ปธ.สภา ระบุ กรณี สภาล่ม2ครั้งติด เป็น อุบัติเหตุที่ทุกฝ่ายต้องร่วมรับผิดชอบ ปัดตอบ จะเกิดขึ้นอีกหรือไม่ บอกเป็นสิทธิฝ่ายค้าน วอล์คเอ้าท์ แต่ รัฐบาล ในฐานะเสียงข้างมาก ต้องเรียกสมาชิกมาให้ครบ
เมื่อวันที่ 28 พฤศจิกายน 2562 ที่รัฐสภา เกียกกาย นายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึงกรณีที่องค์ประชุมสภาฯ ล่มเป็นครั้งที่ 2 ว่า ตนไม่มีอะไรจะพูด นอกจากเป็นเพราะองค์ประชุมไม่ครบ ส่วนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจะส่งผลทำให้สภาเสียหายหรือไม่ ตนคิดว่าเป็นเรื่องที่พูดยาก เพราะสภาต้องร่วมกันทำงาน ส่วนการลงมติใหม่นั้น ตนก็บอกแล้วว่า ข้อบังคับการประชุมเป็นอย่างไรก็ต้องปฏิบัติตามนั้น ถ้าไม่ปฏิบัติ ตนก็ทำผิด ซึ่ง นายปิยบุตร แสงกนกกุล ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคอนาคตใหม่ (อนค.) ก็พูดว่าตนทำถูกต้อง เพราะไม่มีวิธีอื่น การลงคะแนนใหม่ทำได้วิธีเดียว ตามข้อบังคับการประชุม ข้อที่ 83(2) ให้ขานชื่อ ซึ่งกรณีดังกล่าวในอดีตเคยเกิดขึ้นบ้างแต่ในสภาสมัยนี้ ไม่เคยเกิดขึ้น ถือเป็นครั้งแรก
ส่วนกรณีที่หลายฝ่ายมองว่า รัฐบาลยกข้อบังคับการประชุมมาใช้เป็นแทคติกทางการเมืองหรือไม่นั้น นายชวน กล่าวว่า ฝ่ายรัฐบาลคงไม่เห็นด้วยกับผลการลงมติ จึงขอให้ลงใหม่ คงไม่ใช้แทคติดทางการเมืองอะไร แต่เป็นไปตามข้อบังคับ เหมือนกับรัฐมนตรีที่ไม่ตอบกระทู้ ซึ่งก็มีทุกสมัยเหมือนกัน หากในอนาคตมีสมาชิกขอให้ใช้ข้อบังคับการประชุมข้อที่ 85 ในการลงคะแนนใหม่เรื่อยๆ ก็ถือเป็นความรับผิดชอบของแต่ละฝ่าย เพราะต่อไปฝ่ายค้านก็มีสิทธินับคะแนนใหม่ได้ และประธานก็ไม่มีสิทธิที่จะหลีกเลี่ยงไม่ปฏิบัติตาม หากเห็นว่า ข้อบังคับมีปัญหา จะมีวิธีการอื่นหรือไม่ นอกจากการขานชื่อ ทุกฝ่ายก็ต้องคุยกัน
เมื่อถามว่า หากในอนาคตองค์ประชุมสภาล่มอีกจะมีวิธีการแก้ไขอย่างไร นายชวน กล่าวว่า วันหน้ายังมาไม่ถึง แต่เป็นหน้าที่ของทุกฝ่ายที่จะต้องรับผิดชอบร่วมกัน ไม่ใช่เฉพาะฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง เพราะประชาชนเลือกเรามาทำงาน เรามีหน้าที่ต้องมาทำงาน หากฝ่ายค้านยังยืนยันที่จะวอร์คเอ้าท์อีก ก็ไม่มีใครว่าอะไร เป็นเรื่องของรัฐบาล ในฐานะเสียงข้างมาก จะต้องนำสมาชิกมาให้ครบองค์ประชุม เมื่อวันที่ 27 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ที่มีองค์ประชุม เพียงแค่ 92 คน แต่ตนเห็นห้องประชุมมีสมาชิกอยู่หลายร้อยคน ถือเป็นการแสดงจำนงว่า ไม่อยากประชุมต่อ
ส่วนการที่องค์ประชุมสภาล่ม 2 ครั้งติดกันใน 2 วัน เป็นสัญญานว่างานสภาเริ่มเดินลำบากหรือไม่ นายชวน กล่าวว่า คิดว่า ก็แบบนี้ เดินคล่องบ้าง สะดุดบ้างเป็นธรรมดา ซึ่งตนพยายามเร่งงานให้ เพราะสมาชิกส่วนหนึ่ง เสนอญัตติด่วนขอตั้ง กมธ.วิสามัญศึกษาหาแนวทางการแก้ไขรัฐธรรมนูญ พ.ศ.2560 เข้ามา ตนก็พยายามเร่งเพื่อให้เข้าระเบียบวาระนี้ให้ได้ ซึ่งการประชุมเมื่อวันที่ 27 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ตนก็นั่งเป็นประธานทั้งวัน เพื่อไม่ให้มีปัญหาติดขัด ตั้งใจว่าตอนเย็นวาระด่วนเรื่องตั้ง กมธ.ศึกษาหาแนวทางการแก้ไขรัฐธรรมนูญ จะได้เข้า แต่ไม่นึกว่าจะเจออุบัติเหตุแบบนี้เกิดขึ้น