ประธาน นปช.หวั่นสองกลุ่มเผชิญหน้า ซ้ำรอย 6 ตุลาฯ ชี้ เกิดจากความ คลั่งอำนาจ มองคนเห็นต่างเป็น ศัตรู แนะให้ หยุดตั้งเวที ปลุกม็อบคู่ขนาน สร้างความชิงชัง แตกแยก จนนำมาซึ่งความ หายนะ และ ทำให้ รัฐบาลพังพินาศ
วันที่ 22 ธ.ค.2562 ที่ ร้านกาแฟ พีซคอฟฟี่แอนด์ ไลบรารี่ อิมพีเรียล ลาดพร้าว ชั้น 5 มีการจัด รายการลมหายใจ พีซทีวี เวทีทัศน์ ที่ออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์ดาวเทียมพีซทีวี โดยมีแกนนำแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ มาพบปะพูดคุย ร้องรำทำเพลงกันสนุกสนานกันเป็นประจำทุกสัปดาห์
นายจตุพร พรหมพันธุ์ ประธานนปช. กล่าวว่า จากประเด็นเรื่อง วิ่งไล่ลุง วิ่งเชียร์ลุง และ อนาคตใหม่ กับ เวทีต่อต้านการชังชาติ จะเห็นว่า มีแนวโน้มที่สถานการณ์การเมืองไทย จะซ้ำรอย ประวัติศาสตร์ 6 ตุลาคม 2519 หรือ เรียกได้ว่าคือ โมเดล 6 ตุลา รัฐบาล ไม่ว่ายุคใด สมัยใด หากเกิดการคลั่งอำนาจ จะมองโลกแคบ ไม่ฟังความเห็นต่าง มองคนเห็นต่างเป็นศัตรูที่ต้องกำจัด ต้องต่อสู้ ท้ายสุด จะทำเรื่องเล็กให้เป็นเรื่องใหญ่ ดูจากกรณีดังกล่าวนี้เป็นต้น
รัฐมีความตื่นตัวเกินเหตุ กับการจัดกิจกรรมแสดงออก ตามสิทธิเสรีภาพของประชาชน จนมีการจัดกิจกรรมคู่ขนานขึ้นมา มีวิ่งไล่ลุง ก็มีวิ่งเชียร์ลุง รวมถึง กรณีที่ นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม แกนนำพรรครวมพลังประชาชาชาติไทย และ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ผู้ก่อตั้งพรรครวมพลังประชาชาติไทย ตั้งเวทีต่อต้านลัทธิชังชาติ กล่าวหา พรรคอนาคตใหม่ เป็นพวกชังชาติ ซึ่ง พรรคดังกล่าวเป็นพรรคร่วมรัฐบาลพรรค แม้จะเห็นว่า คนร่วมเวที มีไม่มากนัก แต่อย่าดูถูกไป กระบวนการนี้ เป็นกระบวนการบ่มเพาะ รอเวลา หากรัฐกระโจนเข้าร่วมเมื่อใด จำนวนคนก็จะเพิ่มขึ้นไม่ยาก
หากรัฐบาล หรือพรรคร่วมรัฐบาล ไม่เข้าเกี่ยวข้องกับเวทีที่สร้างความแตกแยกเช่นนี้ ปัญหาก็จะไม่เกิด แต่ถ้าเข้าไปเกี่ยวข้อง ปัญหาเกิดแน่ หากรัฐบาลไม่เห็นด้วยกับการสร้างความแตกแยก ก็ควรต้องบอกให้หยุด อย่างไรก็ตาม คนคลั่งอำนาจ มักจะไม่ฟังความเห็นต่าง คนใกล้ชิดก็จะเลือกพูดแต่สิ่งที่ผู้มีอำนาจอยากฟัง ไม่ว่าเรื่องนั้นจะดีหรือไม่ เมื่อเกิดปรากฎการณ์คลั่งอำนาจเช่นนี้ คนคลั่งอำนาจเหล่านั้น มักจะพังทุกราย
นายจตุพร กล่าวว่า ตนอยู่ในฐานะนักวิเคราะห์เท่านั้น ด้วยเราเป็น นักรบบาดเจ็บ ดังนั้นจึง ขอสื่อสารไปยังรัฐบาลว่า ขอให้ยุติการสนับสนุนพรรคร่วม ตั้งเวทีปลุกความชิงชัง หวั่นประวัติศาสตร์จะซ้ำรอย เหตุล้อมฆ่า นักศึกษา ประชาชน อย่าบ้าคลั่ง 6 ตุลาคม 2519 หากยังปล่อยให้เกิดการปลุกปั่น ความแตกแยกที่เกิดขึ้น จะมากกว่าสิบปีที่ผ่านมา นำมาซึ่งหายนะของชาติ และทำให้รัฐบาลพังพินาศ
นายจตุพร ยังกล่าวถึง การที่เสียงฝ่ายค้าน หายไป 4 เสียงจาก งูเห่า อนาคตใหม่ รัฐบาลจะอยู่ได้หรือไม่นั้น ไม่ได้ขึ้นอยู่กับจำนวนเสียง หากรัฐบาล ยังคงไร้ความชอบธรรม แก้ปัญหาเศรษฐกิจไม่ได้ ไม่ว่ารัฐบาลจะจัดงานเลี้ยงกี่รอบ ก็แก้ปัญหาชาติ ปัญหาความขัดแย้งระหว่างพรรคร่วมไม่ได้