“พิภพ” อดีตแกนนำ พธม. เตือน สังคมไทย ระวังสงครามกลางเมือง จะย้อนกลับมาอีก ชี้ ยุค พธม.นำ เคลื่อนไหว กอบกู้ บ้านเมือง สู้รบยาวนาน แต่ วันนี้ ยังเหมือนเดิม เห็นแต่อนาคตที่”พร่ามัว” ตั้งคำถาม เราจะทำอะไรกันดี
วันที21 ธ.ค.62 นายพิภพ ธงไชย อดีตแกนนำพันธมิตรประชนเพื่อประชาธิปไตย (พธม.) โพสต์ข้อความในเพจเฟซบุ๊ก Pibhop Dhongchai ระบุว่า…วันนี้ เราจะทำอะไรกันดี ? เราผ่านเหตุการณ์ 14 ตค. 6 ตค. พฤษภา 35 เหตุการณ์ พธม. นปช. กปปส. เหตุการณ์สงครามกลางเมือง ของ พคท.สู้รบกันในป่าเขาที่มวลชนเข้าร่วมรวมกันนับสิบล้าน และสู้รบกันมายาวนานมาก หลายกลุ่ม หลายเหล่า ในหลายเหตุการณ์ดังกล่าวมา
รู้สึกทนไม่ไหวกับพวกซ้ายจัด ขวาจัด เผด็จการต่างๆที่ปลุกระดมกันอยู่ตอนนี้ คงต้องออกมารบรา ท้วงติงกับพวกนี้กันบ้างเป็นครั้งคราว หลายคนก็เป็นเพื่อนฝูงกันอยู่ สถานีวิทยุ และTV บางช่อง ผู้สื่อข่าวบางคน พิธีกรบางท่าน ทำตัวแบบวิทยุยานเกาะ ที่สมัยนั้นนำวิทยุทหาร 200 กว่าสถานี ปลุกระดมกันแบบให้ข้อมูล เท็จบ้าง จริงบ้าง จนนักศึกษาถูกแขวนคอ ถูกรุมฆ่าในสนามฟุตบอลมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
ดร.ป๋วยเองก็เกือบถูกทำร้าย เกือบตายได้นายทหารบางคนบอกกับผมว่า วันนั้นเขาเข้าไปในธรรมศาสตร์ เพื่อมุ่งไปยิงอาจารย์ป๋วยโดยเฉพาะ เพราะเชื่อว่าเป็นคอมมิวนิสต์และเชื่อว่าใต้สนามฟุตบอลนั้นเป็นที่เก็บอาวุธสงคราม
เมื่อความจริงไม่เป็นเช่นนั้น ผู้ก่ออาชญากรรมทั้งหลาย กลับไม่มีใครถูกนำตัวขึ้นพิจารณาคดีในศาลกันสักคนเดียว เหมือนคนที่ยิงถล่ม พธม.ยามค่ำคืน และที่ระดมยิงหน้ารัฐสภา ในเช้ามืดวันที่ 7 ตค. จนวันนี้ก็ไม่มีใครมีความผิด ไม่สามารถจับคนลอบยิง M 79 ได้
ขณะที่ แกนนำ พธม.ถูกดำเนินคดีคนแล้วคนเล่า ถ้าเราไม่ระวังกัน ยั่วยุกันไปมาแบบนี้ ไม่หยุด อีกทั้ง ผบ.ทบ. ก็กระโดดลงมาร่วมเล่นเกมส์นี้ด้วย พรรคการเมือง ก็มาร่วมวงกับนักการเมืองบางคน เล่นกันไปมาสนุกสนาน อย่างเมามันในอารมณ์บางคน ยั่วยุ ประชาชน ทำตัวเป็นขวาจัด ซ้ายจัด แบบไร้สติ ไร้ความคิด เหตุการณ์เมื่อ ๔๐ กว่าปีก่อนก็จะหวนกลับคืนมาอีก
ขณะเดียวกัน กลุ่มทุนก็สะสมทุนกันอย่างสนุกสนานอยู่ไม่กี่ตระกูล จนช่องว่างระหว่างความรวยกับความจน ถ่างห่างกันขึ้นอันดับ 1 ของโลก ขณะที่เรามีเศรษฐีระดับโลกเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
ก็ช่วยกันคิดดูก็แล้วกัน ว่าบ้านเมืองจะเกิดประวัติศาสตร์ซ้ำรอย ย่ำเท้าอยู่กับที่ วนไปเวียนมาอยู่อย่างนี้ อนาคตของลูกหลานเราก็จะพร่ามัวและเราก็ต้องตั้งคำถามว่า“วันนี้ เราจะทำอะไรกันดี เพื่อวันพรุ่งนี้เราจะก้าวเดินไปสู่อนาคตที่ดีกว่านี้”