กกต.มีมติเสียงข้างมาก เสนอเรื่องส่ง ศาลรัฐธรรมนูญ ยุบ พรรคอนาคตใหม่ ตัดสิทธิสมัคร กก.บห. กรณี “ธนาธร” ให้พรรคกู้เงิน 191 ล้านบาท “ปิยบุตร” โต้ ลั่น เงินกู้ ไม่ใช่เงิน บริจาค ย้อนถาม “จะเอากันแบบนี้เหรอ”
วันนี้ (11 ธ.ค.) สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) มีรายงานว่า ที่ประชุม กกต.มีมติเสียงข้างมากเสนอเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญสั่งยุบพรรคอนาคตใหม่ จากกรณีนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ ให้พรรคอนาคตใหม่ กู้ยืมเงินจำนวน 191 ล้านบาท เนื่องจากเห็นว่าตามมาตรา 62 ของ พ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมือง 2560 ไม่เปิดโอกาสให้พรรคกู้ยืมเงินมาใช้ในการดำเนินกิจการของพรรคได้
ขณะเดียวกัน มาตรา 66 ก็กำหนดให้นิติบุคคลสามารถบริจาคเงินให้กับพรรคการเมืองได้ไม่เกินรายละ 10 ล้านบาทต่อปี ซึ่งเงินกู้ดังกล่าวเข้าลักษณะเป็นการบริจาคที่มาตรา 72 กำหนดว่า พรรคการเมือง หรือ ผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองต้องไม่รับเงิน บริจาคทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใด โดยรู้หรือควรรู้ว่าได้มาโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย ซึ่งอาจเป็นเหตุให้ ศาลรัฐธรรมนูญสั่งยุบพรรคและเพิกถอนสิทธิสมัคร รับเลือกตั้งของ คณะกรรมการบริหารพรรคการเมืองนั้นได้ ตามมาตรา 92 (3) พ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมือง 2560
โดยก่อนหน้านี้ นายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาฯพรรคอนาคตใหม่ ขอถามอย่างตรงไปตรงมาว่าท้ายที่สุดประเทศไทยจะเอากันแบบนี้หรือ พรรคการเมืองที่จะพยายามทำให้โปร่งใสที่สุด พยายามแจกแจงที่มารายได้มากที่สุด พยายามไม่ต้องการให้นายทุนคนใดคนหนึ่งมาครอบงำพรรคมากที่สุด เราพยายามจะทำแบบนี้ แต่กลับกลายเป็นว่าเรากลับโดนคดีความ ถ้าเป็นแบบนี้ต่อไปประเทศไทยก็คือ แต่ละพรรคการเมืองถ้าต้องการหาเงินหาทองก็มุดลงดิน ไม่ต้องแจ้ง ใช้จ่ายอะไรไม่ต้องแจกแจงชัดเจน
ประเทศไทยนี้สุดท้ายคือใครโปร่งใสโดนจับผิด หรือว่าประเทศนี้ใครที่ไม่อยากโดนจับผิดหรือโดนคดีความก็ต้องซุกทรัพย์สิน ไม่ต้องโปร่งใสมากก็จะรอดตัว สุดท้ายเจตนารมณ์ของกฎหมายอยู่ตรงไหนกันแน่ ซึ่งคิดว่ากระบวนการที่ริเริ่มซ้ำไปมา 13 ปี ก็วนอยู่แบบนี้ ยุบพรรค ตัดสิทธิ์ ติดคุก ท้ายที่สุดก็ไม่ได้แก้ไขปัญหาของบ้านเมือง