ขออยู่ตรงกลาง! ซูเปอร์โพล ชี้ ผลสำรวจมากสุด 63.2% คนไทย ไม่เอา “รบ.-ฝ่ายค้าน”

ซูเปอร์โพล สำรวจความเห็น ภาพรวมการอภิปราย พ.ร.บ.งบฯปี2563 พบส่วนใหญ่ 63.2% ขออยู่ตรงกลาง ไม่เอาทั้งฝ่ายค้านและรัฐบาล โดยอยากให้จัดสรรงบฯด้าน “สุขภาพ-การศึกษา” มากที่สุด 

20 ต.ค. 2562 นายนพดล กรรณิกา ผู้อำนวยการสำนักวิจัยซูเปอร์โพล (SUPER POLL) นำเสนอผลสำรวจภาคสนาม เรื่อง งบปี 63 ประชาชนหนุนใคร กรณีศึกษาประชาชนทุกสาขาอาชีพทั่วประเทศ  1,069 ตัวอย่าง ระหว่าง 15 – 19 ตุลาคม พ.ศ.2562

เมื่อถามถึงความต้องการให้รัฐใช้จ่ายงบประมาณปี 2563 ช่วยเหลือประชาชนด้านต่าง ๆ พบว่า อันดับแรก หรือ ร้อยละ 65.9 ระบุด้านสุขภาพ เช่น รักษาฟรี หมอดี ยาดี บริการดี สร้างเสริมสุขภาพ รองลงมาคือร้อยละ 64.9 ระบุ ด้านการศึกษา เช่น เรียนฟรี เรียนสูง โรงเรียนดี ครูดี ช่วยเด็กยากจน ร้อยละ 59.8 ระบุ สร้างงาน เช่น คนไทยมีงานทำ ทักษะดี เงินดี มีหลักประกัน มีสุขพอเพียง

ร้อยละ 54.3 ระบุด้านความมั่นคง กองทัพ ตำรวจ ฝ่ายปกครอง เช่น ความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน แก้ปัญหาภัยพิบัติ สาธารณภัย ช่วยเหลือฟื้นฟูทั่วถึงไม่ตกหล่น ร้อยละ 50.8 ระบุ ด้านคมนาคม เช่น ความปลอดภัยทางถนน ซ่อมแซมติดตั้งสัญญาณไฟ บังคับใช้กฎหมายเข้มแก้คนขาดวินัยด้วยเทคโนโลยี ร้อยละ 48.2 ระบุ ช่วยเหลือธุรกิจขนาดกลางและเล็ก ช่วยให้ค้าขายได้คล่อง หากินไม่ขัดสน และร้อยละ 37.0 ระบุอื่น ๆ เช่น ช่วยเรื่องที่พักอาศัย ช่วยให้คนมีบ้านของตนเอง ตามลำดับ

ที่น่าสนใจคือ เมื่อถามถึงฝ่ายที่ประชาชนสนับสนุนในตอนนี้ พบว่า ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 63.2 ขออยู่ตรงกลางไม่เลือกข้าง เพราะแย่ทั้งสองฝ่าย รอดูผลงาน ในขณะที่ ร้อยละ 16.9 สนับสนุนฝ่ายรัฐบาล และร้อยละ 15.9 สนับสนุนฝ่ายค้าน

 

ผอ.ซูเปอร์โพล กล่าวว่า ผลโพลชิ้นนี้ชี้ให้เห็นประเด็นที่น่าสนใจคือ เสียงสนับสนุนของประชาชนต่อรัฐบาลสูงกว่าฝ่ายค้านอยู่ 1 เปอร์เซนต์เท่านั้นแต่ส่วนใหญ่ยังขออยู่ตรงกลางเพราะเห็นว่าแย่ด้วยกันทั้งสองฝ่ายรอดูผลงาน แต่ที่น่าพิจารณาคือการใช้จ่ายงบประมาณของหน่วยงานความมั่นคง กองทัพ ตำรวจและฝ่ายปกครองติด 1 ใน 5 ที่ประชาชนให้การสนับสนุนด้านความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน แก้ปัญหาภัยพิบัติ สาธารณภัย ช่วยเหลือฟื้นฟูทั่วถึงไม่ตกหล่น

ในขณะที่ประชาชนยังคงให้ความสำคัญต่อสุขภาพที่ได้รับการรักษาฟรี หมอดี ยาดี บริการดี รองลงมาคือ การศึกษาที่ต้องการให้เด็กเยาวชนเรียนฟรีเรียนสูงโรงเรียนดีช่วยเหลือเด็กยากจนมีโอกาสยกระดับชีวิตความเป็นอยู่และอนาคตที่ดีกว่า ในขณะที่ การมีงานทำ ทักษะดี เงินดี มีหลักประกันมั่นคง และด้านคมนาคมที่ประชาชนต้องการความปลอดภัยทางถนนมา