สนธิรัตน์” วางศิลาฤกษ์คลังน้ำมัน TPN ที่ขอนแก่น พร้อมเดินหน้าระบบขนส่งน้ำมันทางท่อภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ประหยัดเชื้อเพลิงในการขนส่งน้ำมัน สร้างความมั่นคงด้านพลังงาน ขับเคลื่อนเศรษฐกิจ

“สนธิรัตน์” วางศิลาฤกษ์คลังน้ำมัน TPN ที่ขอนแก่น พร้อมเดินหน้าระบบขนส่งน้ำมันทางท่อภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ประหยัดเชื้อเพลิงในการขนส่งน้ำมัน สร้างความมั่นคงด้านพลังงาน ขับเคลื่อนเศรษฐกิจ

นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เป็นประธานในพิธีวางศิลาฤกษ์คลังน้ำมัน ของบริษัท ไทย ไปป์ไลน์ เน็ตเวิร์ค จำกัด(ทีพีเอ็น) ณ อำเภอบ้านไผ่ จังหวัดขอนแก่น พร้อมเดินหน้าการก่อสร้างให้แล้วเสร็จตามกำหนด หลังได้รับความเห็นชอบด้านรายงานการวิเคราะห์ผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม (EIA) รวมถึงใบอนุญาตเห็นชอบแบบการก่อสร้างระบบการขนส่งน้ำมันทางท่อ จากกรมธุรกิจพลังงาน กระทรวงพลังงาน เชื่อสร้างความมั่นคงด้านพลังงานอย่างเป็นรูปธรรม

วันนี้ (5 ก.พ. 63) นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เป็นประธานในพิธีวางศิลาฤกษ์คลังน้ำมัน ของบริษัท ไทย ไปป์ไลน์ เน็ตเวิร์ค จำกัด(ทีพีเอ็น) ณ อำเภอบ้านไผ่ จังหวัดขอนแก่น โดยมีนายกัมพล ตติยกวี ประธานกรรมการ บริษัท ไทย ไปป์ไลน์ เน็ตเวิร์ค จำกัด (ทีพีเอ็น – TPN) ให้การต้อนรับ ทั้งนี้โครงการดังกล่าวได้รับอนุมัติจากคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) ให้ดำเนินการขยายท่อขนส่งน้ำมันในภาคตะวันออกเฉียงเหนือเมื่อ พ.ศ. 2559 โดยได้คัดเลือกให้บริษัท ไชน่า ปิโตรเลียม ไปป์ไลน์ บูโร (ประเทศไทย) จำกัด (ซีพีพี – CPP) เป็นผู้ดำเนินการก่อสร้างเมื่อต้นปีที่ผ่านมา ทั้งทีพีเอ็นและซีพีพีได้ทำงานร่วมกันตลอดระยะเวลาหนึ่งปีเพื่อทำการเตรียมพร้อมในเรื่องของระบบวิศวกรรมและวัสดุอุปกรณ์ต่าง ๆ เพื่อให้มั่นใจว่าการก่อสร้างจะเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งบัดนี้มีความพร้อมที่จะเริ่มดำเนินการก่อสร้างทั้งระบบท่อขนส่งน้ำมันและคลังน้ำมันตามแผนงานที่ตั้งไว้ จึงได้จัดพิธีวางศิลาฤกษ์คลังน้ำมันบ้านไผ่แห่งนี้ขึ้นเพื่อเป็นจุดเริ่มต้นของภารกิจสำคัญของทีพีเอ็นและซีพีพีนับจากนี้เป็นต้นไป
​โดยระบบท่อขนส่งน้ำมันในภาคตะวันออกเฉียงเหนือรวมทั้งคลังน้ำมันแห่งนี้จะตอบสนองต่อนโยบายของรัฐบาลในการสร้างความมั่นคงด้านการจัดหาพลังงาน และยังเอื้อต่อนโยบายการเก็บสำรองน้ำมันสำเร็จรูปในคลังส่วนภูมิภาค ส่งผลให้มีโครงสร้างพื้นฐานด้านพลังงานที่เชื่อถือได้ (Reliable) ซึ่งจะก่อให้เกิดประโยชน์ด้านเศรษฐศาสตร์ต่อประเทศ รวมถึงยังเป็นการรองรับการขยายตัวด้านการใช้น้ำมันในภูมิภาคอาเซียน ช่วยเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศไทยในการก้าวสู่การเป็นศูนย์กลางพลังงานของภูมิภาคอีกด้วย
“บริษัทฯ ตระหนักดีถึงภารกิจอันสำคัญยิ่งของเราต่ออนาคตและความมั่นคงของพลังงานในประเทศ และได้กำหนดเป็นนโยบายสำคัญในการดำเนินงานโดยคำนึงถึงหลักมาตรฐานสากลด้านความปลอดภัย ระบบวิศวกรรม กระบวนการตรวจสอบ ขั้นตอนการทำงาน ฯลฯ จึงมั่นใจได้ว่าการดำเนินโครงการขยายระบบท่อขนส่งน้ำมันภาคพื้นดินในภาคตะวันออกเฉียงเหนือจะเป็นไปด้วยความรอบคอบและมีประสิทธิภาพสูงสุด เพื่อประโยชน์ที่จะเกิดขึ้นแก่ความมั่นคงทางพลังงานของประเทศในอนาคต รวมทั้งประโยชน์แก่ชุมชนและทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง” นายกัมพล กล่าว

โครงการขยายระบบการขนส่งน้ำมันทางท่อไปยังภาคตะวันออกเฉียงเหนือของบริษัท ไทยไปป์ไลน์ เน็ตเวิร์ค จำกัด มีระยะทางทั้งสิ้น 342 กิโลเมตร ผ่าน 70 ตำบล 22 อำเภอ 5 จังหวัด เริ่มจากอำเภอเสาไห้ จังหวัดสระบุรี มาสิ้นสุดที่อำเภอบ้านไผ่จังหวัดขอนแก่น และมีการก่อสร้างคลังน้ำมันปลายทางที่อำเภอบ้านไผ่ขนาด 140 ล้านลิตร ซึ่งเมื่อระบบแล้วเสร็จจะสามารถลดปริมาณการขนส่งน้ำมันทางรถบรรทุกลงไปจำนวนประมาณ 200,000 เที่ยวต่อปี คิดเป็นการประหยัดเชื้อเพลิงในการขนส่งลงไปได้กว่า 21 ล้านลิตรต่อปี ที่สำคัญ คลังน้ำมันแห่งนี้จะเกิดประโยชน์ต่อชุมชนโดยรอบและประชาชนในท้องถิ่นจากการสร้างงานให้แก่พี่น้องที่อยู่ใกล้เคียง ซึ่งนอกเหนือไปจากการสร้างงานจากบริษัทฯ โดยตรงแล้ว ยังจะเพิ่มโอกาสของการสร้างงานสร้างรายได้จากธุรกิจที่เกี่ยวข้องต่อเนื่องอื่นๆอีกมาก จึงนับเป็นประโยชน์ต่อการขับเคลื่อนเศรษฐกิจท้องถิ่นโดยตรงและยังส่งผลต่อการเพิ่มประสิทธิภาพการขนส่งน้ำมันของประเทศ ลดความสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงในการขนส่ง ลดปัญหาด้านอุบัติเหตุรวมถึงแก้ปัญหาด้านสิ่งแวดล้อม ทั้งยังเป็นโครงการฯ สำคัญที่มีส่วนช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศด้วย