ประชัย เลี่ยวไพรัตน์ สอนมวยแบงก์ชาติ ต้องค่าเงินลงก่อนประเทศจะหายนะ ระบุ หากค่าเงินลด ธุรกิจไทยจะแข่งขันได้ มีกำไร มีการจ้างงาน มีการใช้จ่ายเพิ่ม รัฐบาลเก็บเงินได้เพิ่มขึ้น เศรษฐกิจจะดีขึ้น
นายประชัย เลี่ยวไพรัตน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัท ทีพีไอโพลีน จำกัด(มหาชน) โพสต์ข้อความระบุว่า ธนาคารแห่งประเทศไทย(แบงก์ชาติ)คงเรียนมามากจนลืมไปว่า GDP (การเติบโตทางเศรษฐกิจ) ประกอบด้วยอะไรบ้าง การกระตุ้น GDP ส่วนใหญ่ต้องมาจากนโยบายการเงินชื่ง อยู่ในอำนาจหน้าที่ของแบงก์ชาติ การบริหารนโยบายการเงินที่สามารถกระตุ้นตัวเลข GDP สำหรับประเทศไทยอันดับแรกนอกจากการลดอัตราดอกเบี้ยแล้วได้แก่ การเร่งผลต่างตัวเลขส่งออกหักด้วยตัวเลขนำเข้าให้เกินดุลมากขึ้น ตัวเลขนี้ก็ขื้นอยู่กับอัตราแลกเปลี่ยน ถ้ายอมให้อัตราแลกเปลี่ยนอ่อนตัวลงใกล้เคียงกับคู่แข่งต่างชาติเราก็สามารถเพิ่มตัวเลขนี้ได้ โดยแบงก์ชาติต้องจ่ายเงินบาทเพิ่มขึ้นเฉพาะส่วนเกินดุลที่เป็นเงินตราต่างประเทศที่แบงก์ชาติเก็บเอาไว้
‘ผลตามมาคือการว่าจ้างแรงงานดีขึ้น คนมีเงินใช้จ่ายมากขึ้นทำให้ ตัวเลขCONSUMPTION(การอุปโภคบริโภค)ก็เพิ่มขึ้น โดยแบงก์ชาติต้องเลิกสั่งธนาคารพาณิชย์บีบการให้สินเชื่อผู้บริโภคLTV ตัวเลขต่อมาคือPRIVATE INVESTMENTหรือ การลงทุนภาคเอกชนจะเพิ่มขึ้นเพราะความต้องการสินค้ามีมากขึ้น และเมื่อมีกำไรนักธุรกิจทั้งไทยและต่างชาติก็กล้ามาลงทุน การที่บริษัทมีกำไรมากขึ้น รัฐบาลก็จะเก็บภาษีได้มากขึ้น งบประมาณรายจ่ายร้ฐบาลGOVERNMENT SPENDINGก็สามารถเพิ่มมากขึ้นตามนโยบายการคลังที่รัฐต้องการได้โดยรัฐบาลไม่ต้องขาดดุลชำระเงินให้เสียเสถียรภาพเงินคงคลังของรัฐ’ นายประชัย ระบุ
สรุปแล้วถ้ารัฐบาลจะกระตุ้นเศรษฐกิจจริงๆเพื่อให้เกิดเสถียรภาพเศรษฐกิจการเมือง ประชาชนอยู่ดีกินดี รัฐบาลจะปล่อยให้แบงก์ชาติใช้นโยบายการตลาดเสรีกับอัตราแลกเปลี่ยนไม่ได้ในเมื่อรัฐบาลคู่แข่งขันทางการค้าต่างชาติเขาใช้วิธึการทำให้ค่าเงินที่ผู้ส่งออกได้รับจากการส่งออกสินค้ามากขึ้นเพื่อลดต้นทุนผู้ส่งออกทำให้ผู้ส่งในไทยไม่สามารถแข่งกับต่างชาติได้ถึงขั้นต้องปิดโรงงาน พืชผลทางการเกษตรราคาตกต่ำ คนตกงานไปประกอบอาชีพไม่สุจริตติดคุกเพราะค้ายาเสพติด4แสนคน คนพวกนี้ แบงก์ชาติยังไม่ถือว่าเป็นคนตกงานUNEMPLOYEDอยู่อีกหรือ ถ้าสถานการเป็นอย่างนี้ต่อไปอีกมันจะกระทบเสถียรภาพทางการเมือง ดังนั้น เพื่อความสงบเรียบร้อยของประเทศและให้ประชาชนอยู่ดีกินดี รัฐบาลต้องสั่งแบงก์ชาติให้ปรับค่าเงินบาทลงมาอีก 10%ก่อนที่เกิดความหายนะกับประเทศไทยที่ยากแก่การเยียวยา