“อนุทิน” กร้าว! อย่ามีวาระซ่อนเร้น ปม กรมวิชาการเกษตรฯ ยืด แบน 3สารพิษ

อย่ามีวาระซ่อนเร้น! “อนุทิน”เตือน “กรมวิชาการฯ”ยืดเวลาแบน3สารไปดูกม.ก่อน-นึกถึงประชาชนด้วย ยันมติกก.วัตถุอันตราย-เสียงสภาฯยี้หมดจด

วันที่ 25 พ.ย.62 นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวถึงกรณีที่กรมวิชาการเกษตรเสนอให้การแบน 3 สารพิษ ได้แก่ พาราควอต คลอร์ไพรีฟอส และไกลโฟเซต เลื่อนจากวันที่ 1 ธ.ค.62 ไปอีก 6 เดือน หลังทำประชาพิจารณ์ พบว่าประชาชน 75% ยังสนับสนุนให้ใช้สารเคมีทางการเกษตรต่อไป ว่า กระทรวงสาธารณสุขมีความชัดเจนเป็นอย่างยิ่งว่า อะไรก็ตามที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ ไม่สมควรให้ใช้ต่อไป ส่วนเรื่องสารทดแทนเป็นความรับผิดชอบของหน่วยงานอื่น สำหรับกระทรวงสาธารณสุข มีหน้าที่รักษาพยายาบาล ที่ผ่านมาเราเห็นผลกระทบจากการใช้สารพิษที่เลวร้าย ดังนั้น ตัวแทนของกระทรวงสาธารณสุข ในคณะกรรมการวัตถุอันตรายจึงตัดสินใจแบน

นายอนุทิน กล่าวต่อว่า หากดูภาพรวมของมติคณะกรรมการฯทั้งคณะจะพบว่า ฝ่ายที่แบนมีมากกว่าด้วยสัดส่วน 3 ต่อ 1 ถือว่าชัดเจนแล้วว่าผลออกมาเป็นอย่างไร ส่วนจะเลื่อนไปอีก 6 เดือน จะทำได้หรือไม่นั้น อยากให้ไปดูกฎหมาย แต่ขอวิงวอนว่าการจะทำอะไรต่อจากนี้ ขอให้ตั้งอยู่บนประโยชน์สูงสุดของประชาชน เรื่องสุขภาพเป็นเรื่องสำคัญ ขอให้ทุกฝ่ายทำงานบนความซื่อสัตย์ ไม่มีวาระซ่อนเร้น พืชผักผลไม้เป็นเรื่องที่ประชาชนบริโภคทุกวัน ต้องคิด ต้องตัดสินใจกันให้ดี

“ผมมั่นใจว่าคณะกรรมการวัตถุอันตราย ที่มีมติให้แบน 3 สารพิษ ต่างคิดมาดีแล้ว ส่วนใครที่ยกผลการทำประชาพิจารณ์มาสนับสนุนให้ใช้สารพิษต่อ ผมขอถามกลับว่า ในสภาฯซึ่งเป็นตัวแทนของประชาชน ยกมือสนับสนุนให้แบนสารพิษ 423 ต่อ 0 เห็นชอบกับผลการศึกษาของคณะกรรมาธิการพิจารณาผลกระทบการใช้สารเคมีการเกษตร ซึ่งผลการศึกษาระบุชัดว่า ต้องแบนสารพิษ และให้มีการเตรียมความพร้อมประเทศไทย เป็นเกษตรอินทรีย์ 100% ในปี 2573 เสียงของผู้แทนประชาชนออกมาแบบนี้ แล้วจะเอาอย่างไร ที่สุดแล้ว เรื่องแบนสารพิษจะเดินหน้าไปทางไหน ก็ต้องรอดูการตัดสินใจของคณะกรรมการวัตถุอันตราย” นายอนุทิน กล่าว