ชาวนครศรีธรรมราช ตื่นตัวต่อต้านการใช้เครื่องมือลี่ หรือเล่ และโพงพาง เครื่องมือประมงผิดกฎหมาย จับสัตว์น้ำแบบทำลายล้าง
นายพรศักดิ์ ศักดิ์ธานี ประมงจังหวัดนครศรีธรรมราช เปิดเผยว่า ในช่วงนี้จังหวัดนครศรีธรรมราช เริ่มเข้าฤดูมรสุม มีฝนตกหนักน้ำป่าไหลหลาก จะมีปลาต้นน้ำหลายชนิดลงมาวางไข่ พร้อมกับกระแสน้ำป่าที่ไหลเชี่ยว เช่น ปลาเลียหิน ปลาหมูแกะ ปลาแงะ ปลาขอทราย ปลาขี้ขม ปลาสร้อยนกเขา ซึ่งปลาต้นน้ำช่วงนี้มีไข่เต็มท้อง ราคาแพงถึง กก.ละ 600 บาทเป็นที่นิยมบริโภค
จึงมีผู้ลักลอบทำเครื่องมือลี่ หรือเล่ และโพงพาง กั้นลำคลอง จับปลา เมื่อสำนักงานประมงจังหวัดนครศรีธรรมราชได้รณรงค์ ประชาสัมพันธ์ ให้เลิกใช้เครื่องมือเหล่านี้และร่วมกับฝ่ายปกครอง นายอำเภอ กำนันผู้ใหญ่บ้าน ผู้นำทัองถิ่น รื้อถอนทำลายเครื่องมือที่กางกั้นลำน้ำเพื่อจับปลา ทำให้ผู้ใช้เครื่องมือจับปลาแบบดั้งเดิม เช่น ยกยอ วางข่าย ทอดแห หรือเบ็ดตกปลา ได้ปลามาบริโภคในครัวเรือน และเหลือขายในท้องถิ่นบ้าง ซึ่งวิธีการเหล่านี้ จะมีแม่ปลา เหลือวางไข่ตามธรรมชาติ เป็นการจับสัตว์น้ำเชิงอนุรักษ์ ตามวิถีดั้งเดิม’
นายพรศักดิ์ กล่าวว่า การกลับไปจับปลาแบบเั้งเดิม ส่งผลให้ผู้นำพื้นที่เห็นความสำคัญของการจับปลาแบบผิดกฎหมาย จึงสอดส่องดูแล และเมื่อพบมีการทำผิดก็รื้อถอนทำลายทันที จึงคาดว่าในปีต่อไปปลาในธรรมชาติของจังหวัดนครศรีธรรมราชจะเพิ่มขึ้นเห็นได้ในเชิงประจักษ์ และได้ฝากถึงผู้ที่ยังใช้ถุงโพงพาง หรือถุงอวน ตาข่ายดักปลาตามท่อลอดข้ามถนนในจุดต่างๆ ให้เลิกใช้ด้วย ให้ปลา และสัตว์น้ำได้กระจายไปวางไข่ตามท้องทุ่งเช่นอดีต หากยังพบเห็นให้แจ้ง กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ตำรวจ และประมงในพื้นที่ดำเนินการด้วย ความอุดมสมบูรณ์จะกลับคืนมาโดยเร็ว ดังคำกล่าว ในน้ำมีปลา ในนามีข้าว