กรมบังคับคดี แจงลั่น! ยึดทรัพย์ “ยิ่งลักษณ์” ตามคำสั่ง ก.คลัง ได้แล้ว 49 ล้าน

กรมบังคับคดี ชี้แจง ยึดทรัพย์  “ยิ่งลักษณ์” ตามคำสั่ง คลัง อายัดเงิน 7.9 ล้าน ที่ดิน สิ่งปลูกสร้าง 200 ล้าน ขายทอดตลาดแล้ว 49 ล้าน ชี้ ศาลปกครองกลางยกคำร้อง ขอคุ้มครองชั่วคราว จึงต้องเดินหน้าตามมาตรการต่อไป

​วันที่ 17 ธ.ค.62 กรมบังคับคดี ออกหนังสือชี้แจงการใช้มาตรการบังคับทางปกครองกรณีจำนำข้าว โดยระบุว่า ตามที่มีข่าวในสื่อสังคมออนไลน์ว่า ทรัพย์สินของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ได้ถูกกรมบังคับคดี ขายทอดตลาดไปแล้วนั้น เป็นกรณีที่กระทรวงการคลังมีคำสั่งที่ 1351/2559 ให้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ รับผิดชดใช้ค่าสินไหมทดแทนเป็นเงิน 35,717,273,028.23 บาท และตามคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ 56/2559 ทำให้กรมบังคับคดีมีหน้าที่ต้องดำเนินการยึด อายัด ทรัพย์สินของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ตามที่กระทรวงการคลังได้ร้องขอให้ดำเนินการ

ต่อมา เมื่อวันที่ 13 ก.ค.2560 กระทรวงการคลังได้ขอให้กรมบังคับคดี ดำเนินการบังคับกับทรัพย์สินของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร โดยขออายัดเงินฝากในบัญชีธนาคาร หน่วยลงทุนในบริษัทหลักทรัพย์และกองทุนต่างๆ ซึ่งมีการส่งเงินตามคำสั่งอายัดมาเพียงจำนวน 7,937,174.58 บาท และได้มีการจ่ายเงินให้กระทรวงการคลังไปแล้ว นอกจากนี้ กระทรวงการคลังยังได้ขอให้กรมบังคับคดียึดที่ดิน ที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้าง และห้องชุด เป็นเงิน 199,230,779.50 บาท ซึ่งปัจจุบันมีทรัพย์สินที่ขายทอดตลาดได้แล้ว 3 รายการ รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 49,510,000 บาท และทรัพย์รายการที่เหลืออยู่ในขั้นตอนของการประกาศขายทอดตลาด

การดำเนินการของกรมบังคับคดี เป็นการใช้มาตรการบังคับทางปกครองตามพระราชบัญญัติวิธีปฏิบัติราชการทางปกครอง พ.ศ.2539 แม้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร จะได้ใช้สิทธิทางศาลเพื่อขอให้ศาลมีคำสั่งคุ้มครองชั่วคราวและทุเลาการบังคับตามคำสั่งกระทรวงการคลังข้างต้น แต่เนื่องจากศาลปกครองกลางได้มีคำสั่งยกคำร้องขอคุ้มครองชั่วคราวและขอทุเลาการบังคับตามคำสั่งกระทรวงการคลัง ดังนั้น กรมบังคับคดีจึงต้องดำเนินการตามมาตรการบังคับทางปกครองต่อไป โดยการยึด อายัด และขายทอดตลาดทรัพย์สินของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เพื่อให้เป็นไปตามคำสั่งทางปกครองของกระทรวงการคลัง