ระทึก!ศาลฎีกาจะจำคุก ‘เบญจา หลุยส์เจริญ’ อดีตรมช.คลังและพวก ไม่เก็บภาษี ‘โอ๊ค’

ศาลฎีกานัดฟังคำพิพากษา ‘เบญจา หลุยส์เจริญ’ อดีตรมช.คลังกับคนใกล้ชิดคุณหญิงอ้อ เก็บภาษี ‘โอ๊ค’ ทำให้รัฐเสียหาย กรณีขายหุ้นชินคอร์ป 79,000 ล้านบาท

วันนี้ เวลา 10.00 น. ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ศาลเดียวกับที่ยกฟ้องนายพานทองแท้ชินวัตร เมื่อวานนี้ นัดอ่านคำพิพากษาศาลฎีกา คดีที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ยื่นฟ้อง นางเบญจา หลุยเจริญ อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง สมัยรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร และอดีตรองอธิบดีกรมสรรพากร น.ส.จำรัส แหยมสร้อยทอง อดีตผู้อำนวยการสำนักกฎหมาย กรมสรรพากร น.ส.โมรีรัตน์ บุญญาศิริ อดีตผู้อำนวยการสำนักกฎหมาย กรมสรรพากร นายกริช วิปุลา นุสาสน์ ผู้อำนวยการสำนักกฎหมาย กรมสรรพากร และ น.ส.ปราณี เวชพฤกษ์พิทักษ์ คนใกล้ชิดเลขานุการส่วนตัวคุณหญิงพจมาน ณ ป้อมเพชร อดีตภรรยานายทักษิณ ชินวัตร เป็นจำเลยที่ 1-5 ในความผิดฐานร่วมกันเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหน้าที่หรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ หรือโดยทุจริต ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 กรณีไม่ให้นายพานทองแท้ ชินวัตร และ น.ส.พินทองทา ชินวัตร (คุณากรวงศ์) บุตรของนายทักษิณ ต้องเสียภาษีอากร หรือเสียภาษีน้อยกว่าที่จะต้องเสีย จากการซื้อหุ้นบริษัท ชินคอร์ปอเรชัน จำกัด เมื่อปี 2549 เสียหายกว่า 7,900 ล้านบาท

คดีนี้ ศาลอุทธรณ์พิพากษายืนตามศาลชั้นต้น นางเบญจา น.ส.จำรัส น.ส.โมรีรัตน์ และนายกริช มีความผิดฐานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 และ 83 จำคุกคนละ 3 ปี ส่วน น.ส.ปราณี มีความผิดฐานเป็นผู้สนับสนุนเจ้าพนักงานปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 และ 86 มีโทษ 2 ใน 3 ให้จำคุกเป็นเวลา 2 ปี และเมื่อพิเคราะห์พฤติการณ์แห่งคดีของจำเลยทั้งหมด จึงไม่มีเหตุให้รอการลงโทษ

วันนี้เป็นการนัดฟังคำพิพากษาของศาลฏีกาซึ่งเป็นศาลสูงสุดแล้ว ศาลพิพากษาออกมาอย่างไรก็ถือเป็นที่สุด