ผวจ.สระบุรี ให้การต้อนรับ คณะเยาวชน “สานใจไทยสู่ใจใต้” รุ่นที่ 36 โดยเปิดจวนต้อนรับอย่างอบอุ่น พร้อมจัดเลี้ยงอาหารเช้า เพื่อสืบสานปณิธาน ประธานองคมนตรี ผู่ก่อตั้งโครงการ และให้โอวาท ความรู้และประสบการณ์ที่ได้ไปปรับใช้ให้เกิดประโยชน์
นายแมนรัตน์ รัตนสุคนธ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสระบุรี พร้อมด้วย นางวรสุดา รัตนสุคนธ์ นายกเหล่ากาชาดจังหวัดสระบุรี นายสรพงษ์ เบ๊ะกี ประธานคณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัดสระบุรี พร้อมด้วย คณะกรรมการอิสลามจังหวัดสระบุรี และ หัวหน้าส่วนราชการ ได้ร่วมจัดเลี้ยงอาหารเช้าให้กับคณะเยาวชนภาคใต้ และ ครอบครัวอุปถัมภ์ ที่ บ้านพักผวจ.สระบุรี ตามโครงการ “สานใจไทยสู่ใจใต้” ที่ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรี เป็นผู้ริเริ่มโครงการ โดยเป็นรุ่นที่ 36 เมื่อ วันที่ 11 ต.ค.ที่ผ่านมา ก่อนที่คณะทั้งหมดจะเดินทางไปศึกษาดูงานในพื้นที่จังหวัดสระบุรี อาทิ การผลิตอาหารฮาลาล ของ บริษัท ซี พี เอฟ ประเทศไทย อำเภอแก่งคอย , องค์การส่งเสริมกิจการโคนมแห่งประเทศไทย อ.มวกเหล็ก จุดเริ่มต้นอาชีพพระราชทานการเลี้ยงโคนม รวมทั้ง เยี่ยมชมเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ ซึ่งเป็น เขื่อนดินกักเก็บน้ำยาวที่สุดในประเทศไทยแห่งแรกของประเทศไทย ตามแนวพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร
โดยการจัดเลี้ยงอาหารครั้งนี้ เพื่อเป็นขวัญและกำลังใจแก่ครอบครัวอุปถัมภ์และเยาวชนจากพื้นที่ใน 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้ (จชต.) ประกอบด้วย จังหวัดสงขลา สตูล ปัตตานี ยะลา และ นราธิวาส จำนวน 26 คน ซึ่ง มาอยู่กับครอบครัวอุปถัมภ์ ที่ สระบุรี มาตั้งแต่วันที่ 9 ต.ค.2562 โอกาสนี้ ผวจ.สระบุรี ได้มอบของที่ระลึกให้ เยาวชนจาก 5 จชต ทั้ง 26 คน พร้อมกล่าวให้โอวาทว่า
การเดินทางศึกษาดูงานครั้งนี้ เพื่อให้เยาวชนได้เรียนรู้วิถีชีวิต สภาพแวดล้อม ความเป็นอยู่ เก็บเกี่ยว เป็นประสบการณ์ชีวิตเพื่อเรียนรู้สภาพความเป็นอยู่ ขนบธรรมเนียมประเพณีวัฒนธรรม ในพื้นที่ภาคกลาง รวมทั้งสร้างความสัมพันธ์อันดีระหว่างเยาวชนและครอบครัวอุปถัมภ์ ให้เกิดความรักและความสามัคคีที่ดีต่อกัน และอยากให้เยาวชนทุกๆ นำประสบการณ์ความรู้ที่ได้ นำไปใช้ให้เกิดประโยชน์กับตนเองและในพื้นที่ จังหวัดชายแดนภาคใต้ต่อไป
สำหรับ จังหวัดสระบุรี ได้เข้าร่วมโครงการสานใจไทยสู่ใจใต้มาแล้ว 31 รุ่น คือ ตั้งแต่ รุ่นที่ 3 พ.ศ. 2549 ถึงรุ่น 36 ปี พ.ศ. 2562 โดยได้รับความอนุเคราะห์จากครอบครัวอุปถัมภ์ ในเขตพื้นที่อำเภอต่างๆ ตั้งแต่วันที่ 9 – 24 ต.ค.2562