พรรคปชป.มีมติเอกฉันท์ หนุน “อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ” นั่งประธานกมธ.แก้รธน. ส่ง “ชินวรณ์” กล่อมวิปรัฐบาล และ พรรคอื่นๆ โดยล่าสุด อดีต หน.พรรค ปชป.ตอบรับ พร้อมทำหน้าที่
วันที่ 5 พ.ย. เวลา 14.00 น. ที่พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) มีการประชุมส.ส.พรรค มีนายองอาจ คล้ามไพบูลย์ รองหัวหน้าพรรค ในฐานะประธานส.ส.พรรค เป็นประธานการประชุม โดยพิจารณาการเสนอญัตติตั้งคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญศึกษาปัญหาและแนวทางการแก้ไขรัฐธรรมนูญ สภาผู้แทนราษฎร รวมถึงกระแสข่าวการเสนอชื่อนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตหัวหน้าพรรค เป็นประธานกมธ.วิสามัญดังกล่าว
จากนั้นเวลา 17.00 น. นายราเมศ รัตนะเชวง โฆษกพรรค แถลงว่า ที่ประชุมพิจารณาแล้วเห็นว่าญัตติการศึกษาปัญหาและแนวทางการแก้ไขรัฐธรรมนูญเป็นเรื่องสำคัญ จึงมีมติ ดังนี้ 1.สนับสนุนให้ตั้งกมธ.ดังกล่าว 2.ที่ประชุมมีมติเป็นเอกฉันท์ พร้อมสนับสนุนนายอภิสิทธิ์ เป็นประธานกมธ.วิสามัญชุดนี้ หลังจากที่ประชุมหารือกัน เพราะเห็นว่านายอภิสิทธิ์ เคยเป็นนายกฯ เป็นผู้ที่ใช้รัฐธรรมนูญมาแล้วหลายฉบับ รวมถึงมีความสามารถผลักดันและดำเนินการให้เป็นผลสำเร็จได้
โดยที่ประชุมมติมอบให้นายชินวรณ์ บุณยเกียรติ ส.ส.นครศรีธรรมราช ในฐานะประธานวิปพรรค ไปพูดคุยทำความเข้าใจกับคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล (วิปรัฐบาล) พรรคร่วมรัฐบาล และพรรคอื่นๆ เพื่อให้ทุกพรรคเห็นพ้องต้องกัน เพราะการแก้ไขรัฐธรรมนูญเป็นเรื่องสำคัญและต้องได้รับความเห็นชอบจากทุกฝ่ายด้วย
นายราเมศ กล่าวอีกว่า สำหรับสัดส่วนกมธ.ชุดนี้ ประชาธิปัตย์ได้รับโควตา 4 คน ดังนั้น หลังจากกรณีนายอภิสิทธิ์ ก็เหลืออีก 3 คน ซึ่งพรรคจะพิจารณาคัดสรรต่อไป เพราะตอนนี้ยังมีเวลาเพียงพอ คาดว่าที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรจะมีมติให้ตั้งกมธ.ได้ในสัปดาห์หน้า ส่วนที่พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.)แสดงท่าทีคัดค้านการให้นายอภิสิทธิ์ เป็นประธานกมธ.ชุดนี้นั้น ที่ประชุมไม่ได้หารือกัน เพราะถือเป็นสิทธิ์ของเขา ซึ่งเราไม่ก้าวล่วงพรรคอื่น
รายงานข่าวจากคนใกล้ชิดนายอภิสิทธิ์ เผยว่า นายอภิสิทธิ์ ได้ตอบรับข้อเสนอนี้ โดยให้ขึ้นอยู่กับมติพรรคจะว่าอย่างไร สำหรับรายชื่อผู้ที่จะเป็นกมธ.อีก 3 คนยังไม่ชัดเจน เพราะส่วนหนึ่งต้องการให้นายอภิสิทธิ์คัดเลือกเอง แต่ที่ประชุมวางหลักเกณฑ์ว่าต้องเป็นผู้มีความรู้ ประสบการณ์ ความชำนาญด้านกฎหมายและรัฐธรรมนูญ เช่น นายบัญญัติ บรรทัดฐาน ส.ส.บัญชีรายชื่อ และอดีตหัวหน้าพรรค นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ รองหัวหน้าพรรค เป็นต้น โดยไม่พิจารณาแบ่งตามรายภาค
