ฮาซัน-ฮูเซ็น”ความภูมิใจของสังคมมุสลิมไทยกับมหกรรม “แย่งซีน”ขนานใหญ่

“ฮาซัน สาเมาะ” เยาวชนวัย 18 ปี จากจังหวัดปัตตานี เป็นบุตรชายของดร.อาลี สาเมาะ อาจารย์ประจำอิสลามศึกษามหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตปัตตานี เกิดและใช้ชีวิตในวัยเด็กที่ซาอุดิอารเบีย เป็นส่วนใหญ่ จึงพูดอาหรับได้คล่องแคล่ว เรียนรู้วิถีอาหรับมากกว่าวิถีคนไทย และเรียนรู้กุรอ่านตั้งแต่เยาว์วัย จึงสามารถท่องจำอัลกุรอ่านได้ตลอดทั้งเล่ม ไม่เพียงเท่านั้นยังสามารถอรรถาธิบายอัลกุรอ่านได้เป็นอย่างดี

“ฮาซัน สาเมาะ” เริ่มต้นเส้นทางการประกวดท่องจำหรือฮาฟิชอัลกุรอ่าน เป็นตัวแทนประเทศไทย ไปแข่งขันดูไบ สหรัฐอารหรับเอมิเรสต์ เมื่ออายุ 16 ปี โดยการผลักดันของมูลนิธิเพื่อศูนย์กลางอิสลามแห่งประเทศไทย เมื่อครั้งที่ ดร.ปกรณ์ ปรียากร เป็นประธานมูลนิธิฯ และสถาบันอัลกุรอ่านประเทศไทย ซึ่งมีพิพัฒน์ หลังปูเต๊ะ และซุกรี บัมบา เป็นผู้บริหารสถาบัน

มูลนิธิเพื่อศูนย์กลางฯ กับสถาบันอัลกุรอ่านฯ นับว่า เป็นผู้สนับสนุน ฮาซัน รวมถึงน้องชาย ฮูเซ็น อย่างแท้จริง ตั้งแต่เริ่มต้น การฝึกฝนทักษะการอ่านกุรอ่าน จากอ.ซุกรี บันบา และการดูแลเรื่องเสื้อผ้าเครื่องแต่งกาย โดยภรรยา คุณพิพัฒน์ หลังปูเต๊ะ จนมีรูปแบบการแต่งกายที่โดดเด่นสวยงาม

การเดินทางไปประกวดการท่องจำกุรอ่านของ ฮาซัน ที่ดูไบ ภายใต้การดูแลของมูลนิธิเพือศุนย์กลางฯและสถาบันอัลกุรอ่าน ฮาซัน ได้รองชนะเลิศอันดับ 9 ได้เงินรางวัลประมาณ 200,000 บาท หลังจากนั้น ได้ดูแลอย่างต่อเนื่อง ซึ่งไม่เพียงฮาซัน แต่รวมถึง ฮูเซ็น น้องชาย ที่ไปชนะเลิศที่อินโดนีเซียมา

การดูแลของสถาบันอัลกุรอ่านฯ พิสูจน์ได้จากเฟสของ Abdulhamid Darachai หรือ มิตร ดาราฉาย ผู้บริหารสมาคมกอรีฯ ที่ระบุว่า

“ลืมไม่ได้จริงๆครับ ผู้มีส่วนร่วมกับพี่น้องครอบครัวสาเมาะ คือ ผอ.สถาบันอัลกุรอ่านประเทศไทศ ที่รับส่งดูแลที่พักที่ครั้งที่เดินทางไปทดสอบ ที่สร้างชื่อเสีนงมากๆคือภรรยา เป็นผู้ออกแบบชุดประจำชาติไทยให้กับทั้งสองคน และอ.ซักรี ผู้เติมเต็ม ทำนองจังหวะการอ่านให้กับทั้งสอง”

คุณพิพัฒน์ หลังปูเต๊ะกับอ.ณรงค์ วงศ์สุมิตร เดินทางไปส่งเกือบทุกครั้งที่ ฮาซัน สาเมาะ เดินทางไปประกวดต่างประเทศ
คุณพิพัฒน์ และเจ้าหน้าที่สถาบันอัลกุรอ่านฯ ไปรับไปส่ง ฮาซัน สาเมาะ
ภรรยาคุณพิพัฒน์ ดูแลเรื่องเสื้อผ้าหน้าผมทุกครั้ง จนมาเอกลักษณ์เฉพาะตัว
สถาบันอัลกุรอ่านแสดงความยินดีเงียบๆ

แต่เมื่อ ฮาซัน ชนะเลิศการประกวดระดับนานาชาติที่ประเทศซูดาน ได้เงินรางวัล 1.4 ล้านบาท และฮูเซ็น ชนะเลิศการประกวดจากอินโดนีเชีย กลับกลายเป็นสมาคมกอรีแห่งประเทศไทยที่เมื่อก่อนนี้ไม่รู้ว่า อยูที่ไหนมาสวมบทบาทพา ฮาซัน เดินสายไปพบบุคคลต่างๆ รวมถึงระดับนายกรัฐมนตรี ซึ่งไม่รู้ระหว่างการพบปะมีการระบุว่า เป็นผลงานของสมาคมกอรีฯหรือไม่อย่างไร

บทบาทของสมาคมกอรีฯที่ผ่าน คือ การส่งเสริมการประกวดการอ่านกุรอ่านแบบกอรี คือ การอ่านแบบทำนองเสนาะ โดมีการจัดการประกวดในระดับภาค จนถึงระดับประเทศในงานเมาลิดกลางแห่งประเทศไทย ผู้ชนะการประกวดจะได้เดินทางไปประกวดเวทีนานาชาติที่ประเทศมาเลเซีย ซึ่งในรอบไม่กี่ปีที่ผ่านมา ไม่มีผลงานเป็นชิ้นเป็นอันมากนัก ไม่เคนรับรู้ว่า สมาคมฯ มาสนับสนุนฮาฟิชตั้งแต่ตอนไหน

เมื่อ ฮาซัน เดินทางกลับประเทศไทยด้วยชัยชนะ ทำไม สมาคมฯถึงเข้าหาทันที ที่มีการพูดถึงกันมาก กรณีที่ผู้บริหารสมาคมฯขอกับทางโรงแรมอัลมิรอช ให้เป็นเจ้าภาพฉลองฉลองแชมป์ให้กับสองคน ซึ่งทางโรงแรมก็ยินดี พร้อมกับจัดแถลงข่าวด้วย และตกลงกันว่าจะเชิญผู้มาร่วมรับประทานอาหารกัน 7-8 คน แต่ปรากฏว่าทางสมาคมกอรีฯ แห่กันมามากกว่าที่กำหนดมากเพื่อมาร่วมแถลงข่าว จนเก้าอี้ที่เตรียมเอาไว้ไม่เพียงพอ จนเจ้าของโรงแรม และภรรยาที่เป็นเจ้าภาพ เจ้าของงานไม่มีเก้าอี้ที่จะนั่ง ต้องกระเด็นกระดอนออกไปจากวงแถลงข่าวไปแบบ งง งง

เข้าพบจุฬาราชมนตรี ไม่มีองค์กรทีาดูแลสนับสนุน
เข้าพบนายกรัฐมนตรี มีแต่คนที่ไม่ได้สนับสนุนอะไรมาก่อนเลย

ที่มาของการที่สมาคมฯเจ้ากี้เจ้าการกับชัยชนะของฮาซัน น่าจะมาจากในเพจของสมาคมฯ เป็นรายแรกที่โพสต์ชัยชนะของ “ฮาซัน” ทำให้หลายองค์กรติดต่อไปยังสมาคมฯ เพราะเข้าใจว่า เป็นเจ้าภาพ จึงประสานไปทางสมาคมฯโดยส่วนใหญ่ แต่สมาคมฯก็ควรให้เกียรติผู้ที่ผลักดันมาตั้งแต่ต้น อย่างกรณีการเข้าพบนายกฯ ควรจะใส่ชื่อ องค์กรเหล่านี้ไปด้วย อาทิ ดร.ปกรณ์ ปรียากร,คุณสามารถ มะลูลีม อ.ณรงค์ วงศ์สุมิตร และคุณพิพัฒน์ หลังปูเต๊ะ ตลอดจนอ.ซุกรี บันบา ในฐานะผู้ดูแลมาตลอด แม้กระทั่งวันที่เข้าพบนายกฯ ก็ยังดูแลเรื่องเสื้อผ้าหน้าผมโดยไม่ได้หวังอะไร ซึ่งจะเห็นว่า รายชื่อที่ทางสมาคมฯเสนอเพื่อเข้าพบนายกฯ ประกอบด้วย
– นาย ศุภณัฐ สิรันทวิเนติ เลขาธิการ ศอ.บต.
– อิหม่ามสนิท เอี่ยมฤทธิ์ นายกสมาคมกอรีแห่งประเทศไทย ในอุปถัมภ์จุฬาราชมนตรี
– อ.ชารีฟ (ประสาน) ศรีเจริญ รองประธานคณะผู้ทรงคุณวุฒิสำนักจุฬาราชมนตรี
– อ. รชต ลาตีฟี ผู้ประสานงานองค์กรอิสลาม
– อ. มิตร ดาราฉาย ประธานชมรมท่องจำกุรอ่านกรุงเทพมหานคร

โชคดีที่บุคคลที่เอ่ยชื่อมา ดร.ปกรณ์ อ.ณรงค์ คุณพิพัฒน์ หรืออ.ซุกรี มีความเป็นผู้ใหญ่ ที่ไม่ออกมาฉีกหน้าสมาคมฯ และมีการทำงานเน้นที่ผลของงาน และนิ่งเฉยต่อปรากฏการณ์การ “แย่งซีน” กันขนานใหญ่ เพียงแต่แสดงความยินดีแบบเงียบต่อทั้ง 2 คน

สมาคมฯน่าจะรู้ถึงบทบาทของตัวเองดีว่า ได้ทำอะไรบ้างต่อกรณีของการประกวดท่องจำอัลกุรอ่านฯบ้าง

บอกกล่าวมา เพื่อให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องและสังคมมุสลิมได้รับรู้ว่า ความเป็นจริงเป็นอย่างไร เพื่อความสะอาดโปร่งใส!