มรสุม ถล่ม อ่าวประจวบ คลื่นสูงกว่า 4 เมตร กระหน่ำชายหาด พังราบ ชาวประมง ต้องนำเรือจอดลอยลำ หนีพายุ แต่ยังมีบางส่วน ยอมเสี่ยงตายไปจับ ปลากุเลา วางอวน ปูม้า หาเลี้ยงชีพ ด้านแกนนำชาวบ้าน จี้ กรมเจ้าท่า เร่งสร้างเขื่อนให้เสร็จ หลัง ผู้รับเหมาทิ้งงาน
วันที่ 29 พ.ย.62 สำนักงานอุตุนิยมวิทยา ประจวบคีรีขันธ์ รายงานถึงอิทธิพลของมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้มีกำลังแรง ทำให้ คลื่นลมในท้องทะเลอ่าวประจวบคีรีขันธ์ มีคลื่นสูงประมาณ 4 เมตร ซัดเข้าหาชายฝั่งอย่างรุนแรงต่อเนื่องเป็นวันที่สอง ตลอดแนวตั้งแต่กองบิน 5 ถึง วนอุทยานเขาตาม่องล่าย ระยะทาง 8 กม. หลายจุดมีน้ำเจิ่งนองถนนเลียบชายทะเล แต่รถทุกชนิดยังสามารถสัญจรได้
ขณะที่ผู้ประกอบร้านค้า ร้านอาหาร ริมถนนเลียบชายหาด ต้องปิดกิจการชั่วคราว เช่นเดียวกับ ผู้ประกอบการเรือประมงพาณิชย์และชาวประมงพื้นบ้านต้องนำเรือมากกว่า 100 ลำไปจอดหลบลมมรสุม ในพื้นที่ปลอดภัยบริเวณเชิงเขาตาม่องล่าย เชิงเขาล้อมหมวก ด้านหน้าวัดอ่าวน้อย และ คลองบางนางรม เพื่อป้องกันความเสียหาย
นายจิรศักดิ์ มีฤทธ์ ชาวประมงพื้นบ้านคั่นกระได ต.อ่าวน้อย อ.เมือง กล่าวว่า จากปัญหาคลื่นลมแรงทำให้เรือประมงพื้นบ้านต้องหยุดทำกินนานกว่า 7 วัน สร้างความเดือดร้อนพอสมควร แต่ยังมีชาวประมงบางส่วนออกเรือจับปลากุเลา และวางอวนปูม้าในระยะห่างฝั่ง 5- 6 ไมล์ทะเล
ด้านนายจรัญ ศรีชะเอม แกนนำชาวบ้าน ทุ่งประดู่ ต.ทับสะแก อ.ทับสะแก กล่าวว่า ขณะนี้ชาวบ้านที่อาศัยริมหาดวิตกผลกระทบจากคลื่นทะเลพัดรุนแรงต่อเนื่อง โดยมีการวางถุงบิ๊กแบ๊กกว่า 1000 ชุดในจุดที่มีบ้านเรือน เพื่อบรรเทาความเสียหายชั่วคราว แต่ล่าสุดคลื่นทะเลสูงกว่า 3 เมตร มีกำลังแรงพัดข้ามแนวบิ๊กแบ๊ก อาจส่งผลให้เกิดความเสียหายได้ทุกขณะ จึงติดตามสถานการณ์อย่างต่อเนื่อง ขณะที่ข้อเรียกร้องให้กรมเจ้าท่า แก้ปัญหาระยะยาว ด้วยการเร่งก่อสร้างเขื่อนเรียงหินจากงบ 60 ล้านบาทให้เสร็จตลอดแนวชายหาดทุ่งประดู่ หลังจากผู้รับหมาทิ้งงานตั้งแต่เดือนธันวาคม 2561 ปัจจุบันยังไม่มีความคืบหน้า