“ช่อ”เอาคืน “มาดามเดียร์ ” ยื่นกกต.-ศาลรธน. ตรวจสอบ โอนหุ้นสื่อหลังรับสมัครเลือกตั้ง 6 เดือน เทียบเคียงคดี “ธราธร” ชี้ต้องทำมาตรฐานเดียวกัน
วันที่ 22 พ.ย.ที่ รัฐสภา น.ส.พรรณิการ์ วานิช ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคอนาคตใหม่ แถลงว่า ได้มอบหมายให้ทนายความไปยื่นคำร้องต่อคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เพื่อให้ตรวจสอบคุณสมบัติและลักษณะต้องห้ามของการเป็นส.ส.ตามรัฐธรรมนูญของน.ส.วทันยา วงษ์โอภาสี ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ หลังตรวจสอบว่าแม้ น.ส.วทันยา จะเคยถือหุ้นสื่อ และได้มีการโอนหุ้นดังกล่าวออกไปแล้ว แต่พบว่ามีการยื่นสำเนาบัญชีรายชื่อผู้ถือหุ้น หรือแบบ บมจ.6 ซึ่งเป็นแบบบมจ.6ที่ใช้กับการแจ้งเปลี่ยนชื่อผู้ถือหุ้นในบริษัทจำกัดมหาชน ต่อกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ ในช่วงเดือนก.ย.2562 ภายหลังรับสมัครเลือกตั้งเป็นเวลา 6 เดือน
น.ส.พรรณิการ์ กล่าวว่า กรณีของน.ส.วทันยา เทียบเคียงได้กับกรณีของนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ ที่ต้องพ้นจากตำแหน่งส.ส.บัญชีรายชื่อ เพราะได้ยื่นสำเนาบัญชีรายชื่อผู้ถือหุ้นในบริษัทจำกัด หรือแบบ บอจ.5 หลังจากการรับสมัครเลือกตั้ง อันเป็นเหตุให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่านายธนาธร ยังคงมีหุ้นในบริษัทที่ประกอบกิจการสื่อสารมวลชนในวันสมัครรับเลือกตั้ง ดังนั้น เมื่อนำทั้งสองกรณีมาเทียบเคียงกัน จึงเป็นที่มาของการยื่นให้กกต.ตรวจสอบและส่งให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยสมาชิกภาพของน.ส.วทันยา พร้อมกันนี้ขอให้มีคำสั่งให้น.ส.วทันยา ยุติการปฏิบัติหน้าที่ชั่วคราวจนกว่าศาลรัฐธรรมนูญจะมีคำวินิจฉัยเช่นเดียวกับกรณีของนายธนาธร รวมไปถึงการดำเนินคดีในทางอาญาตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งส.ส.พ.ศ.2561 มาตรา 151 ด้วย โดยต้องระวางโทษจําคุกตั้งแต่1-20 ปี
“ถึงคุณวทันยาจะเข้ามาดำรงตำแหน่งส.ส.บัญชีรายชื่อภายหลัง แต่การวินิจฉัยคุณสมบัติและลักษณะต้องห้ามจะต้องพิจารณา ณ วันที่มีการสมัครรับเลือกตั้ง ไม่ใช่วันที่ได้รับตำแหน่งส.ส.บัญชีรายชื่อ” น.ส.พรรณิการ์ กล่าว