็มีการเสียบบัตรแทนกันด้วย จนนำไปสู่การยื่นศาลรัฐธรรมนูญให้ตีความว่า ร่าง พ.ร.บ.งบฯ ปี 63 ซึ่งขณะนั้นผ่านขั้นตอนของสภาผู้แทนฯ และวุฒิสภา ไปแล้วนั้น โมฆะหรือไม่
ซึ่งในที่สุดศาลรัฐธรรมนูญ พิจารณาวินิจฉัยว่า ร่าง พ.ร.บ.งบฯ 63 ไม่เป็นโมฆะ … เพียงแต่ต้องกลับไปพิจารณาในวาระ 2 และวาระ 3 กันใหม่ เนื่องจากการเสียบบัตรโหวตแทนกัน อยู่ในขั้นตอนการพิจารณา ในวาระ 2 เป็นอันว่า ปัญหา เรื่อง พ.ร.บ.งบฯ 63 เป็นอันได้ข้อยุติว่าต้องทำอย่างไรต่อไป
ส่วนเรื่องการเสียบบัตรแทนกันนั้น เป็นเรื่องที่สภาผู้แทนฯ ยังต้องสอบสวนกันต่อไป เพราะตามรัฐธรรมนูญแล้ว ส.ส.ทุกคนมีหนึ่งเสียงเท่ากันในการลงคะแนน และตามข้อบังคับการประชุมสภาผู้แทนฯ ระบุว่า การออกเสียงลงคะแนนจะกระทำแทนกันมิได้…โดย “พรเพชร วิชิตชลชัย” ประธานวุฒิสภา เคยพูดถึงเรื่องนี้ว่า ความผิดกรณีนี้มีโทษทั้ง”ทางวินัย และอาญา”
สรศักดิ์ เพียรเวช เลขาฯสภา (ซ้าย) และ อนันต์ ผลอำนวย ปธ.กิจการสภาฯ
แต่ปัญหาอยู่ที่ว่าจะให้ใครเป็นผู้สอบ เพื่อเอาผิดส.ส. ที่เสียบบัตรแทนกัน …เพราะตามที่มีการนำเรื่องออกมาแฉทั้งจากส.ส.ฝ่ายค้าน และจากสื่อนั้นมี ส.ส.ที่อยู่ในข่ายต้องสงสัยถึง 8 คนด้วยกัน
อย่างไรก็ตาม ในช่วงแรกที่ “นิพิฏฐ์” นำเรื่องนี้ออกมาแฉนั้น “ชวน หลีกภัย” ประธานสภาผู้แทนราษฎร ได้ให้ “สรศักดิ์ เพียรเวช” เลขาธิการสภาฯ ไปทำการตรวจสอบ ก็ได้ผลสรุปออกมาว่า มีการเสียบบัตรลงคะแนนแทนกันจริง…แต่พอจะให้ เลขาธิการสภาฯ ตรวจสอบเพื่อสอบสวนเอาผิดกับส.ส. ที่อยู่ในข่ายว่ามีการเสียบบัตรแทนกัน ทางเลขาธิการสภาฯ กลับขอถอนตัว
ด้วยเหตุผลลึกๆที่ว่า เลขาธิการสภาฯ และเจ้าหน้าที่ของสภาฯเป็นข้าราชการ ใครจะไปกล้าตรวจสอบเพื่อเอาผิด ส.ส.
ดังนั้น “ชวน หลีกภัย” จึงเล็งไปที่ “คณะกรรมาธิการกิจการสภาผู้แทนราษฎร” ซึ่งตั้งมาจาก ส.ส.ด้วยกัน เป็นผู้สอบสวนเรื่องนี้ โดยไปหารือกับ “อนันต์ ผลอำนวย” ประธานกรรมาธิการกิจการสภาฯ แล้ว โดยบอกว่าจะนำข้อมูลที่เลขาธิการสภาฯ มีอยู่ในมือแล้วมามอบให้ …แต่ยังไม่ได้รับคำตอบที่ชัดเจน จากประธานกรรมาธิการกิจการสภาฯ ว่าพร้อมที่จะตรวจสอบเรื่องนี้หรือไม่
ส่วนถ้าการตรวจสอบแล้วพบว่ามีการกดบัตรแทนกันจริง อย่างชัดเจน ก็ต้องส่งเรื่องให้ คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) พิจารณาต่อไป
ก็คงต้องติดตามกันต่อไปว่า ใครจะเป็นผู้มารับ “เผือกร้อน” ตรวจสอบเรื่องนี้ และ ผลจะออกมาอย่างไร!