85 ปี’อารีย์ วงศ์อารยะ’บารมียังล้น-สุขภาพแข็งแรง แจ่มใส ความจำดีเยี่ยม

1 กุมภาพันธ์ นายอารีย์ วงศ์อารยะ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ครบรอบวันเกิด 85 ปี มีบรรดาข้าราชการและอดีตข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ของกระทรวงมหาดไทย และบรรดาผู้มีเกียรติทั้งพุทธและมุสลิม ไปร่วมแสดงความยินดีอย่างคับคั่ง มีการออกร้านของหน่วยงานองค์กรต่างๆ หลายสิบร้าน

แม้ในวัย 85 ว่างเว้นจากการทำงานรับราชการมา 25 ปี การที่มีข้าราชการทั้งที่อยู่ในราชการมาร่วมงาน แสดงถึงความเคารพรักที่มีต่อนายอารีย์ วงส์อารยะ ได้เป็นอย่างดี

‘เป็นมุสลิม ที่ได้รับการยอมรับ ยังมีบารมี แม้ว่าจะเกษียณอายุราชการหลายปีแล้วก็ตาม สะท้อนให้เห็นว่า ท่านได้ให้ความเป็นธรรมกับทุกคนอย่างเท่าเทียม ไม่เลือกว่าจะเป็นใคร เป็นพุทธหรือมุสลิม เป็นสิ่งที่ทำให้ผู้คนให้การยอมรับ หากไม่มีความเป็นธรรม คงไม่มีคนมามากขนาดนี้ สมควรที่เราจะต้องช่วยกันรักษาไว้ ‘อ.ประสาน ศรีเจริญ รองประธานผู้ทรงคุณวุฒิประจำสำนักจุฬาราชมนตรี กล่าวระหว่างนำกล่าวดุอาร์ ขอจากพระผู้เป็นเจ้าประทานให้นายอารีย์และครอบครัว มีสุขภาพพลานามัยที่แข็งแรงสมบูรณ์

‘ไม่ได้ทำอะไร ก็ใช้ชีวิตตามปกติ’นายอารีย์ กล่าวเมื่อถูกตั้งคำถามว่า มีเคล็ดลับอะไรจึงมีสุขภาพที่แข็งแรง
‘ช่วยที่เกษียณ ผมไม่รับงานอะไรเลย อยู่บ้านทำสวน เพราะรักการทำสวน เติบโตมากับสวน’ นายอารีย์ กล่าว
ด้วยเหตุนี้จะเห็นว่า พื้นที่ 8 ไร่เศษที่บ้านพักของนายอารีย์ ในซอยลาดพร้าว41 จึงเต็มไปด้วยต้นไม้ขนาดใหญ่ ร่มรื่น
‘ผู้สูงอายุต้องหากิจกรรมทำ ใช้กำลังกายและสมอง ไม่เช่นนั้น สมองฝ่อ’นายอารีย์ กล่าว

ในวัย 85 ปี นายอารีย์ ยังได้รับเชิญเป็นประธานเปิดงาน ประธานงานแต่งงานแทบไม่ว่างเว้น เป็นแกนนำคนสำคัญในมูลนิธิสานใจไทยสู่ใจใต้ ที่นำเด็กๆจาก 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ เข้ามายังกรุงเทพฯและปริมณฑล เพื่อเรียนรู้สังคมที่แตกต่าง

นายอารีย์ วงศ์อารยะ เกิดเมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2478 ที่สี่แยกบ้านแขกในครอบครัวมุสลิมเชื้อสายอินเดีย สำเร็จการศึกษา มัธยมศึกษาจาก โรงเรียนอัสสัมชัญ จบปริญญาตรีคณะรัฐศาสตรบัณฑิต สาขาวิชาการปกครอง จากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ระดับปริญญาโท M.S. (Community Development) มหาวิทยาลัยแห่งประเทศฟิลิปปินส์ และ M.S. (Public Administration) มหาวิทยาลัยแห่งรัฐมิสซูรี่ ประเทศสหรัฐอเมริกา

เข้ารับราชการในสังกัดกระทรวงมหาดไทย จนกระทั่งได้ดำรงตำแหน่งสำคัญหลายตำแหน่ง อาทิ ผู้ว่าราชการจังหวัดสตูล สระบุรี ปราจีนบุรี สุพรรณบุรี รองปลัดกระทรวงมหาดไทย อธิบดีกรมที่ดิน และปลัดกระทรวงมหาดไทยเป็นตำแหน่งสุดท้าย ก่อนจะเกษียณอายุราชการในปี พ.ศ. 2548

ด้านการเมืองเคยดำรงตำแหน่ง สมาชิกวุฒิสภา เมื่อปี พ.ศ. 2538 และรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ในรัฐบาลของพันตำรวจโท ทักษิณ ชินวัตร พ.ศ. 2547 ต่อมาในการจัดตั้งรัฐบาลของพลเอกสุรยุทธ์ จุลานนท์ ได้รับตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย และได้ทำงานร่วมกับพลงอ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ ในโครงการสานใจไทยสู่ใจใต้ นำเยาวชนจาก 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้มาเรียนรู้การใช้ชีวิตในกรุงเทพมหานครและปริมณฑล และทำงานการกุศลหลายอย่าง