โฆษกเพื่อชาติออกโรงแจง ดรามาผ้าอนามัย เป็นแบบสอดถูกจัดอยู่หมวดเครื่องสำอาง
ตามที่เกิดกระแสวิจารณ์กรณีน.ส.เกศปรียา แก้วแสนเมือง โฆษกพรรคเพื่อชาติ ออกมาระบุว่า รัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ เก็บภาษีผ้าอนามัยเป็นสินค้าฟุ่มเฟือย และนายพชร อนันตศิลป์ อธิบดีกรมสรรพสามิต ออกมาชี้แจงว่า ไม่เคยเก็บภาษีผ้าอนามัยนั้น ล่าสุดน.ส.เกศปรียาได้ชี้แจงว่า ประเด็นผ้าอนามัยเป็นสินค้าฟุ่มเฟือยจากมติ ครม. วันที่ 17 เมษายน 2561 ได้ดูตามเอกสารจากเว็บ http://www.oic.go.th/FILEWEB/CABINFOCENTER7/DRAWER100/GENERAL/DATA0000/00000302.PDF ซึ่งสรุปสาระสำคัญของการประชุมคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 17 เมษายน 2561 หมวดกฏหมาย ข้อ 4 ระบุว่า … ร่างกฏกระทรวงกำหนดผ้าอนามัยชนิดสอดเป็นเครื่องสำอาง พ.ศ…..
เครื่องสำอางจัดเป็นสินค้าฟุ่มเฟือย ดังนั้นผ้าอนามัยแบบสอดจึงถูกจัดเป็นสินค้าฟุ่มเฟือย ซึ่งในความคิดของดิฉันผ้าอนามัยทุกชนิดไม่ควรถูกกำหนดให้เป็นสินค้าฟุ่มเฟือย เพราะเป็นสินค้าจำเป็นสำหรับการใช้ชีวิตของสตรีทั้งโลก ดิฉันจึงออกมาตั้งข้อสังเกตถึงประเด็นข่าวในวันนี้ เพื่อให้เกิดการตระหนักรู้ และเพื่อป้องกันไม่ให้ผ้าอนามัยชนิดอื่นๆ ถูกกำหนดเป็นเครื่องสำอาง ซึ่งเป็นสินค้าฟุ่มเฟือยที่จะสร้างภาระให้กับสตรีไทยทั้งประเทศ
แม้จะมีการชี้แจงว่า ผ้าอนามัย ถูกระบุใน พ.ร.ก ว่าเป็นสินค้าควบคุม เเต่การที่ระบุว่าผ้าอนามัยเเบบสอดก็ยังไม่ถูกปลดออกจากสินค้าประเภทเครื่องสำอางซึ่งเป็นสินค้าฟุ่มเฟือย อีกทั้ง พ.ร.ก ดังกล่าว ยังมีผลบังคับใช่เพียง 1 ปี เท่านั้น ซึ่งจริงๆแล้วควรทำให้เป็นสินค้าควบคุมถาวร
&ดิฉันให้ข้อมูลข่าวประเด็นนี้ในฐานะเป็นผู้หญิงคนหนึ่ง ก็อยากจะถามแทนสตรีทั้งประเทศเพื่อให้ได้คำชี้แจงจากทางรัฐบาลว่าทำไมถึงได้มีมติ ครม อนุมัติ เรื่องแบบนี้ ซึ่งถือเป็นสินค้าที่มีความจำเป็นสำหรับสตรี’โฆษกเพื่อชาติ ระบุ