“ปิยบุตร” ลั่น! ขอใช้ สิทธิ ชำแหละ ศาลรธน. ชี้ “ธนาธร” ยังเป็น ผู้นำ”อนาคตใหม่” ท้าชิงเก้าอี้ นายกฯ ย้ำไม่เสียใจ รู้ล่วงหน้านานแล้ว ฉะ รบ.หมดเวลาฉายหนังม้วนเก่า อย่าเผาป่า เพื่อหวังฆ่าหนู พร้อมขอเสียงปชช.ตัดสินอนาคตประเทศ
20 พ.ย 62 นายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการพรรคอนาคตใหม่ ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยให้นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หน.พรรคความหวังใหม่ พ้นสภาพความเป็น ส.ส.ว่า ส่วนตัวขอใช้สิทธิเสรีภาพไม่เห็นด้วยต่อคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญ ถ้ามีคำวินิจฉัยของศาลฉบับเต็มออกมา ตนจำเป็นต้องใช้สิทธิวิพากษ์วิจารณ์ แต่ถึงแม้นายธนาธรจะถูกตัดสิทธิแต่ยังเป็นหัวหน้าพรรค เป็นผู้นำพรรค เป็นแคนดิเดทนายกรัฐมนตรี
ถ้าเมื่อไหร่ที่มีการลงมติเลือกนายกฯ นายธนาธร มีสิทธิที่จะได้รับการเลือก คำตัดสินครั้งนี้สมาชิกพรรค ไม่ได้เสียใจ ทุกคนยังทำหน้าที่ในสภาด้วยความยิ้มแย้ม นายธนาธรไม่ได้เข้าร่วมประชุมสภาตั้งแต่ต้นอยู่แล้ว แต่เสียดายโอกาสที่นายธนาธร ไม่มีโอกาสได้อภิปรายในสภาฯ ช่วงเดือนธ.ค.ที่จะมีการอภิปรายไม่ไว้วางใจ แต่นายธนาธร ยังเป็นตัวหลักในการเตรียมข้อมูลในการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล
ไม่ได้กังวลอะไร เพราะคิดไว้ตั้งแต่ตอนตั้งพรรคแล้วว่า ไม่ช้าก็เร็วเราคงเจอมรสุมแบบนี้ เราพร้อมสู้ทุกคดี จาก 25 คดีตอนนี้เหลืออีก 24 คดี หากจะมีมาเพิ่มอีกก็พร้อมสู้ หนังม้วนเก่าที่ฉายซ้ำๆมาหลายรอบแล้ว หมดเวลาฉายหนังม้วนเก่า ควรปิดกองถ่ายได้แล้ว ตกลงประเทศนี้จะลงทุนเผาป่าเพื่อฆ่าหนูตัวเดียวจริงๆหรือ
นายปิยบุตร กล่าวว่า เวลานี้ ส.ส.หลายคนที่มีคดีเกี่ยวกับสื่อก็ใจตุ้มๆต่อมๆ ว่าจะโดนแบบนี้หรือไม่ แต่มีส.ส.คนหนึ่งที่มีคู่สมรสทำสื่อ แต่ไม่กลัวและไม่ต้องลุ้น แต่อีกหลายคนต้องลุ้นทั้งๆที่ไม่ได้ทำธุรกิจเกี่ยวกับสื่อ หรือท้ายที่สุดรัฐธรรมนูญมาตรา 98 (3) ที่พยายามจะเป็นเครื่องมือขุคุ้ยและจับผิดนักการเมือง
เมื่อถามว่า นายธนาธรจะสามารถลงสมัครส.ส. ได้หรือไม่ นายปิยบุตร กล่าวว่า ตามรัฐธรรมนูญสามารถทำได้เพราะไม่ติดโทษห้าม แต่ตอนนี้พรรคยังไม่มีแผน
เมื่อถามว่ากกต.จะยื่นเรื่องดำเนินคดีทางอาญา นายปิยบุตร กล่าวว่า เราพร้อมสู้คดี จะมาอีกกี่มรสุม อีกกี่ระลอกก็ว่ามา ขอร้องว่าอย่าฉายหนังม้วนนี้ซ้ำ อยากอยากฝากทิ้งท้ายว่า เวลาจะทำอะไรให้นึกถึงประชาชนบ้างว่าเขาโอดร้องกันด้วยเรื่องอะไร
เมื่อถามว่าเรื่องนี้ มีเบื้องหน้าเบื้องหลังหรือไม่ นายปิยบุตร กล่าวว่า ต้องให้สาธารณชนตัดสิน เวลาศาลตัดสินอะไรจะปรากฎต่อสาธารณะ คงไม่ใช่ตนหรือนายธนาธรจะวิพากษ์วิจารณ์ แต่เป็นอำนาจของประชาชนที่เป็นผู้ทรงอำนาจที่สุดของประเทศ