‘ซาลาห์-มาเน่’ 2 นักเตะผู้ทรงอิทธิพล ผู้นำการเปลี่ยนแปลงทั้งในและนอกสนาม

CIEF สถาบันจัดอันดับของสวิสเซอร์แลนด์ ได้จัดอันดับ นักฟุตบอลที่มีมูลค่ามากที่สุดในโลก เมื่อเดือนสิงหาคม 2019 ให้ซาดิโอ มาเน่ มีค่าตัว 144 ล้านปอลด์ หรือราว 5,472 ล้านบาท เป็นอันดับ 6 ของนักฟุตบอลที่มีค่าตัวสูงสุดในโลก ในขณะที่ โมฮัมเหม็ด ซาล่าห์ หรือโมซาล่าห์ ถูกจัดอันดับให้มีค่าตัว 200 ล้านปอลด์หรือ 7,600 ล้านบาท สูงกว่า ลิโอเนล เมสซี่ ที่มีค่าตัว 153 ล้านปอนด์ หรือ 5,814 ล้านบาท เป็นรองเพียงคีลิย็อง เอ็มบัปเป้ แห่งปารีสแซง-แชร์กแมง ที่ถูกตั้งค่าตัวไว้สูงทีสุดในโลก 230 ล้านปอนด์ หรือ 8,740 ล้านบาท เป็นการการันตีความยิ่งใหญ่ของ 2 นักเตะมุสลิมแห่งลิเวอร์พูล ซาล่าห์และมาเน่ ผู้นำการเปลี่ยนแปลงทั้งในและนอกสนาม

โมฮัมหมัด ซาห์และซาดิโอ มาเน่ เป็นกองหน้าระดับวูปเปอร์สตาร์ของโลก จากทีมหงส์แดง ลิเวอร์พูล มีที่มาที่ไม่แตกต่างกัน ทั้งคู่มาจากประเทศในแอฟริกา เป็นมุสลิม ทางบ้านมีฐานะยากจน แต่ชมชอบการเล่นฟุตบอลอย่างฝังหัว และต้องการความสำเร็จอย่างยิ่งใหญ่จากการเล่นฟุตบอล

มาเน่ ตื่นกระแสฟุตบอลและฝันจะเป็นนักเตะของพรนีเมียร์ลีกของอังกฤษ จากแรงบันดาลใจที่นักเตะทีมชาติเซเนกัล 2 คน เอล ฮัดจิ ดียุป และซาลิฟ ดิเยา ได้ร่วมค้าแข้งกับลิเวอร์พูล หลังการแข่งขันฟุตบอลโลกที่เกาหลีใต้จบลง

มาเน่ เกิดที่เซเนลู หมู่บ้านยากจนในเซเนกัล ประเทศในทวีปแอฟริกาที่มีพลเมือง 200,000 คน ตอนเด็กเขาไม่ได้อะไรนอกจากซ้อมฟุตบอลและเรียนศาสนา ในวันที่เขาตัดสินใจเดินทางเข้าสู่เมืองหลวงเพื่อคัดตัวเข้าสโมสร คนในหมู่บ้านได้รวบรวมเงินให้เป็นค่าเดินทาง เสื้อและรองเท้าเก่าๆ ทำให้เด็กอย่างเขาเป็นจุดสนใจ และมีคำถามว่า เขามาคัดตัวแน่หรือ มาเน่ บอกว่า นี่เป็นชุดที่ดีที่สุดที่เขามี

แต่หลังได้ลงคัดตัว คนที่สบประมาทเขาต้องทึ่งในฝีเท้าของไอ้หนูน้อยมาน่า และรีบเซ็นสัญญาให้เขาร่วมทีมเยาวชนของสโมสร เป็นก้าวแรกของนักเตะ มาเน่ ที่กลายเป็นดาวโรจน์ในพรีเมียร์ลีก

จากทีมในเซเนกัล เขาถูกส่งมาคัดตัวในยุโรป และได้เซ็นต์สัญญาเล่นกับทีมในออสเตรีย ก่อนขยับไปเล่นให้เซาท์แธมตันในพรีเมียร์ลีก ตามความใฝ่ฝัน และถูกนายใหญ่ของหงส์แดง ซื้อตัวมาร่วมทีมลิเวอร์พูลด้วยค่าตัว 34 ล้านปอนด์ เมื่อปี 2016 เป็นค่าตัวแพงที่สุดของนักเตะแอฟริกาที่ลิเวอร์พูลซื้อตัว และเขาได้สร้างผลงานคุ้มค่าตัวด้วยการโชว์การบิงประตู ไปแล้ว 72 ประตูใน 3 ฤดูกาลครึ่ง

ในขณะที่โม ซาลาห์ เติบโตด้วยความใฝ่ฝันเป็นนักเตะอาชีพ จากบัสยูน เมืองเล็กๆในอียิปต์ เขาต้องเดินทางวันละ 9 ชั่วโมงเพื่อมาฝึกซ้อม ทำให้บางครั้งต้องขาดเรียน แต่ด้วยการสนับสนุนของครอบครัว เขาจึงได้เดินหน้าต่อในการเล่นฟุตบอล ด้วยรูปร่างเล็กให้ซาล่สห์ ถูกปฏิเสธหลายครั้ง แต่เขายังมีความมุ่งมั่นที่จะเอาดีในการเล่นฟุตบอล จนสุดท้ายได้ลงเล่นในทีมพรีเมียร์ลีกของอียิปต์ ก้าวไปสู่บาเซิล ในสวิสเซอร์แลนด์ เชลซี ในพรีเมียร์ลีก โรม่า ในอิตาลี ก่อนจะเซ็นสัญญา ร่วมทีมลิเวอร์พูลเมื่อปี 2017 ด้วยค่าตัว 36.5 ล้านปอนด์ ด้วยสถิติสูงสุด

ซาลาห์ไม่ทำให้แฟนลิเวอร์พูลผิดหวัง เขาทำสถิติให้ลิเวอร์พูลเป็นกอบเป็นกำ ด้วยการยิง 84 ประตูจากการลงเล่น 2 ฤดูกาลครึ่ง กลายเป็นขวัญใจของคนลิเวอร์พูล คนอียิปต์ และสาวกหงส์แดงทั่วโลก ไม่เพียงแต่มุสลิม

ไม่เพียงการโชว์ฟอร์มที่ยอดเยี่ยมในสนาม แต่ทั้งซาลาห์ และมาเน่ ได้ปฏิบัติตัวเป็นมุสลิมที่ดีนอกสนาม แทบทุกครั้งที่ทำประตูได้ ทั้งคู่จะก้มลงกราบพระผู้เป็นเจ้า ด้วยการยึดมั่นว่า ความสำเร็จที่เกิดขึ้นมาจากประสงค์ของพระผู้เป็นเจ้า
พวกเขาจึงไม่ลืมตัว หลงไหลกับความสำเร็จที่ได้รับ

ซาลาห์ บริจาคเงินจำนวนมากให้กับโรงพยาบาลในเมืองบ้านเกิดที่ถูกระเบิด บริจาคให้กับองค์กรการกุศลในบ้านเกิด เพื่อการศึกษาของเยาวชน ช่วยเหลือคนยากจน สร้างสนามฟุตบอลให้กับเด็กได้ก้าวสู่ความฝันที่เขาไม่ได้รับเมื่อตอนวัยเด็ก
มีความเป็นกันเองกับทุกคน ไม่ถือตัวว่า เป็นซุปเปอร์สตาร์

ในวันที่ซาล่าห์ เดินทางเข้าสนามแอนฟิลด์ครั้งแรก เขาถูกชูป้ายต่อต้านว่า เป็นมุสลิมหัวรุนแรง ตามกระแสเกลียดกลัวมุสลิมในแพร่กระจายไปทั่วโรป แต่ซาล่าห์เผชิญหน้าอย่างใจเย็น เขาไม่ตอบโต้ แต่พิสูจน์ด้วยการกระทำ

วันหนึ่งเด็กน้อยแฟนลิเวอร์พูล วิ่งตามรถยนต์ของซาล่าห์ เพื่อจะได้เห็นหน้าฮีโร่ของเขา และชนเข้าอย่างจังกับเสาป้ายบอกทาง จนหัวแตกเลือดทะลัก แน่นอนว่า ซาลาห์เห็นเขาทางกระจกหลัง สิ่งที่ซุปเปอร์สตาร์หงส์แดงทำก็คือ ลงจากรถมาสวมกอดหนูน้อยคนนั้น ซึ่งน้อยนักที่นักเตะระดับซุปเปอร์สตาร์จะทำเช่นนั้น

2ปีในลิเวอร์พูล ไม่เพียงช่วยให้ทีมลิเวอร์พูลกลับมายิ่งใหญ่ในเส้นทางลูกหนัง ด้วยการคว้าแชมเปี้ยนลีก สูงสุดของยุโรป และก้าวใกล้แชมป์พรีเมียร์ลีกในรอบ 30 ปี แต่ยังเปลี่ยนแปลงหัวใจของชาวเมืองลิเวอร์พูล ที่มีกระแสเกลียดชังมุสลิม หันมาเข้าใจและยอมรับมุสลิมมากยิ่งขึ้น

สถิติของการทำร้ายร่างกายคนมุสลิมได้ลดลงหลังการมาลิเวอร์พูลของซาล่าห์ เป็นการพิสูจน์การเปลี่ยนแปลงได้อย่างชัดเจน คนลิเวอร์พูลสวมเสื้อหมายเลข 11 ของซาลาห์ ได้ความภาคภูมิใจ

ในอียิปต์ในการเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมามีคนทำบัตรเสียด้วยการกาชื่อโมฮัมหมัด ซาลาห์ ถึง 2 ล้านใบ สะท้อนอิทธิพลของซาลาห์ในหัวใจของคนอียิปต์ได้เป็นอย่างดี

ซาลาห์ ได้รับการยกย่องจากนิตยสารไทม์ สื่ออันทรงอิทธิพลของอเมริกา ให้เป็นบุคคลที่ทรงอิทธิพลของโลกประจำปี 2562 และแน่นอนว่า เส้นทางเดินของเขายังก้าวต่อไปเพื่อสร้างความเชื่อมั่นศรัทธา และความเข้าอกเข้าใจกันมากขึ้น

ไม่แตกต่างกับซาล่าห์ มาเน่ ได้บริจาครายได้ของเขาจากการเล่นฟุตบอลตั้งแต่ช่วงแรกให้กับหมู่บ้านที่เขาอาศัย และช่วยเรี่ยไรให้เขาได้สัมผัสความยิ่ง
ใหญ่แห่งโลกฟุตบอล และได้ช่วยเหลืออย่างต่อเนื่อง ทั้งการสร้างโรงพยาบาล สถานศึกษา ช่วยเหลือสังคมทุกรูปแบบ

ครั้งหนึ่ง มีคนเห็นเขาทำความสะอาดมัสยิดในลิเวอร์พูล ชายคนนั้นพยายามถ่ายภาพแต่มาเน่ได้ห้ามไว้ โดยให้เหตุผลว่า ไม่ต้องการตกเป็นเป้าสายตา เขาทำดีเพราะต้องการที่จะทำ ไม่ได้หวังสิ่งอื่นใด

มาเน่ ยังใช้โทรศัพท์เครื่องเก่า ทำให้เขาถูกตั้งคำถามว่า ฐานะอย่างเขาสามารถซื้อรุ่นใหม่ได้สบาย

‘ผมสามารถมีบ้านหลังใหญ่ ขับรถเฟอรารี่ที่หรูหราได้ แต่จะมีประโยชน์อะไร หากมีคนที่อดอยากที่รอการช่วยเหลืออยู่’มาเน่ กล่าวกับสื่อของอังกฤษ

การทุ่มเทการเล่นฟุตบอลในสนามของทั้งซาล่าห์ และมาเน่ และการเสียสละตนเพื่อผู้อื่นนอกสนาม ตามแนวทางของอิสลาม ห้เขาทั้ง 2 ได้รับการยกย่องเป็น 2ผู้ยิ่งใหญ่แห่งแอนฟิลด์ ผู้นำการเปลี่ยนแปลงทั้งในและนอกสนาม-Mtoday