อนค.แตกแล้ว! “นิรามาน” ทิ้งบอมบ์ ลาออก กก.บห. ปม”โหวตสวน”พรก.โอนกำลังพลฯ

อนาคตใหม่ แตกแล้ว! “นิรามาน​ สุไลมาน”  ยื่นหนังสือ”ทิ้งบอมบ์”ลาออกพ้น กก.บห.พรรค ยอมรับ มีมติ “โหวตส่วน” พรก.โอนกำลังพล กระทรวงกลาโหม ชี้ เป็นประเด็นอ่อนไหว และ ขอแสดงความรับผิดชอบ หลังมีกระแสวิพากษ์วิจารณ์กว้างขวาง

21 ต.ค 62 นายนิรามาน​ สุไลมาน​ ส.ส.บัญชี​รายชื่อ​ พรรคอนาคตใหม่(อนค.)​ได้ทำหนังสือจำนวน​ 2 หน้า​ แจ้งไปยังหัวหน้าพรรคอนาคตใหม่​ เรื่องขอลาออกจากกรรมการบริหารพรรคอนาคตใหม่​ ลงวันที่​ 19​ ตุลาคม​ โดยเนื้อความในหนังสือ​ดังกล่าวระบุว่า​ ตามที่ที่ประชุมใหญ่ก่อตั้งพรรคอนาคตใหม่ เมื่อ 27 พฤษภาคม 2561 ณมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ รังสิต พี่น้องสมาชิกชาวอนาคตใหม่ ได้มีมติเลือกผมให้เป็นกรรมการบริหารพรรค (ตำแหน่งสัดส่วนที่ประชุมใหญ) ซึ่งถือว่าเพื่อนสมาชิกได้ให้เกียรติเลือกผมเข้ามาเพื่อทำหน้าที่สำคัญทางการเมืองในนามพรรค ด้วยความเชื่อมั่นในแนวทางและอุดมการณ์ของพรรค

ทั้งนี้ก็เพื่อประโยชน์สูงสุดของประชาชนชาวไทย ตามครรลองของระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ซึ่งตลอดมาผมได้ทุ่มเทการทำงานร่วมกับพี่น้องทุกคนในพรรคอย่างสุดกำลังความสามารถ เพื่อสานฝันของพรรคอนาคตใหม่ให้เป็นความจริง

การประชุมส.ส. ในวันที่ 17​ ตุลาคม​ 2562​ มีวาระการลงมติร่าง​ “พรก.โอนอัตรากำลังพลและงบประมาณบางส่วนของกองทัพบก​กองทัพไทย​ กระทรวงกลาโหม​ ไปเป็น​ของหน่วยบัญชาการถวายความปลอดภัยรักษาพระองค์ ซึ่งเป็นส่วนราชการในพระองค์ พ.ศ. 2562” นั้น ผมมีความเห็นต่างต่อเสียง ส่วนใหญ่ของที่ประชุมส.ส.อนค.จำนวน​ 69 คน(เมื่อวันที่​ 16​ ต.ค.​62)​ ซึ่งมีมติคัดค้าน​ 2:1= 47 คน(ไม่รับ) และให้งดออกเสียง​ 21​ คน​ ส่วนเลขาธิการฯซึ่งดำเนินการประชุมขอใช้สิทธิงดออกเสียง

ซึ่งผมมองว่าเรื่องนี้เป็น “ประเด็นอ่อนไหว” ที่อาจส่งผลกระทบ (ที่รุนแรง) ต่อพรรคฯในอนาคตได้​ จึงเลือกใช้แนวทางที่ผมเชื่อมั่นว่าดีที่สุดคือ​ “การงดออกเสียง” และแนวทางดังกล่าวก็สอดรับกับเสียงส่วนใหญ่ของการประชุมหารือของคณะกรรมการบริหารพรรคเมื่อค่ำวันที่​ 8​ ต.ค.​ 62​ และก็เป็น​ “ทางออก” ที่เลขาธิการพรรคได้เปิดช่องเอาไว้​ หากสมาชิกท่านใดรู้สึกอึดอัดหรือไม่สบายใจ

 

ท้ายที่สุด ผลการลงมติของ ส.ส. พรรคฯในประเด็นดังกล่าว ก็ผิดไปจากความเห็นส่วนใหญ่ของคณะกรรมการบริหารพรรค ซึ่งผมมองว่าเป็นเรื่องที่ผมไม่อาจจะยอมรับได้ และภายหลังที่ผมได้แสดงจุดยืนทางการเมืองคือการเลือกปฏิบัติตามคำแนะนำที่จะไม่เข้าไปใช้สิทธิออกเสียงในประเด็นดังกล่าวนี้​ ก็ได้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวาง​ ซึ่งโดยสัญชาติญาณของนักสู้เพื่อความถูกต้องและเป็นธรรม ผมไม่เคยหวั่นไหวต่อความเห็นในทางลบใด ๆ เพราะเมื่อเราก้าวมาเป็นบุคคลสาธารณะแล้ว สังคมย่อมมีสิทธิที่จะวิพากษ์วิจารณ์ได้

แต่เมื่อมองผลกระทบที่อาจมีต่อพรรคอนาคตใหม่​ ซึ่งเป็นพรรคที่เป็นความหวังและความฝันสุดท้ายของประชาชน​ ผมเกรงว่าประเด็นของผม อาจเป็นชนวนแพร่ขยายความไม่เข้าใจระหว่างพี่น้องสมาชิกพรรคอนาคตใหม่มากขึ้น

ดังนั้น​ เพื่อเป็นการรักษาภาพลักษณ์ของพรรคเรา ในฐานะกรรมการบริหารพรรคและสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรของพรรคอนาคตใหม่​ ผมจึงขอแสดงความรับผิดชอบลาออกจากตำแหน่งกรรมการบริหารพรรค​ โดยให้มีผลนับตั้งแต่วันที่ 19 ตุลาคม​ พ.ศ. 2562 นี้​ เป็นต้นไป​ เพื่อให้เป็นบรรทัดฐานการทำงานต่อไป