“ศักดิ์สยาม” พบ พิรุธ อื้อ 9 ข้อ สั่ง จนท. ฟื้นคดี “โฮปเวลล์” ลั่นไม่ยอมเสีย “ค่าโง่” รอบสอง

215

รมว.คมนาคม แจง กมธ.กฏหมายฯ สภา พบพิรุธ 9 ข้อ ทำให้ไทย พ่ายคดี”โฮปเวลล์” เตรียมรื้อคดี ร้องศาล ลั่น ไม่ขอจ่าย”ค่าโง่” 2.4 หมื่นล้าน ให้ เอกชน ขณะที่ นายกฯ สั่ง “วิษณุ” ศึกษาข้อมูล ช่วยสู้คดี

นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม แถลงภายหลังเข้าชี้แจงต่อ กรรมาธิการการกฎหมาย การยุติธรรม และสิทธิมนุษยชน สภาผู้แทนราษฎร กรณี การจ่ายค่าชดเชย จำนวน 2.4 หมื่นล้านบาท แก่ บริษัทโฮปเวลล์ (ประเทศไทย) จำกัด เมื่อวันที่ 27 พ.ย.ที่ผ่านมาว่า หลังจากเข้ามารับตำแหน่ง ได้ตั้งคณะกรรมการศึกษากรณีการจ่ายค่าชดเชยให้บริษัทโฮปเวลล์ ซึ่งได้รับข้อมูลจากผู้ที่หวังดีต่อประเทศชาติ เล็งเห็นว่าหากจะจ่ายเงินให้โครงการดังกล่าว เป็นเรื่องที่ถูกต้อง อีกทั้งยังพบข้อพิรุธหลายประการที่หน่วยงานของรัฐ ไม่นำไปเป็นคู่ต่อสู้คดีในช่วงที่ผ่านมา

ซึ่งพิรุธที่ว่านี้ มี 9 ข้อ คือ

1.วันที่ 6 ต.ค.32 รายละเอียดโครงการไม่ตรงตามมติ ครม.

2. วันที่ 16 ต.ค.32 การดำเนินงานของคณะกรรมการฯ รวดเร็วผิดปกติ และให้สิทธิประโยชน์มากกว่าตามหลักการที่เป็นมติ ครม.

3. วันที่ 15 ม.ค.33 มีการแทรกแซงรายละเอียดโครงการโดย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ในขณะนั้น และคณะกรรมการฯ มีการเอื้อประโยชน์ให้โฮปเวลล์ฮ่องกง

4. วันที่ 31 พ.ค.33 โฮปเวลล์ฮ่องกง เสนอเงื่อนไขไม่ตรงตามประกาศของคณะกรรมการฯ

5.วันที่ 6 ก.ค.33 มีความผิดปกติในการร่างสัญญาสัมปทาน และ การลงนามในสัญญาสัมปทาน

6. ส.ค.-พ.ย.33 มีการเอื้อประโยชน์ในการจดทะเบียน จัดตั้งบริษัท โฮปเวลล์ (ประเทศไทย) จำกัด และหลีกเลี่ยงการใช้ประกาศของคณะปฏิวัติ ฉบับที่ 28 (ปว.281) โดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย

7. เมื่อวันที่ 9 พ.ย.33 การลงนามในสัญญาสัมปทานไม่เป็นไปตามมติ ครม.

8.วันที่ 4 ธ.ค.33 มีการรายงานเท็จต่อครม.

9. บริษัท โฮปเวลล์ (ประเทศไทย) จำกัด ไม่มีสิทธิได้รับการส่งเสริมการลงทุนจากคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน

นายศักดิ์สยาม ยืนยันว่าทั้ง 9 ข้อ เป็นข้อมูลใหม่ที่จะฟ้องต่อศาลให้สัญญาเดิมเป็นโมฆะ เพื่อที่จะได้ไม่ต้องเสียเงินแผ่นดิน หรือค่าโง่ จำนวน 2.4 หมื่นล้านบาท ซึ่ งกระทรวงคมนาคม จะต่อสู้เรื่องนี้จนถึงที่สุด โดยตนได้นำเรื่องดังกล่าวรายงานต่อ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี รับทราบแล้ว โดยนายกรัฐมนตรี กำชับให้ดำเนินการเรื่องนี้อย่างรอบคอบ และให้นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ศึกษาข้อมูลควบคู่ด้วย