BRN แถลงการณ์ ! เสียใจ ชรบ.15ศพ ชี้ ถูก รัฐสยามไทย ข่มเหง ลั่นต่อสู้ไม่จบสิ้น

บีอาร์เอ็น ออกแถลงการณ์ เสียใจต่อการสูญเสีย ชรบ.ลำพะยา ระบุ ไม่ต้องการขับไล่ชาวพุทธ หรือ มุสลิม แต่อยากให้เรียนรู้ว่าควรจะปฏิบัติตนเช่นไร ในแผ่นดินปาตานี ชี้ รัฐสยามไทย ใช้กำลังกดขี่ข่มเหงก่อน และยืนยันการต่อสู้จะไม่มีวันจบสิ้น

จากกรณีกลุ่มคนร้ายบุกยิงถล่มป้อมชรบ.บ้านทุ่งสะเดา ต.ลำพยา อ.เมือง จ.ยะลา กลางดึกวันที่ 6 พ.ย.ที่ผ่านมา ทำให้มีผู้เสียชีวิตถึง 15 ศพ บาดเจ็บสาหัสอีก 5 ราย ซึ่งนับเป็นความสูญเสียผู้เสียชีวิตมากที่สุดจากเหตุการณ์ความไม่สงบในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ล่าสุด วันนี้ (8 พ.ย.) กลุ่ม ‘บีอาร์เอ็น’ ได้ออกแถลงการณ์ครั้งแรก หลังเกิดเหตุกลุ่มคนร้ายบุกถล่มโหดป้อมชรบ.บ้านทุ่งสะเดา จนมีผู้เสียชีวิตถึง 15 ศพ สำหรับข้อความแถลงกรณ์ของกลุ่มบีอาร์เอ็น ระบุว่า

ขอความสันติสุขจงมีแด่ทุกท่าน

ขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งต่อการสูญเสียชีวิตของประชาชนชาวสยามพุทธ และประชาชนชาวมลายูในเหตุการณ์กองกำลังนักรบปาตานี

BRN ยังคงยึดมั่นในแนวทางสันติภาพที่มีความจริงใจในการปฏิบัติการทั้งหมด ไม่ใช่อย่างที่รัฐบาลสยามไทยกำลังดำเนินการ ฉากหน้าคือความพยายามพูดคุยอย่างสันติ แต่ฉากหลังได้สั่งกำลังพลทุกระดับชั้นดำเนินการทุกรูปแบบต่อประชาชนปาตานี ทั้งการอุ้มฆ่า,สังหารอย่างถูกกฏหมาย(พรก.และกฏอัยการศึก),เก็บตัวอย่างสารพันธุกรรมโดยที่ไม่มีการยินยอมและอื่นที่รัฐสยามไทยกำลังปฏิบัติการอยู่

สิ่งเหล่านี้เป็นตัวกระตุ้นสำคัญ ที่เรารัฐสยามได้วางเดิมพันสูงต่อกองกำลังนักรบของเรา ที่ล้วนแล้วมีศักยภาพพร้อม และพร้อมปฏิบัติการโดยทันทีตามการตัดสินใจของหัวหน้าชุดและสภาที่ปรึกษาในพื้นที่

ที่นี่…ดินแดนปาตานี แผ่นดินที่ถูกปล้นชิงและยึดครองตามรูปแบบในอดีตและการแสวงหาอาณานิคม และไม่มีการคืนดินแดนแก่เจ้าของดินแดนตามพันธสัญญาแองโกลสยามแต่อย่างใด

เราได้มีการปฏิบัติตามพันธสัญญาการต่อสู้ตามหลักอัลกุรอ่านและหลักสากลไปแล้ว ว่าด้วยการต่อสู้ในรูปแบบรัฐสภา โดยส.ส.อดุลย์ ณ สายบุรี และยื่นข้อเรียกร้อง 7 ข้อของท่านหะยีสุหลง อับดุลกอเดร์ ซึ่งเป็นการต่อสู้อหิงสาโดยพยายามหลีกหนีการกระทบกระทั่งให้น้อยที่สุด เป็นการต่อสู้ของประชาชนอย่างแท้จริง แต่สองท่านที่กล่าวถึงรวมทั้งทีมงานกลับถูกรัฐบาลสยามไทยสังหารและต้องหลบหนีไปยังประเทศเพื่อนบ้าน ถือเป็นเหตุการณ์ที่เป็นที่รู้จักของสังคมโลก

การสังหารหมู่ประชาชนและโยนศพทิ้ง ณ สะพานกอตอ โดยนาวิกโยธินของรัฐบาลสยามไทย และนำไปสู่การเดินขบวนที่มีประชาชนเข้าร่วมกว่า 100,000 คน #ด้วยสันติวิธี แต่ก็ลงท้ายด้วยการสังหารหมู่ของเจ้าหน้าที่สยามไทย

การเรียกร้องให้ปล่อยตัวชรบ.ที่ไม่มีศักยภาพในการป้องกันตนเองและรัฐสยามไทยกล่าวหาว่ามอบปืนให้กับนักรบปาตานี #เพื่อหาคนรับผิดชอบโดยที่เจ้าหน้าที่ต้องการหนีความผิด ก็ลงท้ายด้วยการสังหารประชาชนเสียชีวิต 85 ศพ สูญหายกว่า 36 ราย

การก่อตั้งขบวนการต่อสู้ ตั้งอยู่บนพื้นฐานของการต่อสู้ตามหลักอัลกุรอ่าน เมื่อถึงขีดสุดของการต่อสู้ด้วยสันติวิธีจนน้ำตาหลั่งรดผืนแผ่นดิน การต่อสู้ด้วยวิธีการที่สูงที่สุดจึงสามารถกระทำได้บนผืนแผ่นดินของตนเองและยุทธศาสตร์การรบ

แผ่นดินปาตานี คือ ผืนแผ่นดินอิสลามที่ถูกยึดครอง(ดารุลฮัรบี) เป็นแผ่นดินที่มีศึกสงครามนับแต่การเข้าปล้นชิงและยึดครองของสยามไทยจากอดีตจนปัจจุบัน ซึ่งการรบอาจไร้รูปแบบแต่มียุทธศาสตร์ที่มั่นคง

สำหรับประชาชนชาวมลายูปาตานี ท่านจงปฏิบัติตามอัลกุรอ่านและฮาดิษอย่างเคร่งครัด จงแยกให้ออกว่ามิตรและศัตรู ซึ่งในตำราการต่อสู้กับกาเฟรได้จำแนกแยกแยะในเรื่องต่างไว้ชัดเจน จงเรียนรูให้ถ่องแท้ก่อนที่จะตัดสินใจ

สำหรับประชาชนชาวมลายูพุทธ ท่านจงศึกษาการวิวัฒนาการและศึกษารากเหง้าของท่านให้ถ่องแท้ว่าท่านคือใคร

สำหรับประชาชนชาวสยามพุทธ ที่ถูกรัฐบาลสยามไทยนำเข้ามาเพื่อปฏิบัติตามนโยบายสลายและกลมกลืนทางชาติพันธุ์ของคนมลายูปาตานีในพื้นที่ ท่านจงศึกษาถึงประวัติศาสตร์การย้ายถิ่นฐานของท่านให้กระจ่างแจ้ง ก่อนที่จะตัดสินใจอะไรลงไป

เราไม่ต้องการขับไล่ประชาชนชาวสยามพุทธที่เกิดบนผืนแผ่นดินปาตานี แต่อยากให้ทุกท่านจงเรียนรู้ว่าควรจะปฏิบัติตนเช่นไรในผืนแผ่นดินปาตานี ซึ่งมีชาวมลายูมุสลิมและพุทธเป็นเจ้าของดินแดน

จงเรียนรู้ให้กระจ่างไม่ใช่เรียนรู้ด้วยใจที่อคติและถูกล้างสมองพร้องถูกปลูกฝังหรือหลอกลวงจากรัฐสยามไทยของท่านเพื่อรักษาอำนาจของตนเอง

การต่อสู้ของเราไม่มีวันจบสิ้น

BRN