‘ปารีณา’ นำชาวราชบุรี ยื่นหนังสือ ‘ธรรมนัส พรหมเผ่า’ ขอที่ดิน 500 ไร่ คืนจาก ‘สมพร จึงรุ่งเรืองกิจ’ ชี้เอกสารสิทธิที่ถือครองไม่ใช่ น.ส.3 ก ขณะเจ้าตัวเผย พร้อมคืนให้ 450 ไร่ มอบเป็น ‘ป่าชุมชน’แต่ยังติดปมเปลี่ยนชื่อในเอกสาร น.ส. 2
น.ส.ปารีณา ไกรคุปต์ ส.ส.ราชบุรี พร้อมด้วยชาวบ้าน อ.จอมบึง จ.ราชบุรี ยื่นหนังสือถึง ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมช.เกษตรและสหกรณ์ ขอที่ดิน 500 ไร่ คืนจากนางสมพร จึงรุ่งเรืองกิจ มารดา นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หน.พรรคอนาคตใหม่ เนื่องจากเอกสารสิทธิที่ถือครองไม่ใช่ นส.3 ก หรือ นส.3
น.ส.ปารีณา กล่าวว่า ที่ดังกล่าวไม่สามารถครอบครองเป็นเจ้าของได้ เพราะเข้าลักษณะป่าชุมชุน แต่กลับพบว่ามีผู้นำไปใช้เพื่อหาประโยชน์ ขณะที่ นายสมบูรณ์ ไทยทอง ผู้ใหญ่บ้าน กล่าวเพิ่มเติมว่า เดิมที่ดินนี้เป็นของสหกรณ์ แต่ที่ผ่านมาทั้งบริษัทและบุคคลทั่วไปมาซื้อขายกันมาหลายครั้ง
ด้าน ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า น่าจะมีปัญหาเกี่ยวกับการจัดสรรที่ดินของชาวบ้าน ตนขอตรวจสอบข้อเท็จจริงก่อน อย่างไรก็ตาม ตนระบุว่า พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตนรี ให้ความสำคัญกับเรื่องนี้
นางสมพร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานกลุ่มบริษัทไทยซัมมิท กล่าวว่า ที่ดินในพื้นที่ดังกล่าวได้ซื้อต่อมาจากบริษัท มิตรผล ตั้งแต่ปี 2534 และถือครองมาตลอด 28 ปี มีพื้นที่ทั้งหมด 3,500 ไร่ ซึ่งขณะที่ซื้อมามีหลักฐานกรรมสิทธิ์หลายแบบ ทั้งที่เป็น น.ส. 3ก, น.ส. 3, น.ส. 2 และ ภ.บ.ท5 และตลอดเวลาที่ถือครอง ไม่เคยเข้าไปในพื้นที่ แต่ให้เจ้าหน้าที่ดูแลเรื่องเอกสาร โดยมีครอบครัวคนเก่าคนแก่ของมิตรผลอยู่อาศัยอยู่ 2 ครอบครัว ซึ่งตลอดเวลาที่ผ่านมาไม่เคยมีปัญหา
กระทั่ง เมื่อเดือน ก.ค. ที่ผ่านมา มีผู้ใหญ่บ้าน เจ้าหน้าที่ป่าไม้ ติดต่อผ่านคนดูแลที่ดินมาแจ้งตนว่า ที่ดินแถบนั้นมีลักษณะเป็นที่ป่าสงวนและต้องการแปลงที่ดินแถบนั้นเป็นป่าชุมชนของหมู่บ้าน จะขอใช้เนื้อที่ประมาณ 400-450 ไร่ ซึ่งตนได้ให้เจ้าหน้าที่และทนายไปพูดคุยพร้อมกับแสดงเจตจำนงชัดเจนว่า ยินดียกพื้นที่ดังกล่าวให้กับชุมชน แต่เนื่องจาก สภาพที่ดินเนื้อที่ 400 ไร่เศษนั้น แบ่งเป็นเอกสารประเภท น.ส. 2 จำนวน 7 แปลง เนื้อที่ 350 ไร่ กับ ภ.บ.ท. 5 จำนวน 4 แปลง เนื้อที่ 100 ไร่ ต้นขั้วไม่ใช่ชื่อของตน จึงให้ทนายและเจ้าหน้าที่ไปคุยกับผู้ใหญ่บ้านในพื้นที่รวมถึงเจ้าหน้าที่ป่าไม้ว่า ต้องหาเจ้าของเดิมเพื่อดำเนินการเปลี่ยนชื่อให้เรียบร้อย จึงจะทำให้กรรมสิทธิ์ที่ดินเป็นของชุมชนอย่างถูกต้อง
“เวลาที่ผ่านมา ได้ให้เจ้าหน้าที่และทนายความหารือกับผู้นำชุมชน และเจ้าหน้าที่รัฐในพื้นที่มาตลอดในเรื่องกระบวนการส่งมอบ เพื่อให้ถูกต้อง เพราะดิฉันบอกตั้งแต่วันแรกที่มีคนมาแจ้งแล้วว่า ฉันยกให้ ไม่ติดขัดเลย แต่เพราะชื่อเดิมไม่ใช่ชื่อดิฉัน ดังนั้นก็ต้องจัดการเรื่องกระบวนการเอกสารให้เรียบร้อยก่อน แต่พอมามีประเด็นนี้ ดิฉันก็พร้อมจะชี้แจง และหากกล่าวหาดิฉันมากกว่านี้ ดิฉันก็พร้อมดำเนินการตามกฎหมาย” นางสมพร กล่าว