ซูเปอร์โพล ระบุ ประชาชนรู้สึกเฉยๆ ถ้า พรรคอนาคตใหม่ “ถูกยุบ” ชี้ ไม่เกี่ยวข้องกับ ชีวิต และ ความเป็นอยู่ โดย คนส่วนใหญ่ รู้สึกผิดหวัง กับ นักการเมืองทั้งสองฝ่าย ที่ไม่สามารถ แก้ปัญหา ปากท้อง ได้หลังการเลือกตั้ง
นายนพดล กรรณิการ์ ผู้อำนวยการสำนักวิจัยซูเปอร์โพล นำเสนอผลสำรวจภาคสนาม เรื่อง คนคิดอย่างไรถ้าอนาคตใหม่ถูกยุบ กรณีศึกษาประชาชนทุกสาขาอาชีพทั่วประเทศ จำนวนทั้งสิ้น 1,097 ตัวอย่าง ดำเนินโครงการทั้งการวิจัยเชิงปริมาณ (Quantitative Research) และการวิจัยเชิงคุณภาพ (Qualitative Research) ระหว่าง 21 – 26 ตุลาคม พ.ศ. 2562 ที่ผ่านมา พบว่า
ประชาชนทุกกลุ่มทั้งเพศและช่วงอายุส่วนใหญ่รู้สึกเฉย ๆ ถ้าพรรคอนาคตใหม่ถูกยุบ โดยพบว่า ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 77.4 รู้สึกเฉย ๆ ถ้าพรรคอนาคตใหม่ถูกยุบ ในขณะที่ร้อยละ 10.5 ระบุมีผลดี และร้อยละ 12.1 มีผลเสีย และเมื่อจำแนกตามเพศ พบว่า ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 74.0 ของเพศชายและร้อยละ 79.8 ของเพศหญิงรู้สึกเฉย ๆ ถ้าพรรคอนาคตใหม่ถูกยุบ ที่น่าสนใจคือ แม้ในกลุ่มคนที่อายุต่ำกว่า 20 ปี ซึ่งเป็นกลุ่มที่ชื่นชอบพรรคอนาคตใหม่ ก็ให้คำตอบ ว่า”รู้สึกเฉยๆ” เช่นกัน
นายนพล กรรณิการ์ ผอ.ซูเปอร์โพล
ที่น่าพิจารณาคือ ประชาชนส่วนใหญ่หรือร้อยละ 71.9 ระบุสิ่งที่คนไทยควรได้รับการปลูกฝังและส่งเสริมคือ ทัศนคติที่ดี รองลงมาคือร้อยละ 54.4 ระบุการศึกษาที่ดี ร้อยละ 50.3 ระบุเป็นพลเมืองที่ดี ร้อยละ 36.9 ระบุมีงานทำที่ดี
นายนพดล กล่าวต่อว่า จากการสัมภาษณ์เจาะลึกเชิงคุณภาพต่อกรณีประชาชนรู้สึกเฉย ๆ ถ้าพรรคอนาคตใหม่ถูกยุบ พบว่า พรรคไหนถูกยุบตอนนี้จะรู้สึกเฉย ๆ เพราะไม่เกี่ยวข้องอะไรกับชีวิตความเป็นอยู่ และ ความเดือดร้อนที่กำลังเจอ นักการเมืองก็เหมือน ๆ กัน แย่ด้วยกันทั้งสองฝ่าย จึงต้องการให้นักการเมืองเร่งแก้ปัญหาเดือดร้อนของประชาชนที่เงินกำลังขาดมือ ทำมาหากินขัดสน ถ้าพรรคไหนทำงานดีช่วยเหลือประชาชน ย่อมได้รับความศรัทธา แต่ตอนนี้อะไรจะเกิดก็ให้เกิด เพราะรู้สึกผิดหวังกับการเมืองที่คิดว่าหลังเลือกตั้งจะดีขึ้นแต่กลับแย่ลง