“เต้น” ให้กำลังใจ “นราธร” ชง 3 สูตร สู้ด้วย “อุดมการณ์”

นับถอยหลัง จากนี้ ก็เหลืออีกไม่กี่วัน เท่านั้นที่ ศาลรธน.กำหนด อ่านคำพิพากษา คดี “ยุบพรรค” จากข้อหา ล้มล้างการปกครองในระบอบประชาธิปไตย ของ ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หน.พรรคอนาคตใหม อันเป็นประเด็นร้อน ที่ ต้องติดตาม

“…ระหว่างปีที่ผ่านมา มีเรื่องราวสวยงามมากมายให้จดจำ มีข้อผิดพลาดมากมายให้เรียนรู้ มีความสำเร็จหลายอย่างให้ภูมิใจ และมีกำลังใจมากมายที่ต้องขอบคุณ น้ำทุกขวด ดอกไม้ทุกดอก… ภาพสีน้ำมันที่คุณวาด, ดาวที่คุณพับ…ในปี 2563 เช่นกัน เราหวังว่าจะได้เรียนรู้ และเติบโตไปด้วยกัน จนกว่าเราจะลบรอยน้ำตาของผู้ทุกข์ตรม จนกว่าเราจะได้มาซึ่งประชาธิปไตย…”

โพสต์ ซึ้งๆ ของ “ไพร่หมื่นล้าน” ธนากร จึงรุ่งเรืองกิจ หน.พรรคอนาคตใหม่ ปลุกเร้า ชาวสีส้ม ออกมาต่อสู้ เพื่อ “อุดมการณ์” ต้านคำสั่ง “ยุบพรรค” จาก “ศาลรัฐธรรมนูญ” ในวันที่ 21 ม.ค.63 ด้วยข้อหา “อุจฉกรรจ์” ล้มล้างการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข

ฉับพลัน ทันใด ก็มี เพื่อน พ้อง น้อง พี่ ร่วม อุดมการณ์ ที่ผ่าน ชะตากรรม ต้านรัฐประหารในอดีต ออกมาให้ กำลังใจมากมาย หนึ่งในจำนวนนั้น คือ “เต้น” ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ อดีต แกนนำ แนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.)

… สถานการณ์ของพรรคอนาคตใหม่ มาถึงตรงนี้ต้องบอกว่า มีหลายด่านเหลือเกิน ที่เตรียมการจะยุบพรรค…ถ้าคิดเป็นบวกก็ง่าย ศาลฯวินิจฉัยไม่ยุบ พรรคก็เดินหน้าต่อไป … แต่ถ้าคิดโดยอิงกับความเป็นจริงแล้ว คิดเป็นบวกยากครับ !!

วันนี้จึงเป็นโจทย์ข้อใหญ่ของแกนนำ และสมาชิกพรรค ที่จะต้องประเมินสถานการณ์กันให้ชัด แล้วเตรียมตัวให้พร้อม ที่จะเผชิญกับสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้น… ในทัศนะผมคิดว่า ประเมินสถานการณ์ให้แย่ที่สุด แล้วเตรียมรับมือจากตรงนั้น ก็ไม่มีอะไรเสียหาย

ว่ากันตามสูตร ก็ต้องมีพรรคเตรียมไว้สำหรับรองรับส.ส.ที่จะต้องเดินต่อ

1. ตั้งพรรคขึ้นมาใหม่ ถ้าจะเอาสูตรนี้ ก็ต้องให้คนไปเดินกระบวนการจัดตั้ง ในขั้นตอนของ กกต.ไว้แล้วก่อนหน้านี้ เพื่อให้ทันกับกรอบระยะเวลา แล้วเดินหน้าได้ทันที 2. ไปเจรจากับพรรคการเมืองที่มีอยู่แล้ว ที่สามารถร่วมอุดมการณ์ ร่วมแนวทางกันได้ เพื่อโอนย้ายถ่ายเทสมาชิก แล้วทำหน้าที่ในสภาฯ ต่อไป

แต่ทั้ง 2 อย่างนี้ ยังเป็นโจทย์ข้อง่าย ถ้าเทียบกับคดีอาญา ซึ่งมีแนวโน้มว่าจะเป็นลูกพ่วงตามมา หลังจากการวินิจฉัยคดียุบพรรค… ตรงนี้ คือสิ่งที่พรรคอนาคตใหม่ ต้องคิดวิเคราะห์ แล้วก็แยกแยะสถานการณ์ให้ครบถ้วน รอบด้าน

สิ่งที่อยากจะฝากบอก ก็คือ… ต้องเรียนรู้จากประวัติศาสตร์ที่ผ่านมา แล้วศึกษาให้เข้าใจว่าพรรคการเมืองอย่างไทยรักไทย หรือ พลังประชาชน เมื่อถูกยุบ เขามีอะไรต้องคิด ต้องทำบ้าง

ถ้าตัดสินใจจะลงถนน ก็ต้องเข้าใจว่า”อนาคตใหม่”ไม่ได้มีที่พึ่งเป็นกองทัพเหมือนพันธมิตรฯ หรือ กปปส. นอกจากนี้ต้องศึกษาชะตากรรมของ นปช. โดยละเอียดว่า ความบอบช้ำ สูญเสีย ทั้งหลายมันเกิดขึ้นจากอะไร ต้องป้องกัน แก้ไข และพยายามอย่างสุดชีวิต ในการรักษาทุกชีวิต ที่จะออกมาต่อสู้ด้วยกัน

… ไม่ใช่เรื่องง่ายครับ แต่สำหรับพรรคอนาคตใหม่ มาถึงวันนี้ อะไรก็ไม่ง่ายทั้งนั้น และนี่ไม่ได้หมายความว่า ผมจะไปยุยงส่งเสริมให้พาผู้คนออกมาเดินขบวน แต่เคารพในการตัดสินใจของแกนนำพรรคอนาคตใหม่ และ ทิ้งท้ายไว้ด้วยความห่วงใยว่า … บทละครเรื่องเดิมเอามาฉายซ้ำ ถ้าจะให้ไม่จบแบบเดิม ก็ต้องเรียนรู้จุดจบของครั้งที่ผ่านๆ มา…

ถอดความออกมาให้ชัด นั่นคือ คำเตือน ที่ว่า หากคิดจะพาประชาชนลงถนน สิ่งที่จะต้องคำนึงถึงเป็นลำดับแรกคือ ความบอบช้ำ สูญเสีย และ การรักษาทุกชีวิต ที่จะออกมาร่วมต่อสู้ด้วยกัน !

ตามไทม์ไลน์ หลังจากนี้ เป็น ห้วงสถานการณ์ที่บีบรัดอย่างยิ่ง ชนิดต้องลุ้นระทึก ตลอดเวลา